รามเกียรติ์ 66
องค์รามถามว่า เป็นถึงพญาลิงมีชฎา ทำไมไม่อยู่ในวังมาอยู่ป่า สุครีพจึงเล่ายาวตั้งแต่ตัวเองเกิดว่าเป็นลูกพระอาทิตย์กับนางกาลอัจนา จนกลายเป็นลิง มาอยู่เมืองขีดขินกับพาลีผู้เป็นพี่ พาลีสู้กับทรพีแต่เข้าใจผิดในตนจนขับออกจากเมืองมาอยู่ป่า อยากให้พระรามช่วยตนให้ไปปราบพาลี พระรามก็ตกใจตอบไปว่า “เราก็อยากจะช่วยท่านในฐานะเป็นดั่งญาติ วงศ์ตระกูลแห่งอโยธยาขอเราสืบเชื้อสายจากพระอาทิตย์เช่นกัน แต่ท่านเป็นสุครีพและพาลีเป็นพี่น้องกัน มีปัญหาไม่เข้าใจกันเป็นเรื่องภายในครอบครัว
เราเป็นคนนอกไม่ควรเข้าไปก้าวล่วง เทวดา มนุษย์ วานรจะว่าเราได้” สุครีพจึงทูลต่อเล่าว่า “เมื่อครั้งที่ข้าพเจ้าทำความชอบโน้มเขาพระสุเมรุให้ตรง พระอิศวรได้ฝากนางดาราใส่พระอบแก่พาลีมาให้ และพาลีสาบานกับพระอิศวรว่าหากตนเก็บนางดาราไว้เองขอให้ต้องตายด้วยศรของพระนารายณ์ และพาลีก็ได้ทำผิดสัญญาที่ให้ไว้แก่พระองค์” พระรามเริ่มจำได้คลับคล้ายคลับครา จึงตกลงที่จะช่วยพญาสุครีพ แต่หากกำจัดพาลีแล้วสุครีพจะต้องนำกองทัพลิงไปบุกลงกากับพระองค์ ด้วยความที่สุครีพไม่มีทางเลือกมากนักจึงรับปากไว้ก่อน
แล้วทูลเชิญพระราม พระลักษณ์เสด็จไปขีดขินกับตน ขณะนั้นหนุมานเห็นท่าไม่ดี จึงขอตัวไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องระหว่างน้าทั้งสอง เพราะไม่สามารถทนดูน้าแท้ๆทั้งสองตนของตัวเองฆ่ากันเอง
สุครีพพาสองกษัตริย์มาถึงใต้ต้นไทรหน้าเมืองขีดขิน “ขอให้ทั้งสองพระองค์คอยอยู่ที่นี่ก่อน ข้าพเจ้าจะไปตามพาลีออกมา และพอท่านเห็นพาลีก็ขอให้แผลงศรต้องพญาลิงตามสัตย์ที่พาลีเคยให้ไว้” พระรามก็รับปากว่าหากพาลีมาจะช่วยสุครีพเอง สุครีพจึงเหาะไปเหนือปราสาทของพาลีและร้องท้าให้ออกมาสู้กัน นางดาราอยู่ในเหตุการณ์ด้วยจึงห้ามไม่ให้พาลีออกไปสู้เพราะสังหรว่าสุครีพที่เก่งอยู่แล้วจะมีแผนอะไรแอบซ่อนรึเปล่า
แต่พาลีไม่ฟังจึงเหาะออกไปสู้กับสุครีพที่นอกเมืองขีดขิน สองพี่น้องพญาวานรสู้กันอย่างไม่ยอมกันทั้งบนอากาศ และพบพื้นดิน แต่ด้วยฤทธิ์ของพาลีที่เหนือกว่าสุครีพไม่สามารถสู้ได้ จึงถอยร่นไปถึงต้นไทรที่พระรามยืนคอยอยู่ องค์รามประทับศรเล็งขึ้นฟ้าไปที่พญาลิง…..