รามเกียรติ์ 141
กุมภกรรณถูกหนุมานลอบทำร้ายจนสุครีพสามารถหลุดหนีออกมาได้ ถึงแม้ทศกัณฐ์ไม่ถือโทษโกรธน้องแต่อุปราชแห่งลงกายังสุดทนต่อการถูกรอบกัดจากลิงไพร จึงทูลลาพี่ชายเหาะสู่จักวาลขึ้นเฝ้าพระพรหมเพื่อขอหอกโมกขศักดิ์ที่เคยฝากไว้ หอกทรงอานุภาพเหนือสามโลกบัดนี้สนิมเกาะไม่คมวาวดั่งปกติ พระพรหมจึงย้ำให้กุมภกรรณรักษาศีลธรรมอย่าให้ขาด กุมภกรรณกราบลาและลงมาตั้งหน้าตั้งตาลับโมกขศักดิ์หอกคู่กาย ตั้งโรงพิธีโอ่อ่าอยู่ริมทะเล กระแสน้ำในบริเวณขึ้นจนเต็มตลิ่งตามมนตราที่พญายักษ์เฝ้าเภาวนา
พระรามรู้สึกแปลกใจยิ่งนักว่าเหตุใดอุปราชแห่งเมืองมารยังไม่ยกทัพมาล้างอายซะที จึงถามพิเภกว่าเกิดอะไรขึ้น โหรหลวงจดลักคณา บวกลบวันเดือนจึงทูลว่า “ขณะกุมภรรณทำพิธีลับหอกโมกขศักดิ์อยู่ ณ บริเวณเขาพระเมรุ หากทำการสำเร็จอาวุธนี้จะสามารถชนะได้ทั้งสามโลก พระองค์ควรที่จะยับยั้ง ล้มพิธีดังกล่าวแต่เนิ่น เนิ่น” พระรามแสดงสีหน้ากังวลทันที “ท่านพิเภก แล้วเราควรทำอย่างไรดี” พิเภกผู้หยั่งรู้ทูลสวนอย่างมิต้องให้นายรอ “อันกุมภกรรณมิเพียงนิยมความยุติธรรมที่ใสสะอาดเท่านั้น แต่ยังชอบของหอม ของสะอาด ไม่โปรดสิ่งปฏิกูล กลิ่นเน่าเหม็น หากเจอของเสียของเหม็นก็จะไม่สามารถทนได้ ข้าบาทขอให้พระองค์ใช้ยอดขุนกระบี่ไปทำลายพิธีโดยแปลงเป็น หมาเน่าและอีกา สร้างความรำคาญจนพญาอสูรเลิกพิธี การลับหอกโมกขศักดิ์ก็จะไม่สำเร็จ” พระรามยิ้มอย่างพอในเมื่อได้ทราบทางออก จึงเรียกหนุมานและองคต มารับหน้าที่ไปทำลายพิธียักษ์ตามที่พิเภกบอก สองกระบี่พี่น้องมิรอช้าเหาะตรงสู่รุคีรี เห็นเหล่าทหารยักษ์มากมายจึงแน่ใจว่านี่ต้องเป็นบริเวณโรงพิธีแน่ๆ สองขุนวานรจึงตกลงกันว่าจะทำการใดดี หนุมานพาองคตมาหลบที่หลังศิลาทับทิม “องคตน้องพี่ ตัวเจ้านั้นจงแปลงเป็นอีกา แล้วส่วนพี่จะแปลงเป็นศพหมาเน่า จากนั้นให้เจ้าจิกกัดลากไส้ ลากเครื่องในของหมาเน่าออกมาเพื่อให้ส่งกลิ่นทำลายพิธีของกุมภกรรณ ตามที่พญาพิเภกบอก” สองพี่น้องพยักหน้ารู้กัน หนุมานกลายร่างเป็นหมาเน่าขึ้นอืดลอยน้ำไป ส่วนองคตแปลงร่างเป็นอีกาจิกศพหมาเน่าไว้
กุมภกรรณตั้งใจบริกรรมคาถาของเผ่าอสูร ชุบปลายหอกกับเลือดวัวแล้วออกแรงลับคมหอกอย่างสุดกำลัง แต่ทันใดนั้นพญายักษ์ได้กลิ่นเหม็นสะอิดสะเอียนเป็นที่สุด พลางเหลือบไปเห็นศพหมาเน่าลอยน้ำเข้ามาใกล้ แถมมีอีกาจิกสาวใส้ ลากเครื่องในออกมาส่งกลิ่นเหม็นเน่าไปทั่งบริเวณพิธี พญายักษ์ถึงกับอาเจียน มึนศีษะล้มเลิกพิธีโดยด่วน กระโดดขึ้นรถทรงกลับเข้าลงกา เมื่อเสร็จงานหนุมานและองคตแปลงกลับสู่ร่างเดิม ชวนกันเหาะกลับค่ายเพื่อทูลถวายผลงานต่อไป
กุมภกรรณทั้งอาเจียนทั้งหน้ามืดไปตลอดทางจนถึงท้องพระโรงแห่งลงกา เข้าซบที่บาทของพี่ชาย
“ท่านพี่ น้องทำไม่สำเร็จ ข้าทำพิธีลับคมหอกโมกขศักดิ์อยู่ดีๆ ก็มีศพหมาเน่าที่รอยน้ำมาแถมยังมีอีกามาจิก สาวเอาไส้ออกมาส่งกลิ่นเหม็นเน่าไปทั่ว ข้าทนกลิ่นเหม็นไม่ได้จึงล้มเลิกพิธีกลับคืนสู่นครนี่แหละ” พญาทศกัณฐ์ก็ไม่ได้ว่าอะไร ให้นางสนมเอาผ้าเอาน้ำมารับรองน้องชายสุดที่รักพลางนึกว่าเกิดอะไรขึ้น “อันมหาลงกาของเรานี้อยู่กลางมหาสมุทรใหญ่ ห่างไกลจากแห่งอาศัยของมนุษย์น รอบๆเกาะก็เป็นที่อยู่ของนาค อีกอย่างน้ำทะเลก็ใสสะอาด คลื่นซัดแตกเป็นฟองละเอียด ศพหมาจะลอยมาจากไหนได้อย่างไร แค่ยุงตกลงน้ำยังจมหายสู้ก้นสมุทรเลย…
พี่ว่าต้องเป็นไอ้พิเภกที่ให้ลิงแปลงมาลวงเจ้าให้พิธีแตก จนลับหอกโมกขศักดิ์ไม่เสร็จ แต่ไม่เป็นไรถึงจะทำพิธีชุบหอกสำเร็จ แต่ด้วยฤทธานุภาพของหอกเล่มนี้ พวกมนุษย์หรือลิงไพรก็ไม่สามารถต้านทานได้หรอก”