รามเกียรต์ 43
พญาทูษณ์โดดขึ้นม้าพร้อมทัพอสูรเดินทางมายังอาศรมของสามกษัตริย์แห่งอโยธยา เสียงอึกทึกและกลิ่นสาบอสูรทำให้พระราม ลักษณ์จะต้องออกมาดูว่ามีภัยอะไรมาอีก พระรามไม่ลืมคว้าศรมากระชับมือ “เจ้าใช่มั้ยคือผู้ฆ่าพญาขรพี่ข้า และสร้างความอับอายให้สัมนักขาน้องเรา” พญาทูษณ์ผู้ทรงม้าดำคำรามก้องป่า แต่ไม่ทันที่พระรามจะขยับปากอธิบาย พญาทูษณ์ร่ายมนตร์กำบังกายลอบทำร้ายพระรามทันที
องค์รามล้มลงโดยยังไม่เห็นทิศทางแห่งการโจมตี ยุวกษัตริย์แห่งอโยธยายันกายจากความเจ็บปวดยิงศรสวนไปยังทิศทางที่ถูกโจมที ทันใดนั้นคาถากำบังกายของพญาทูษณ์ก็เสื่อมลงจนปรากฎร่างพญายักษ์อันใหญ่โต พญาทูษณ์คว้าหอกเข้าแทงฟันองค์รามหมายจะให้ตายคามือ แต่ด้วยความคล่องแคล่ว พระรามสามารถหลบทันทุกการโจมตี อาจจะมีบางช่วงที่แรงหอกเฉียดกาย แต่เพียงแค่เฉียดยังทำให้เจ็บถึงกระดูกถ้าโดนร่างคงแหลกสลายแน่ๆ พระรามหลับตาเสกศรพรหมมาสตร์ พร้อมน้าวเล็งที่หัวใจพญายักษ์ ด้วยแรงพระศาสตราทำให้พญาทูษณ์ขาดใจตายทันที….. ร่างยักษ์ใหญ่พญาทูษณ์จมกองเลือดอยู่บนพื้น
นางสำมนักขาแทบบ้าแต่ก็ตั้งสติเหาะไปยังเมืองมัชวารีอันโอ่อ่าของพญาตรีเศียร ผู้มีฤทธิ์ไม่น้อยไปกว่าใคร มีสามหน้า หกมือ ทรงช้างถือง้าวดั่งยอมทัพ “ถวายพระพรพญาตรีเศียร….” ทันใดนั้นพญายักษ์พูดพร้อมกันทั้งสามหน้า “สำมนักขาน้องเรา อย่ามีพิธีรีตรองกับพี่เลย มะมานั้งข้างๆพี่บนบัลลังก์นี้มา”
นามสำมนักขาน้ำตานองหน้าก้มกราบโดยไม่เงยหน้าขึ้นสบตาพี่ชาย จนตรีเศรียรต้องลุกขึ้นลงจากบันไดกลางท้องพระโรงแห่งมัชวารี “โถ โถใครทำอะไรน้องเราดูซิ หูขาด จมูกแหว่ง พี่จะไปจัดการมันให้ตายคามือ” ตรีเศียรมีโทสะเมื่อเห็นสภาพน้องสาว ทั้งหกแขนประคองให้น้องสาวสยุงกายมานั้งข้างตัว
“พี่ตรีเศียร พวกเราวงศ์ยักษ์เห็นทีจะเดือดร้อนซะแล้ว ท่านคงยังไม่ทราบว่าตระกูลเราต้องสูญเสีย พญาขร พญาทูษณ์ พี่เราสองตนติดๆกันในเวลาไม่กี่วันนี้ ด้วยฝีมือมนุษย์ตัวกระจิดริด น้องถึงต้องรีบมาแจ้งท่านพี่เพื่อจะได้เตรียบรับมือกับภัยที่จะตามมาในเวลาอันใกล้”