
รามเกียรติ์ 116
พระรามยิ้มอย่างพอใจที่กองทหารมีความฮึกเหิมในการจะทำสงครมกับศัตรู “เราขอบใจความคิดและแรงใจอันกล้าหาญของท่าน หากเราจะล้างพงศ์เผ่ายักษ์ก็มิใช่เรื่องยาก แต่เราคงต้องคงยศรักษ์ศักดิ์เยี่ยงกษัตริย์… มิใช่กองโจร…. ท่านสุครีพจงสั่งให้ผู้เหมาะควรนำสารไปถึงทศกัณฐ์ ว่าถ้ารักตัวกลัวตายก็จงปล่องแม่สีดากลับมาเถิด” สุครีพตบมือร้องเรียกให้สัตพลีผู้เชี่ยวชาญการอักษร เขียนความตามพระวัจนะขององค์ราม แล้วมอบหมายให้องคตอุปราชแห่งขีดขินเชิญสารนี้ไปมอบแก่ทศกัณฐ์
เหตุผลที่ต้องใช้องคตมีผู้วิจารณ์กันอย่างชาญฉลาดว่า เพราะองคตคือหนามยอกอกทศกัณฐ์ องคตเกิดจากพาลีและนางมณโฑ แล้วภายหลังทศกัณฐ์ได้นางมณโฑคืนโดยที่พาลียอมทำเพราะฤาษีอังคตขอเอาไว้ว่า “ควรคืนเมียคนอื่นเพื่อความถูกต้อง” องคตตอนนั้นอยู่ในท้องแม่ ยังต้องผ่าออกตั้งแต่ยังไม่ครบกำหนดคลอดเลย พาลียังยอมเพราะเพื่อรักษาศิลธรรมอันดี ทศกัณฐ์เคยอ้างความถูกต้อง แต่ขณะนี้ทำผิดซะเอง ต่อมาทศกัณฐ์แปลงร่างเป็นปูยักษ์หมายจะฆ่ากุมารน้ององคตเพื่อขจัดเสี้ยนหนามยอกอก แต่ก็ถูกพาลีจับได้ มัดประจานให้องคตลากเล่น หยดเข้าที่เหลือจากนางสนมกำนัลเพื่อประทังชีวิต องคตคือลูกของนางมณโฑ ถึงพญายักษ์จะเจ้าชู้อย่างไร ทศกัณฐ์ก็ยังยกนางมณโฑเป็นที่หนึ่งในราชสำนักฝ่ายใน บ้างว่าขนาดโปรดนางสีดาขนาดไหนยังไม่กล้าเอาเข้าวังเพราะเกรงใจนางมณโฑ องคตจะทำการรุนแรง หมิ่นเกียรติอย่างไร ทศกัณฐ์จะไม่ฆ่าองคตแน่ๆเพราะเกรงใจนางมณโฑผู้ภริยาอย่างมาก อีกอย่างองคตเป็นองค์ชายอยู่ในรั้วในวังตั้งแต่เด็ก ได้รับการอบรมทางมารยาท จารีต การเจรจาทางการทูตมาอย่างดี จึงเป็นผู้ที่เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นทูตถือสารในองค์รามไปส่งให้พญาทศกัณฐ์
องคตมิรอช้าถือราขสารทูนเหนือหัวเหาะมุ่งตรงสู่เมืองลงกา พอทหารที่เฝ้าประตูเมืองเห็นวานรตัวเขียวจึงรีบปิดเมือง อยู่ในท่าพร้อมรบตามคำสั่งนาย นายประตูร้องถาม “นี่เจ้าลิงตัวเขียว เจ้าเป็นใคร มีธุระอะไรจงบอกมา” องคตเสกกายให้ใหญ่โตเท่าประตูเมืองจนสามารถบังแสงอาทิตย์ไว้มิด จนทำให้กรุงลงกาบัดนี้อยู่ในความมืด แล้วคำรามตอบยักษ์ประจำประตูลงกาว่า “ข้าชื่อองคต เป็นทูตนำสารจากพระรามมาให้เจ้าลงกานายมึง จงรีบเปิดประตูซะดีๆ” นายประตูเริ่มเกรงกลัวเดชของพญาลิงเพราะเคยได้ยินกิตติศัพท์ขององคตมาบ้าง ปากสั่นตอบออกไป “ตามราชประเพณีของลงกาท่านจงรออยู่ที่นี่ก่อน เราจะเข้าไปทูลเจ้าเหนือหัวก่อนนนนนะ”
พลยักษ์พูดพลางวิ่งเข้าเฝ้าทศกัณฐ์โดยเร็วและแจ้งให้ราชาของตนทราบว่าบัดดี้ลิงสีเขียวใสราวมรกต นำสารของพระรามมาถวาย ทศกัณฐ์ขยับตัวอย่างคิดไม่ถึง กระอักกระอ่วน กลืนไม่เข้าคายไม่ออก หายใจติดขัด สมองมึนชาไปหมด หน้าร้อน หูแดง ไม่รู้จะทำอย่างไรดี “องคตลูกของพาลีกะนาง…..เออ…. ไอ้องคตนำสารมาทวงแม่สีดาแน่ๆ ทหารอย่าให้มันเข้ามา ให้รออยู่ที่หน้าประตูเมืองนั่นแหละ” แล้วร้องเรียกนางสนมกำนัล “นี่พวกหล่อน เจ้าจงไปทูลนางมณโฑ ว่าลูกชายคนโตจากผัวเก่านางมาเยี่ยม พวกเจ้าจงจัดข้าว ปลาอาหารให้พร้อม แล้วให้แม่มณโฑเกลี่ยกล่อมให้องคตกลับไปที่ที่มันมาซะเถิด” นางสนมพากันวิ่งผ้าสิ้นปลิวเพื่อทูลเรื่องสำคัญแก่องค์รานีแห่งลงกา
“เหนือหัวรับสั่งให้ทูลว่า องคตบุตรของพระนางเดินทางมาถึงประตูเมืองลงกา นำสารของพระรามมาถวายเหนือหัว แต่ไม่ประสงค์จะให้เข้าเฝ้า จึงให้เหล่าหม่อมฉันมาเชิญองค์รานีเสด็จไปรั้งพญาวานรไว้ที่ประตูเมือง เลี้ยงอาหารคาวหวานที่จัดอย่างพร้อมสรรพ แล้ววานให้พระแม่เกลี่ยกล่อมให้องคตกลับไปที่ที่มาเถิด ” พอได้ยินชื่อ “องคต” นางมณโฑรู้สึก…….