รามเกียรติ์ 182
อินทรชิตออกจากท้องพระโรงหลวงสั่งให้ทหารหาญจัดทัพตั้งขบวนเพื่อเดินทางไปประกอบพิธีชุบศรพรหมาสตร์ ณ เขาสัตภัณฑ์ โดยให้เตรียมเทียนธูป สัตว์สังเวยประกอบด้วยแพะดำ โคดำ ตลอดจนถั่วงาดำให้พร้อมสรรพ เมื่อได้เวลาเจ้าชายลงอสูสรงน้ำ แต่งกายด้วยเครื่อทรงสีดำ ประดับองค์ด้วยมรกต บุษราคัม ทับทิมเช่นเจ้านาย ได้ฤกษ์จึงสั่งเคลื่อนพลสู่เขาสัตภัณฑ์อันตั้งอยู่ริมทะเล เมือเดินทางมาถึงบริเวณชายหาดตีนเขาสัตภัณฑ์ พญาอินทรชิตสั่งให้หยุดขบวนผ่านโองการให้พัทกาลเสนาคนสนิทเร่งสร้างโรงพิธีใต้ต้นตร่างริมน้ำ เหล่าทหารพนักงานเร่งสร้างโรงพิธีตามนายสั่งอย่างว่องไว
บ้างแบกบ้างขนบ้างลาก ปักฉลากจับการอึงมี่
ขุดหลุมยกเสาขึ้นทันที ตามที่ตำแหน่งพนักงาน
สามสิบสามห้องมีเฉลียง ราชวัติฉัตรเรียงทั้งสี่ด้าน
เบื้องบนนั้นดาดเพดาน ห้อยพวงกุสุมาลย์โอฬาร์
ท่ามกลางนั้นตั้งบัลลังก์รัตน์ บัตรพลีบายศรีซ้ายขวา
ทั้งเทียนเงินเทียนทองรจนา เสร็จตามบัญชาอสุรีฯ พระราชนิพนธ์ใน ร. 1
จะเห็นว่าการชุบศรพรหมาสตร์มีการจัดพิธียิ่งใหญ่กว่าพิธีชุบนาคบาศที่อินทรชิตเพียงมุดเข้าไปในโพรงและบริกรรมคาถา ครานี้เจ้าชายให้พนักงานสร้างโรงพิธีที่มีห้องต่างๆจำนวนถึงสามสิบสามห้อง แสดงว่าพิธีนี้คือการชุมนุมเทวดาที่จำเป็นต้องทำให้แลดูยิ่งใหญ่สมกับการบวงสรวงพระศิวะเทพเจ้าสูงสุด เมื่อโรงพิธีเสด็จพญาอินทรชิตถอดเครื่อทรงออกจนไม่เหลืออะไรติดกาย เสด็จลงจากรถทรง แล้วเดินลงสรงน้ำในทะเลหน้าโรงพิธี แต่งตัวดั่งผู้ถือศีลมีรายละเอียดอันปราณีตยิ่งดังนี้
ขัดสีธุลีละอองผง ชำระมลทินองค์ยักษา
ทรงสุคนธ์ลูบไล้ชโลมทา ผ้าทิพย์พื้นเขียววรูจี
เกี่ยวกระหวัดรัดโกปินำ สอดสายธุหร่ำดั่งฤาษี
เจิมจุณมุ่นเกล้าเมาลี สอดประคำมณีอลงกรณ์
ทรงสะพักสีเขียวเขียวระยับ พระหัตถ์จับพรหมาสต์แสงศร
ครั้นได้ศุภฤกษ์สถาวร บทจรเข้าโรงพิธีการฯ พระราชนิพนธ์ในร. 1
พอเข้าสู่ตัวประรำพิธี มหาอุปราชจุดธูปเทียนนมัสการพระอิศวรเจ้า เอาศรพรหมาสตร์พาดที่ตักแล้วสำรวมใจอ่านพระเวทอย่างต่อเนื่อง