
รามเกียรติ์ 124
ทศกัณฐ์หัวเราะลั่นดั่งเจอผู้รู้ใจ “โถ…หลานรัก อุตส่าห์เป็นห่วงลุง พญายมยักษ์ช่างมีบุญที่มีลูกผู้พระเสริฐเสียจริง เจ้ามนุษย์สองพี่น้องมีความทะเยอทะยานอยากครองลงกาและหมายล้างเผ่าพันธ์อสูรพงศ์ของเรา ลุงรู้มาว่าหลานมีความสามารถในการสะกดทัพให้หลับไหล แล้วจับพระรามไปฆ่ายังเมืองบาดาลอย่างง่ายดาย พอเหล่าพลวานรตื่นขึ้นมาไม่เจอนายก็จะเตลิดกลับฝั่งแยกย้ายกันกลับป่าเขากันไปเอง”
พญาไมยราพยิ้มอย่างเบาใจ “โถเสด็จปิตุลา หลานนึกว่าจะมีงานที่ยากเย็นให้สนองพระคุณ เพียงเท่านี้มิใช่เรื่องยากเลย หลานขอกลับไปเมืองบาดาลเพื่อปรุงยาสลบ ว่านกำบังกาย เมื่อสำเร็จแล้วจะรีบกลับมาถวายงานแด่เสด็จลุงโดยเร็ว”
ถึงแม้พญาทศกัณฐ์จะอยากให้ไมยราพออกการศึกแทนโดยทันที แต่ยักษ์มากประสบการณ์ก็ยังไม่ลืมที่จะผูกใจไมยราพให้แน่นหนายิ่งขึ้น “นี่ นี่หลานรักของลุง จะรีบไปไหน เจ้าจงเที่ยวชมเมืองลงกาให้ทั่วก่อนเถิด ชิมข้าวปลาอาหารให้ครบทุกตำหรับ นี่มโหทรขุนเสนาจงจัดหาพ่อครัวมาทำอาหาร เหล้ายาหลากชนิดมิให้ซ้ำให้หลานเราชิม แล้วจงจัดหาข้าวปลามาเลี้ยงกองทัพบาดาลอย่าให้ขาดตกบกพร่อง”
บัดนั้น พวกวิเสทสับสนอลหม่าน
ช่วยกันจัดแจงแต่งเครื่องอาน พะแนงห่านหมูหันขยันดี
เป็ดต้มทั้งตัวคั่วกระต่าย พล่าควายแกงกวางช้างฉู่ฉี่
แล้วเลือกเหล้ากลั่นเข้มเต็มที ใส่ขวดแก้วมณีตีตรา
ดูจากรายการอาหารแล้วน่ารับประทานทุกอย่างเลยครับ กองทัพแห่งเมืองบาดาลอิ่มหมีพลีมัน เมาพอได้ที่ก็ไม่อยากจะกลับบาดาลซะแล้วเพราะติดใจสาวเมืองลงกาที่นั้งรินเหล้ายอกเอินเอาใจมิห่าง พญาไมยราพเห็นว่าจะเลยเถิดจนเสียงานจึงรีบทูลลาทศกัณฐ์ผู้บัดนี้นับเป็นญาติสนิทกันเรียบร้อยแล้ว
พอไมยราพถึงเมืองบาดาลก็มิรอช้าสั่งทหารให้ปลูกโรงพิธีไว้ที่เชิงเขาแก้วสุรกานต์ เอาหัวกระโหลกผีมาวางเป็นก้อนเส้าเพื่อก่อไฟเอากระทะใบใหญ่ขึ้นตั้ง ให้เสนาหาเห็ดเมา รวบรวมสมุนไพรที่มีพิษไว้เพื่อทำยาสลบ เมื่อส่วนผสมครบแล้วพญาไมยราพก็อาบน้ำขัดตัวชำระร่างกายแต่งองค์ด้วยเครื่องทรงฤาษีสีดำสนิท จากนั้นก็ถึงขั้นตอนการปรุงยา
ก่อนอื่นนำส่วนผสมทั้งเห็ดเมา สมุนไพรมีพิษมาผสมกันให้เข้าตามอัตราส่วน เร่งไฟให้กระทะร้อนใส่สว่นผสมแล้วร่ายคาถาร้อยแปดจบ