รามเกียรติ์ 67
ตอนที่แล้วเล่าค้างไว้ถึง สุครีพเหาะไปท้ารบกับพาลี เพราะมั่นใจว่ามีพระรามช่วยอย่างแน่นอน……
สุครีพสู้กับพาลีอยู่นานทั้งบนอากาศและที่ราบ แต่ฝีมือของพาลีเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด สุครีพบุตรพระอาทิตย์โดยต่อย โดยถีบ ถูกกัดเข้าหลายแผล ไม่สามารถสู้พี่ได้เพราะพาลีได้พรจากพระอิศวรให้มีกำลังดั่งช้างสาร ไม่มีวันที่ใครจะฆ่าได้ สุครีพพยามถอยร่นไปในเขตต้นไทรเพื่อให้พระรามที่เตรียมยิงศรใส่พี่ชายตามที่สัญญากันไว้ แต่พระรามก็ไม่ยิงซะที จนพาลีได้จังหวะจะฆ่าน้องหลายครังแต่ก็ทำน้องไม่ลงจนสุดท้ายเริ่มจะอ่อนแรง (เบื่อที่จะตีน้อง) จึงทุ่มสุครีพไปยังเนินเขาจักรวาล ประจวบกับเวลานั้นพระอาทิตย์ที่ทนเห็นลูกตนเองถูกทำร้ายไม่ไหวเริ่มจะลับขอบฟ้าก่อนเวลาอันควร พญาพาลีจึงเหาะกลับสู่ขีดขิน
สุครีพประคองตัวเหาะกลับมาหาพระราม ต่อว่า “สหายแห่งข้า ท่านไม่ใช่คนดีอย่างที่ข้าคิด หลอกให้เราลวงพาลีออกมาสู้กัน หลอกให้เราเชื่อว่าท่านจะช่วย หลอกให้เรามั่นใจในตัวสหายอย่างท่าน….”
พระรามไม่ถือโกรธและอธิบายถึงเหตุผลที่ไม่แผลงศรให้ฟังว่า “อันท่านและพาลี มีลักษณะคล้ายกันมาก การต่อสู่ก็รวดเร็วจนเราไม่สามารถแยกแยะถูก เรากลัวจะพลาดแผลงศรไปถูกท่าน แล้วนั่นคือสิ่งที่เราจะเสียใจไปตลอดชีวิต สหายแห่งข้าพรุ่งนี้ท่านจงไปท้ารบพาลีเสียใหม่ นี่ชายผ้าของเรา จงผูกไว้ที่ต้นแขนของท่านเป็นสัญลักษณ์ว่าใครคือพญาสุครีพบุตรแห่งสุริยเทพ” พร้อมโอบกอดสุครีพเป็นการปลอบใจ สุครีพปาดน้ำตา พยักหน้าอย่างไม่มีทางเลือก
ในรามยณะสุครีพเล่าความลับของพาลีว่า “องค์ราม อวตารแห่งนารายณ์ข้ามีอะไรจะบอกท่าน สาเหตุที่ข้าลี้ภัยอยู่ในเขตป่าเขาฤายโมข พญาพาลีไม่สามารถล่วงเข้ามาในเขตป่านี้
เพราะได้ถูกฤาษีมัตตังสาปหลังจากที่มันต่อสู้กับควายอสูรนามทรพี บังเอิญเลือดของความได้หยดลงเปื้อนหลังคาอาศรมของท่านมุนี จนท่านโมโหและสาปให้พาลีต้องหมดเรี่ยวแรงเมื่อเข้ามาในเขตป่านี้ เราจะล่อให้พญาพาลีมาสู้รบกับเราในเขตป่านี้”