รามเกียรติ์ 82
หนุมานพยักหน้ารับเข้าใจทุกความรู้สึกในแต่ละคำขององค์ราม พร้อมคลานออกและทูลลา….
พญาลิงทั้งสามนำโดยหนุมาน องคต ชมพูพานนำกองทัพลิงอีกจำนวนสองสมุทรออกตามหานางสีดา (ก็ยังไม่ทราบว่าหน่วย “สองสมุทร” จำนวนเท่าไหร่ครับ แต่ในพระราชนิพนธ์ของพระพุทธเลิศหล้านภาลัยบอกว่ามีทหารติดตามจำนวน ห้าร้อยตัว) กองทัพวานรเดินทางออกจากเขาคันธมาทน์ได้สักสามโยชน์จึงพบสระพันตา อันมีดอกบัวทั้งบานทั้งตูมอยู่เต็มสระ น้ำใสจนเห็นตัวปลาแหวกว่าย
ขุนกระบี่สั่งให้พักทัพอยู่ที่นี่ให้ลิงน้อยใหญ่ได้ลงเล่นน้ำพักผ่อนอิริยบท ปักหลั่นยักษ์เฝ้าสระซุ่มดูฝูงลิงอยู่ตลอด ตนอยากกินวานรและจะเลือกเอาเฉพาะวานรที่เป็นนายหมู่ท่าจะดี เห็นองคตมียอดชฎา ตัวเขียวใสดั่งองค์อินทร์ จึงโดดถีบกลางหลังองคตที่นั้งหลับอยู่ องคตสดุ่งตื่นคว้าพระขรรค์เข้าฟาดฟันปักหลั่น
ยักษ์เฝ้าสระยอมแพ้พนมมือขอชีวิต และถามว่าทัพวานรกองนี้เป็นใครมาจากไหน องคตบอกว่าเป็นทหารของพระนารายณ์ คุมไพร่พลตามหานางสีดา ปักหลั่นเพียงได้ยินว่าเป็นทหารของพระนารายณ์ดีใจยิ่งนัก “อันตัวข้าเดิมที่เป็นเทวดาอยู่บนสวรรค์ แต่แอบเป็นชู้กับนางเกสรมาลานางฟ้ารับใช้องค์อินทร์
จนพระอินทร์ทรงทราบ จึงสาปให้เป็นยักษ์เฝ้าสระพันตาแห่งนี้ จนกว่าทหารของพระนารายณ์จะมาลูบกาย ก็จะพ้นคำสาป” องคตจึงให้ปักหลั่นสำรวมกายตั้งใจให้ดี และพญาลิงก็ลูบกายยักษ์ตั้งแต่หัวลงมาถึงตัว กายของปักหลั่นบัดนี้เปลี่ยนเป็นร่างที่งดงามเป็นเทวดาเหาะขึ้นฟ้าตามเดิม
(ตอนเด็กๆผมจำได้ดีว่าดูรามเกียรติ์ตอนนี้ แต่ปักหลั่นขอให้องคตลงดาบที่คอ เพราะก่อนจะลงดาบปักหลั่นตัวสั่นเพราะความกลัวจนพญาลิงทั้งสามต้องปลอมใจก่อนจะถูกประหาร)