รามเกียรติ์ 145
กุมภกรรณได้ประลองยุทธ์กับพระลักษณ์พอหอมปากหอมคอ ทั้งสองฝ่ายจึงออกอาวุธร้ายของต้น พระลักษณ์ยิงศรไปต้องรถศึกของกุมภกรรณหักจนขุนมารตกลงมากองที่พื้นดินแต่ก็สามารถยันกายคว้าหัวรถทรงของพระลักษณ์ได้ พระหน้าทองกระโดดขึ้นเหยีบบ่าเอาคันศรตีร่างยักษ์ใหญ่ ขณะเดียวกันกุมภกรรณได้จังหวะซัดหอกโมกขศักดิ์ไปที่อกของพระลักษณ์จนร่วงหล่นลงดิน กุมภรรณเห็นว่าศัตรูแน่นิ่งเหมือนคนตาย กอปรกับเข้าใกล้เวลาค่ำแล้ว มหาอุปราชแห่งมารจึงชักทัพกลับเข้าลงกา
สุครีพถลาเข้าประคองนาย ขุนศึกอย่างหนุมาน องคตและขุนกระบี่อื่นๆหาวิธีการช่วยชีวิตพระลักษณ์จนสุดปัญญา จึงสั่งให้นิลนนไปทูลพระรามให้ออกมาแก้ไขเหตุการณ์โดยเร็ว หลังจากที่นิลนนถึงค่ายการบทูลเหตุการณ์ตามจริง พระรามก็แทบจะเป็นลมหมดสติตามน้องไปอีกคน แต่ทนฝืนพยุงกายฝ่าความมืดมาสู่สนามรบเพื่อดูอาการของน้องสุดที่รัก แต่นิลนนท์ก็พาอ้อมเขาหลงป่าไปมาเพราะไม่คุ้นชินกับความมืด ไม่ถึงสมรภูมิซะที พระรามกริ้วมากจึงคว้าศรจันทวาทิตย์แผลงขึ้นไปบนฟ้า ทันใดนั้นเกิดดวงจันทร์ขึ้นสามดวงส่องแสงสว่างทั่วฟ้า
จนนิลนนท์สามารถจำทางได้สามารถพาพระรามมาถึงยังสนามรบ เมื่อองค์รามเห็นหอกปักอยู่ที่ร่างแน่นิ่งของของน้องชาย พระรามแทบจะทรุดกายสิ้นลมตามน้องร่วมชีวิต ไม่ว่าจะออกแรงชักหอกออกเท่าไหร่ศาตราแห่งองค์พรหมก็ไม่ขยับเขยื้อนแม่แต่น้อย พระรามได้แต่ร้องไห้ฟูมฟายอาลัยนิอง ประคองศรีษะพระลักษณ์มาเกยไว้ที่ตัก ลูบผม ซับเหงื่อที่ไหลอาบพักตร์ย้อนลงจนโทรมกาย ร้องพลาง สั่งพลาง
โอ้อนิจาเจ้าเพื่อนยาก แสนทุกข์ลำบากมาด้วยพี่
เลื่องชื่อลือฤทธิ์ทั้งธาตรี หรือมาแพ้อสุรีพาลา
เสียแรงไวกูณฐ์มาด้วยกัน ว่าจะล้างอาธรรม์ริษยา
เจ้ามาสิ้นชีพชีวา แต่พี่ยาจะทำศึกไป
ถึงมีชัยได้เมียก็เสียน้อง จะต้องการอะไรก็หาไม่
ครั้นจะกลับคืนเข้าเวียงชัย ใครเลยจะนับว่าเป็นชาย
ทั้งสามสมเด็จพระชนนี จะโศกาโกรธพี่ไม่รู้หาย
ว่ารักเมียใช้น้องไปให้ตาย ความอายจะชั่วกัลปา
เสียเมียรักแล้วมิหนำ มาซ้ำเสียองค์กนิษฐา
จะอยู่ไยให้ทนเวทนา จะสู้สิ้นชีวาด้วยน้องรัก
ไปเมืองฟ้าสุราลัย ให้ลับตาพวกภัยปรปักษ์
ร่ำพลางกอดองค์พระลักษมณ์ ซบพักตร์กันแสงไม่สมประดี พระราชนิพนธ์ใน ร.1