รามเกียรติ์ 79
ท้าวมหาชมพูทูลพระลักษณ์ว่า “อันไพร่พลของขีดขินมีอยู่ห้าสิบสมุทรไท และไพร่พลของนครชมพูมีอยู่เจ็ดสมุทรไท มีขุนวานรสิบแดมงกุฎ พร้อมขอภวายนิลพัทบุตรแห่งพระกาฬผู้เป็นหลานรัก” พระลักษณ์มองเท่าไหร่ก็ไม่เห็นจึงถามว่านิลพัทอยู่ที่ไหน ท้าวมหาชมพูจึงเรียกนิลพัทออกมาให้ถวายตัว นิลพัทกลับคืนสู่ร่างเดิมอันเป็นวานรขนสีนิลงามสง่า ดำขลับไปทั้งร่างกายตั้งแต่ศรีษะจนถึงเท้า พระรามเห็นหน่วยก้านแล้วยินดีรับไว้ พร้อมตรัสว่า “ข้าขอขอบใจท้าวมหาชมพูผู้เป็นมิตร ขณะนี้ท่านก็ชรามากแล้ว เราขอฝากเมืองชมพูและเมืองขีดขินให้ท่านดูแล และค่อยส่งเสบียงให้กองทัพวานรมิได้ขาด ทหารที่มาจากนครชมพู เราของมอบให้นิลพัทเป็นจอมทัพ อีกเจ็ดวันจงยกมาสมทบกับพลรบแห่งเมืองขีดขินของพญาสุครีพ”
ขอกล่าวถึงขุนกระบี่ของทั้งสองฝ่าย
ฝ่ายขีดขิน
• นำโดย พญาสุครีพ โดยขณะนี้เป็นราชาแห่งขีดขิน เป็นบุตรของพระอาทิตย์
• องคต เป็นอุปราชเมืองขีดขิน ผู้เป็นลูกของพญาพาลีและนางมณโฑ แต่ขณะอยู่ในท้องแม่ไม่กี่เดิอนก็ต้องถูกเอาไปฝากไว้ในครรภ์แพะ เพราะนางมณโฑถูกส่งคืนลงกา จึงเป็นลิงปากหุบ มียอดชฎากลีบบัว มีกายสีเขียวเหมือนพ่อ เก่งด้านการทูต (แต่ในรามายณะบอกว่าพระรามแต่งตั้งให้เป็นอุปราช แรกเริ่มคิดว่าสุครีพไม่รักและทนเห็นแม่ตกเป็นสมบัติของอาไม่ได้ จึงหนีออกจากเมือง ตอนหลังหนุมานไปตามกลับมาร่วมทัพ)
• หนุมาน ลูกพระพายไม่ชอบมีตำแหน่ง งานประจำ ชอบรับงานเป็นอย่างๆ สังเกตว่าจะเริ่มรักพระรามหลังจากที่ทรงลูกหลังให้ พลังกลับคืนมา (แต่ในรามายณะ พอหนุมานรู้ว่าเป็นพระนารายณ์ก็รักหมดใจซะแล้ว หนุมานยอมทำทุกภาระกิจโดยไม่มีคำถามเพราะทุกอย่างตั้งอยู่บนความรักแก่ศรีราม)
• ชมพูพาน มีร่างกายสีชมพู สวมชฎาเพราะมีฐานะเป็นบุตรบุญธรรมของพญาพาลี มีกำเนิดที่แปลกคือ ครั้งพระอิศวรปฎิบัติญาณจนเหงื่อไหลเต็มตัว จึงชุบวานรตนหนึ่งขึ้นจากเหงื่อไคลของพระองค์ และยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของพญาพาลี คอยช่วยราชการเมืองขีดขินต่อไป มีความรู้เรื่องยา จึงเป็นแพทย์ประจำกองทัพพระราม
