
รามเกียรติ์ 92
ทศกัณฐ์ยิ้มชื่นชมข้าหลวงนางในที่เหมือนจะทำงานตามประสงค์ เดินเข้าไปในพลับพลาที่สีดาประทับอยู่ พญายักษ์ลงนั้งข้างนางสีดา แต่ชายาแห่งพระรามก็กระเถิบหนี จนทศกัณฐ์คว้ามือให้มานั้งใกล้ๆ แต่ตัวนางร้อนดั่งเพลิงจนขุนอสูรต้องชักมือออก
“นี่สีดาที่รักของพี่ พี่คิดถึงเจ้าทุกลมหายใจเข้าออก พี่มาขอโทษ มาของ้อให้เจ้าหายโกรธพี่ซะที ที่พี่พาเจ้ามาเพราะพี่รัก ที่พี่จัดให้เจ้าอยู่นี่ก็เพราะพี่หวง มามะยอมรับรักพี่ แล้วเจ้าจะได้อภิเษกเป็นอัครมเหสีคู่บัลลังค์แห่งลงกา” ทศกัณฐ์พูดพลางหยิบพัดขึ้นพัดเพราะรู้สึกว่าอากาศร้อนไปหมดเมื่ออยู่ใกล้นางที่รัก
สีดาได้ฟังคำหวานและข้อเสนอของทศกัณฐ์แต่กลับเบือนหน้าหนี หยิบไม้จากข้างตั่งมากั้นกลางระหว่างองค์กับพญาอสูรแล้ว ด่าแช่งไม้กระทบกระเทียบ “ไอ้ไม้เลว มึงอย่าคิดว่ามึงเก่งแล้วกูจะยอม กูยอมตายซะดีกว่าที่จะปันใจให้ชายอื่น เดี๋ยวพระรามสามีเราตามมา มึงต้องตายแน่ อย่ามาเสียเวลาพูดมากกับกูเลย” นางสีดาเบือนหน้าหนีไม่ยอมพูดจาต่อความด้วย “โถสีดาน้องพี่ ทุกถ้อยคำของเจ้าแสดงให้เห็นถึงไหวพริบเหนือหญิงใดที่ข้าเคยพบเจอ พี่ไม่ถือโกรธเจ้าหรอก สีดาอย่าอาลัยเจ้ารามมันนักเลย เพราะมันเป็นเพียงฤาษีจนๆที่เทียบกับพี่ไม่ได้ พี่คือราชาที่มั่งมีที่สุดในชมพูทวีป อย่าปฎิเสธพี่อีกเลยเห็นใจพี่เถอะนะคนดี”
นางสีดาหันกลับมาทันควัน ชี้ไปที่ไม้ท่อนเดิม “นี่เจ้าไม้ชั่ว อย่ามาพูดกับข้าให้เปลืองแรงเลย อย่ามาทำเป็นหัวเราะกลบเกลื่อนความอาย เดี๋ยวอีกไม่นานพระรามจะเสด็จมาทำลายล้างตอไม้อย่างใจให้ชิบหาย” ตั้งแต่เกิดมาทศกัณฐ์ไม่เคยถูกปฏิเสธจากสัตรีนางใดเลย เพราะที่ผ่านมามีผู้หญิงจากทั้งสามโลกเสนอตัวเพื่อตำแหน่งรานีแห่งลงกา แต่ครั้งนี้ทั้งอาย ทั้งอ่อนใจ ทำอย่างไรก็ไม่สามารถชนะใจสีดาได้ ยอมอสูรเริ่มหน้าแดงเพราะความเสียหน้าต่อหน้านางกำนัน จึงลุกสะบัดจากพระแท่นออกจากพลับพลาโดยไม่ลืมที่จะหันกลับมาทิ้งท้ายกับสีดาว่า
“วันนี้เจ้าพักผ่อนเถิด ข้าให้เวลาเจ้าหนึ่งปีในการหักใจจากพระราม เมื่อถึงเวลาข้าจะมารับเจ้าเข้าวัง และเวลานั้นเจ้าจะไม่มีโอกาสได้ปฏิเสธองค์ราชันผู้นี้อีกต่อไป” ก่อนจะขึ้นบุษบกแก้วทศกัณฐ์หันมาเอ็ดนางกำนัลที่ตามมาส่ง “หากคราวหน้าข้ามา แล้วสีดายังไม่ใจอ่อน พวกเอ็งเตรียมตัวถูกประหารได้เลย” พลันก้าวขึ้นราชรถกลับพระตำหนัก