รามเกียรติ์ 29

รามเกียรติ์ 29
กษัตริย์ทั้งสามเดินขึ้นรถม้าที่เตรียมไว้ อำมาตย์สุมันตันผู้มาจากสกุลอันภักดีต่อสุริยวงศ์มาหลายชั่วอายุคน (ในรามายณะให้ชื่อว่าสุมันตรา เป็นสารถีขับรถม้าไปส่ง) ระหว่างทางเข้าป่าประชาชนตามมาส่งยาวเหยียด จนลับตาฝูงชนเข้าไปในป่าลึก ข้ามลำธาร แม่น้ำสายตื่น ตลอดทางพระรามเล่าประวัติสถานที่ต่างๆให้สีดาฟัง

joker123

เช่นตอนขับรถทรงข้ามแม่น้ำโคมาต ท่านเล่าว่า “นี่คือแผ่นดินที่พระมนูต้นวงศ์ของพี่ได้มอบให้ราชาอิศวกุบุตรของท่านในกฤดายุค” ในรามายณะจะลงรายละเอียดมากมายจริงๆครับ บางช่วงเกี่ยวพันกันตำนานย่อยๆเรื่องอื่นอีกมากมาย

สล็อต

องค์รามสั่งให้หยุดรถและขอให้สุมันตันกลับไปอโยธยาเสียเถิด อำมาตย์ผู้ค้ำราชบัลลังอโยธยารีบกลับไปรายงานองค์ทศรถว่าได้ส่งทั้งสามพระองค์เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้ท้าวทศรถแทบจะไม่มีอะไรเหลือแล้ว เพราะด้วยน้ำตาหรือความเศร้า ขณะนี้กษัติย์ชราไม่สามารถมองเห็นอะไรอีกแล้ว ทรงเรียกนางเกาสุริยาและนางสมุทรเทวีเข้าเฝ้า

สล็อตออนไลน์

โดยยกเว้นนางไกยเกษี พระราชาทรงเรียกหาพระมเหสีเอกอย่างหมดแรง “เกาสุริยาเข้ามาใกล้พี่ กอดพี่หน่อย เพราะขณะนี้พี่มองอะไรไม่เห็นแล้ว พี่ขอโทษที่ปล่อยปะละเลยเจ้ามาตลอด พี่ขอโทษที่ลืมเมียที่เสมอต้นเสมอปลายเช่นเจ้า อภัยให้พี่เถิด” จากนั้นทรงรับสั่งเรียกหาสองฤาษีที่ปรึกษาคือวสิษฐ์ฤาษีและสมามิตรฤาษีผู้เป็นคุรุแห่งราชวงศ์ “พระครูทั้งสอง

jumboslot

ข้าเหลือเวลาอีกไม่มาก ข้าขอร้องว่าอย่าให้นางไกยเกษีและลูกของนางแตะต้องศพของข้าเด็ดขาด” นี่คือคำที่ท้าวทศรถสั่งเสียเป็นสิ่งสุดท้าย (แต่ในฉบับดั่งเดิมระบุว่าพระพรตเป็นประธานในพิธีถวายพระเพลิง) หลังจากที่พระรามออกเดินป่าเพียงแค่วันเดียว องค์ทศรถแห่งอโยธยาก็สิ้นใจด้วยความเศร้า

slot