ฝ่ายเมืองชมพู
• นำโดยนิลพัท ลูกพระกาฬ พรอิศวรประทานเป็นหลานบุญธรรมของท้าวมหาชมพู มีความเก่งกล้าสามารถมาก
• ชามพูวราช หรือชมพูหมี เป้นวานรสีแดงสวมมงกุฎ สามารถแปลงกายเป็นหมีได้ ตามตำนานเป็นลิงตัวแรกของโลก กล่าวคือมีต้นไผ่ผุดขึ้นมาเป็นต้นได้เองขณะที่ฤาษีสุขวัฒนบำเพ็ญเพียรอยู่ ฤาษีจึงนำไผ่ดังกล่าวไปถวายพระอิศวรเพราะเห็นเป็นของอัศจรรย์ พระอิศวรทรงนำไผ่ลำดังกล่างไปทำธนู พอลองโก่งธนู ก็หักเป็นสองท่อน โดยท่อนหนึ่งเกิดเป้นอสูรชื่อเวรัมภ์ ท่อนล่างกลายเป้นวานรชื่อว่านิลเกสรหรือชามพูวราช โดยชามพูวราชมีตำแหน่งเป็นผู้รู้ประจำเมืองชมพู ต่อมาเป็นผู้อวุโสที่ปรึกษาประจำกองทัพของพระราม เพราะด้วยมรอายุยืนยาวที่สุด ท่านจึงมีประสบการณ์จำเหตุการณ์ต่างๆ และทางแก้ไขกลยุทธต่างๆได้อย่างช่ำชอง
• นิลนนท์ บุตรพระเพลง ตัวสีแดงเพลิง มีฤทธิ์มากเช่นกัน สามารถเรียกไฟได้ตลอดเวลา
ต่อมาจะเป็นราบนามของขุนกระบี่สิบแปดมงกุฎ หมู่ที่เทพแต่ละองค์แบ่งภาคลงมา ทุกตัวจะไม่มียอดชฎา สวมมาลัยรักร้อยสีทองรอบหัว
- เกยูร สีม่วงแก่ ท้าววิรุฬหกเจ้าแห่งยักษ์ โลกบาบทางทิศใต้แบ่งภาคมาเกิดฝ่ายขีดขิน
- โกมุท สีดอกบัวโรย สีชมพู พระหิมพานต์ เจ้าแห่งป่าแบ่งภาคมาเกิดฝ่ายขีดขิน
- ไชยยามพวาน สีเทา พระอีศาณเทวบุตรแบ่งภาคมาเกิด พระอิศวรยังอวยพรให้ถือธงรบของกองทัพ เพราะมีชื่อเป็นมงคล ฝ่ายขีดขิน
- มาลุนทเกสร สีคราม หรือสีเมฆ ออกฟ้าๆสว่างๆ คือพระพฤหัสมาเกิด ฝ่ายขีดขิน
- วิมล สีดำหมึก แต่ปากหุบ พนะเสาร์แบ่งภาคมาเกิดเป็นฝ่ายขีดขิน
- ไวยบุตร สีเมฆครึ้มฝน ออกฟ้ากึ่งเทา เป็นพระพิรุณมาเกิด อยู่ฝ่ายขีดขิน
- สัตพลี ตัวสีขาวบางคนสับสนกับหนุมาน แต่สัตพลีปากหุบ หนุมานจะปากอ้า พระจันทร์แบ่งภาคมาเกิด อยู่ฝ่ายขีดขิน เก่งเรื่องการอักษร เขียนสารทางการทูตเก่ง
- สุรการต์ สีเหลืองดอกจำปา แบ่งภาคจากพระมหาชัย อยู่เมืองขีดขิน
- สุรเสน สีแสด แบ่งภาคจากพระพุธ ฝ่ายขีดขิน
- นิลขัน สีอิฐแก่ แบ่งภาคจากพระพิฆเนศ อยู่ฝ่ายเมืองชมพู
- นิลปานัน สีสำริด หรือส้มแก่ๆ แบ่งภาคจากพระราหู ฝ่ายเมืองชมพู
