รามเกียรติ์ 47
ทศกัณฐ์เป็นศิษย์มีครู พ่อเห็นแววแต่เด็กจึงส่งไปเรียนกับพระฤาษีโคบุตรผู้ที่เก่งมาก แต่ที่สำคัญท่านมีเมตตาจนกษัตริย์เทวดาทั้งสามโลกต้องเกรงใจ หลังจากที่ทศกัณฐ์แพ้พาลีสองครั้ง และวิธีการดำเนินชีวิตที่ผาดโผนจึงเห็นว่าควรถอดดวงใจออกจากร่าง เพราะจะได้ไม่มีใครฆ่าตาย จึงเชิญให้พระอาจารย์ฤาษีโคบุตรทำพิธีถอดดวงใจให้ โดยทศกัณฐ์เภาวนาพระนามทั้ง 1000 ของพระนารายณ์ (เอ้…. แต่พระนารายณ์จะมาเป็นศัตรูนะ) โดยใช้เวลาเจ็ดปี เจ็ดเดือน เจ็ดวัน เจ็ดชั่วโมง เจ็ดนาที จนดึงดวงใจของตนเองออกมาได้และใส่กล่องแก้วเอาไว้ แต่หากโมโหเมื่อใหร่ดวงใจก็จะวิ่งตรงเข้าร่างกายของทศกัณฐ์ทันที พระฤาษีโคบุตรจึงรับฝากดวงใจของทศกัณฐ์ไว้และเก็บอย่างมิดชิด
หากท่านผู้อ่านดูโขนจะเห็นว่าทศกัณฐ์จะเป็นตัวละครที่แต่งกายพิเศษกว่ายักษ์ตัวอื่นๆ คือจะมีชฎาสูงครอบทั้งสิบหน้าไว้ สิบหน้าแสดงถึงสิบสมองอันชาญฉลาด ทุกเศียรจะช่วยกันคิดและสามารถเห็นได้จากรอบด้าน อีกอย่างหนางคือ เกราะหรือจะเห็นเป็นสายคาดสีแดงที่หน้าอก มีเรื่องราวที่มาคือ พอทศกัณฐ์เริ่มมีฤทธิ์มากกว่าใคร จึงออกเกเรไปทั่ว อยู่มาวันหนึ่งอยากได้บุษบก (รถทรงเหาะได้) ของท้าวกุเปรันผู้เป็นพี่ชายต่างมารดา (ลูกแม่ใหญ่)
กุเปรันเป็นยักษ์รักสันโดดไม่มักในลาภยศ จึงถือศีลกินเจภาวนาสวมมนต์ จนพระอิศวรทรงโปรดปรานรับไปอยู่เป็นคนสนิท บุษบกวิเศษนี้คือสิ่งที่กุเปรันได้มรดกมาจากพ่อในฐานะพี่คนโตแต่ดูเหมือนท้าวลัสเตียนจะให้เป็นการปลอบใจที่ลูกชายคนโตต้องพลาดบัลลังก์ลงกามากกว่า
แต่หากหญิงม้ายขึ้นนั้งบุษบกจะไม่สามารถลอยได้ ทศกัณฐ์รู้สึกอยากได้พาหระวิเศษองค์นี้จึงเหาะไปคุกคามพี่คนโต กุเปรันรู้ว่าสู้น้องไม่ได้จึงรีบหนีไปเข้าเฝ้าพระอิศวร จังหวะนั้นทศกัณฐ์ตามมาพอดีหมายจะทำร้ายกุเปรัน พระอิศวรจึงถอดงาจากช้างทรงซัดไปที่อกทศกัณฐ์ หากเป็นคนอื่นคงตายคาที่แต่ด้วยความที่ไม่มีหัวใจอยู่ในร่างกายทศกัณฐ์จึงไม่ตาย พระอิศวรท่านสาปอีกว่า
งานี้จะไม่มีใครดึงออกจนกว่าวันใดที่ทศกัณฐ์เสียชีวิตด้วยศรพระนารายณ์ งานี้ถึงจะหลุดออกจากตัว แต่หน้าอกที่มีงาปักอยู่ก็ดูไม่งามเท่าไหร่นัก ทศกัณฐ์จึงเรียกหรือให้อำนาจข่มขู่มิทราบให้พระวิษณุกรรมมาเลื่อยงาออกให้และทำเกราะครอบไว้ สรุปทศกัญฐ์ได้ทั้งบุษบกและงาเป็นของแถม