รามเกียรติ์ 188
เว้นแต่หนุมานที่ศรพรหมาสตร์หรืออาวุธใดๆไม่สามารถทำอันตรายได้ตามพรที่พระอิศวรเคยให้ไว้ ขุนกระบี่แห่งองค์รามกระทืบบาทด้วยความโกรธ ชี้หน้าด่า “อะไรกันนี่ บัดนี้พระอินทร์และเหล่าเทวดาเข้ากับพวกมารซะแล้ว กูจะไม่เกรงใจแล้ว” หนุมานเหาะขึ้นไปประชิดตัวพระอินทร์แปลง มือซ้ายหักคอช้างเอราวัณ มือขวาคว้ากระชากคันธนูองค์อินทร์ ด้วยกระชากเศียรช้างเอราวัณอย่างเต็มแรงทำให้คอช้างขาดทันที อินทรชิตฟาดร่างลิงเผือกด้วยด้ามศรจนหนุมานไม่สามารถทนแรงหวดร่วงตกลงพื้นหมดสตินิ่งไป แต่ก็มีคอของช้างเอราวัณติดมือมาด้วย
ครานั้นเป็นเวลาใกล้ค่ำพอดีอินทรชิตจึงสั่งให้ยักษ์สารัณทูต (หน่วยสืบราชการ) คอยเฝ้าศพศัตรูไว้ หากพระรามตามมาเห็นน้องตายก็ให้รีบแจ้งโดยด่วน จากนั้นสั่งเลิกทัพกลับเข้าเมือง
กล่าวถึงฝ่ายพระราม องค์อวตารร้อนใจยิ่ง ค่ำแล้วแต่น้องก็ยังไม่กลับมาจึงชวนชมพูพานให้ออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น (ชมพูพาน วานรสีชมพูอมส้ม สวมมงกุฎเยี่ยงเจ้า เป็นบุตรบุญธรรมของพญาพาลี เกิดจากเหงื่อไคลของพระอิศวรขณะบำเพ็ญเพียร) ด้วยความมืดชมพูพานนำเสด็จหลงเข้าป่าเข้าดงหลงไปมาจนพระรามต้องแผลงศรจันทวาทิตย์ขึ้นฟ้า เกิดเป็นหมู่ดาวส่องแสงนำทางเสด็จจนถึงสนามรบ
พระรามแทบจะครองสติไม่อยู่เมื่อเห็นเหล่าวานรตายเกลื่อน ที่สำคัญเห็นหนุมานนอนนิ่งทับเศียรช้างเอราวัณ พระรามอาลัยหนุมานทหารเอกยิ่งนัก
อนิจจาโอ้ว่าวายุบุตร ปรีชาฤทธิรุทรแกล้วกล้า
สามโลกย่อมเกรงศักดา หรือมาแพ้พาลาปัจจามิตร
จะหาไหนได้เหมือนดั่งนี้ ภักดีซื่อตรงสุจริต
ควรหรือมาสิ้นชีวิต ดั่งไม่มีฤทธิ์กำลังกาย
นอนกลิ้งอยู่กลางสุธาธาร อันประมาณแก่โลกทั้งหลาย
ร่ำพลางชลเนตรฟูมฟาย พระนารายณ์เพียงสิ้นสมประดีฯ
พระราชนิพนธ์ใน ร.1
พอได้สติก็คิดถึงน้องลักษณ์ ยันกายออกตามหาต่อไป ภาพที่เห็นทำให้เศร้าใจยิ่งขึ้นเพราะขนาดสุครีพลูกพระอาทิตย์ องคตลูกพญาพาลีและเหล่าสิบแปดมงกุฎยังนอนตายอย่าน่าอนาถ
แล้วพระลักษณ์จะมีสภาพอย่างไร พลางเหลือบเห็นพระลักษณ์ที่มีศรปักอยู่กลางอก พระรามวิ่งรี่เข้าประคองร่างน้องวางบนตัก ลูบหน้าซับเหงื่อที่ไหลชุ่มกาย อาลัยว่าเพราะตามหาเมียที่หาย น้องจึงต้องมาร่วมเสี่ยงภัย โดนทั้งหอกโมกขศักดิ์ ต้องศรนาคบาศ แล้วคราวนี้ยังมาถูกศรของใครก็ไม่รู้อีก พระรามเป็นลมพับไปด้วยความเศร้า