- นิลปาสัน สีหมาดสุก ออกส้มๆ แบ่งภาคจากพระศุกร์ มาเกิดที่เมืองชมพู
- นิลราช สีน้ำไหลหรือสีฟ้าอ่อน เป็นพระสมุทรมาเกิด ถูกฤาษีคาวินสาปว่าให้เป็นผู้ที่สามารถทิ้งสิ่งใดลงน้ำแล้วสิ่งนั้นจะจมอยู่กับที่ไปลอยไปมา นิลราชจึงเป็นผู้นำศิลาถมทะเลเพื่อสร้างเป็นถนนแต่ผู้เดียว อยู่เมืองชมพู
- นิลเอก สีทองแดงแก่ พระพินายแบ่งภาคมาเกิด ร่วมรบทุกศึก ฝ่ายเมืองชมพู
- วิสันตราวี สีแดงลิ้นจี่ เป็นพระอังคารมาเกิด ฝ่ายเมืองชมพู
- กุมิตัน สีทอง แบ่งภาคจากพระเกตุ (เทวดาพระจำวันพุธกลางคืน) ไม่แน่ชัดว่าเกิดเมืองไหน น่าจะเป็นฝ่ายเมืองชมพู
- เกสรทมาลา สีเหลืองอ่อน พระไพศรพณ์ แบ่งภาคลงมา เป็นลิงที่ตัวหอมต้องหยู่เหนือลมเวลาพระรามจะพักผ่อน ไม่แน่ชัดว่าฝ่ายใจ
- มายูร สีม่วงอ่อน คือท้าววิรูปักษ์โลกบาลประจำทิศตะวันตกแบ่งภาคมาเกิด น่าจะอยู่เมืองขีดขิน
บางตำรามีวานรเตียวเพชรอีก 9 นายคือลิงที่ไม่มีมงกุฎ หนือมาลัยทอง เพียงแต่สวมผ้าบิดเป็นเกรียวพันรอบหัว แบบชาวบ้าน
รวมกับทหารลิงอีก เจ็ดสิบสมทรไท ไม่ทราบจริงๆครับว่าเป็นจำนวนเท่าไหร่ (ผู้รู้ช่วยบอกด้วยครับ)
ทุกฝ่ายเหมือนจะพร้อมแล้ว จึงรวมพลกัน ณ เขาคันธมาทน์ ต่างโห่ร้อง ปี่กลองฆ้องเป่ากันหึกเหิม จอมทัพวานรคือพญาสุครีพ สั่งให้แปรกระบวนพยุหยาตรเป็นรูปครุฑราชเพื่อยอพระเกียติแก่พระราม
บังเอิญขณะจัดทัพมีคนธรรพ์ตนหนึ่งชื่อว่าประคนธรรพ์ เหาะแกว่งพระขรรค์แก้วผ่านมา (คนธรรพ์ คือเทพพวกหนึ่งมีความสามารถในการขับร้อง เล่นดนตรีบนสวรรค์ บางตนก็สู้รบเก่ง) ประหลาดใจทำเสียดังระทึกขนาดนี้ จึงเหาะลงไปดู เป็นที่สนใจขอพลลิงอย่างมาก
นิลขันนายหมู่จึงเดินเข้าไปถามว่ามาจากไหน “เราคือประคนธรรพ์ อยู่เชิงเขายุคันธร เห็นไพล่พลมากมายเลยโฉบลงมาถาม จอมทัพของท่านคือใครกัน” นิลขันไม่รอช้าเพราะอยากจะอวดศักดาอยู้แล้ว “พวกเราคือทัพแห่งพระนารายณ์อวตาร เรากำลังจะยกทัพไปบุกเมืองลงกา” เมืองคนธรรพ์ได้ยินว่าเป็นทัพของพระนารายณ์ก็ดีใจยิ่งนัก ขอให้นิลขันพาไปเข้าเฝ้า จนพระรามยินดียิ่งนักให้ประคนธรรพ์ร่วมทัพไปลงกาด้วย