รามเกียรติ์ 183
หลังจากที่ขุนกระบี่พักผ่อนจากการศึกอินทรชิตจนเกือบตายยกค่าย คราวนี้เกิดเรื่องขึ้นอีกพญาสุครีพรีบทูลรายงานพระรามนายตนว่า “บัดนี้เสบียงอาหารของเหล่าวานรเกิดร่อยหรอจนจะหมดแล้ว นิลพัทนายเกียกกายไม่ได้ส่งเสบียงอาหารจากนครชมพูมากว่าสิบห้าวันแล้ว ผักผลไม้รอบค่ายที่สามารถประทังชีวิตไพร่พลได้ก็ถูกเก็บกินจนหมดสิ้น หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้เห็นทีเหล่าพลกระบี่จะหมดเรี่ยวแรงพาลจะต้านกำลังยักษ์ไม่ไหว จึงทูลแจ้งองค์จักรีเพื่อวินิจฉัย”
พระรามทั้งเป็นห่วงปากท้องของไพร่พล ทั้งโกรธนิพัทผู้ขาดส่งพลาหารตามหน้าที่ที่มอบหมาย แต่องค์อวตารก็ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงผินพักตร์ไปทางพญาพิเภกผู้ชำนาญ พิเภกผู้คุ้นเคยกับเกาะลงกาทูลว่า “หากข้ามทะเลไปทางทิศเหนือ บนแผ่นดินใหญ่มีป่าอันอุดมไปด้วยพืชผลชื่อว่าป่าสาลวัน ป่านี้มีผลเพียงพอแก่เหล่ไพร่พลเป็นแน่ ข้าพเจ้าขออาสานำเหล่าทหารไปเก็บผลไม้เพื่อหล่อเลี้ยงกองทัพของเรา”
พระรามยินดียิ่งนักบัญชาให้พิเภกพาเหล่าพลวานรออกเดินทางสู่ป่าสาลวันโดยเร็ว เพื่อทหารขจะได้ไม่หิวโหยต่อไป พิเภกน้อมรับพระบัญชาแต่ก็ยังกังวลต่อการศึกที่ติดพัน “ข้าพเจ้าจะออกเดินทางในทันที แต่ด้วยระยะทางและการเดินทางที่ต้องข้ามน้ำข้ามเขา ข้าบาทไม่สามารถกลับมาในวันนี้เป็นแน่ แล้วหากอินทรชิตยกพลมาโจมตีซ้ำ ขอให้พระองค์โปรดรับมือกับการศึกด้วยความปรีชาด้วยเถิด” แล้วพิเภกก็ลาจากพระที่ พาพลลิงจำนวนสองสมุทรเหาะข้ามทะเลข้ามเขามุ่งหน้าสู่ป่าสาลวัน ระหว่างทางเหล่าลิงน้อยใหญ่พากันหยอกล้อสนุกสนานยิ่งเพราะนานๆจะได้ออกไปเที่ยวสักครั้ง
หลังจากที่อินทรชิตลูกชายคนโปรดออกไปชุบศรพรหมาตรศ์ ทศกัณฐ์ไม่สามารถอยู่นิ่งพักผ่อนหย่อนวรกายได้เลย จะหลับก็ไม่เต็มตา จะตื่นก็กังวลว่าอสูรพงศ์จะสิ้งวงศ์ในรัชกาลตน พลิกไปมาจนสว่างลงสรงแล้วออกสู่มหาสภาทันที ตรัสสั่งให้ กำปั่น ยอดขุนพลนำทัพออกไปต่อตีพวกลิงไพรในวันนี้จนกว่าอินทรชิตจะกลับมาหลังเสร็จพิธีชุบศร กำปั่นน้อมรับราชโองการเพราะนี่คือโอกาสที่จะสนองคุณแผ่นดิน ทศกัณฐ์พระราชทานไพร่พลจำนวนสิบสมุทร
(ที่ค้นมาท่านบอกว่า หนึ่งสมุทรเท่ากับ ๑ และตามด้วย 0 สิบสี่ตัว – หนึ่งสมุทรเท่ากัน 100,000,000,000,000 หรือเท่ากับสิบล้านล้าน ไม่น่าเป็นไปได้ที่ลงกาจะมีทหารถึงพันล้านล้านตน ไม่ทราบเหมือนกันครับว่าหนึ่งสมุทรเท่ากับจำนวนเท่าไหร่กันแน่ ผู้รู้บอกด้วยครับ)