
รามเกียรติ์ 56
แขนขวาของทศกัณฐ์คล้องร่างน้อยของสีดาอย่างมั่นคง จอมมารไม่เคยรู้สึกแปลกเขินอย่างนี้มาก่อน “ทำไมเราไม่กล้าสบตาสีดานะ เราต้องแอบมองนาง ดูสิต้นแขนที่เปลือยเปล่าไร้สไบคลุมของนางใสสะอาดดั่งแก้วใส เนื้อนางเนียนนุ่มดั่งผ้าทอด้วยขนจามรี ตัวนางหอมกว่าพฤกษาใดๆในสามโลกที่ข้าเคยสูดดม โอ้นางทำข้าอ่อนแอเหลือเกิน นางดูสูงส่งเกินกว่าที่จะทำลายหรือขืนใจ นางมีอำนาจเหนือข้า เพราะอะไร เพราะอะไร”
ตลอดการเดินทางข้ามมหาสมุทรจอมมารได้แต่ชื่นชมร่างหญิงคนใหม่ที่เพิ่งได้มา ไม่สิต้องใช่คำว่านิยมหญิงที่เทียบเท่ารานีองค์ใหม่แห่งลงกาต่างหาก แต่ในขณะเดียวกันจอมมารก็ไม่วางใจในความซื่อสัตย์ของสีดาที่มีต่อสามี นางซื่อสัตย์เกินไป ธิดาแห่งพระชนกมีเพียงศรีรามองค์เดียวเท่านั้นอยู่ในใจนาง ดั่งหัวใจนางไม่ได้อยู่กับตัวแต่นางฝากไว้กับมนุษย์ชื่อรามตั้งแต่แรกสบตาทางช่องประตู จอมมารจำเป็นต้องรัดร่างนางไว้ตลอดการเดินทางเพราะสีดาอาจจะกระโดดลงมหาสมุทรเพื่อปลิดชีวิตตน เพื่อบูชาความรักที่มีให้ต่อองค์รามเมื่อไหร่ก็ได้ หากนางไร้ทางออกนางยอมตายเสียดีกว่าที่จะยอมเป็นเมียของพญายักษ์ “แต่เอาหละ ค่อยว่ากัน พานางเข้าลงกาก่อน”
จากนั้นไม่นานบุษบกก็แล่นลงจอดที่ลานกว้างแห่งราชวังอันโอ่อ่า วังหลวงแห่งลงกาตั้งอยู่บนหน้าผาสีดำตะง่านที่ใช้แทนกำแพงปกป้องผู้รุกราน สีดาเศร้าจนเหนื่อยล้าเต็มทน นางไม่สามารถฝืนตัวเองให้ชื่นชมเมืองที่พระพรหมเนรมิตได้ นางไม่สนใจประตูทองคำบานใหญ่
หรือกำแพงที่ฝังด้วยเพชรหลากสีนานาชนิด สีดาโดนลากขึ้นไปตามบันไดเงิน พญาอสูรคำราม “นี่นางในแห่งลงกา พวกเจ้าจงดูแลนางให้ดีเท่าชีวิตของเจ้า อย่าให้คลาดสายตาเป็นอันขาด จนกว่าจะมีคำสั่งจากข้า” พญายักษ์เดินจากไปสู่ประสาทสีดำ มหาดเล็กมากมายกรูกันเข้ามาถอดชุดเกราะขณะเจ้าแห่งอสูรก้าวเดิน
แต่อีกไม่กี่อึดใจพญายักษ์หยุดชั่วขณะพร้อมหันหลังเดินกลับมาหาสีดา “ข้าว่าเจ้าไปอยู่ที่อื่นที่ไม่ใช่ที่นี่จะดีกว่า เพราะเจ้าพิเศษกว่าใคร” ทศกัณฐ์นึกขึ้นสีดาไม่ใช่หญิงธรรมดาที่เคยแย่งชิงจากการรบดั่งที่แล้วมา