รามเกียรติ์ 191
เมื่อนั้น องค์พระอัคเรศเสน่หา
ฟังข่าวเร่าร้อนในอุรา กัลยากระหนกตกใจ
แสนทุกข์แสนเทวษยิ่งนัก ดั่งจักทรงกายไว้ไม่ได้
ชลเนตรนองเนตรอรไท ตีอกร่ำไห้โศกีฯ พระราชนิพนธ์ในร. 1
ด้วยประสบการณ์ที่คุ้นเคยกับเล่ห์กลในหมู่มาร ตรีชาดาก้มกราบแล้วทูลปลอบ “เมื่อยังไม่เห็นทุกอย่างด้วยพระเนตร พระแม่สีดาอย่าเพิ่งด่วนสรุปเลย เชิญเสด็จเพื่อทอดพระเนตรให้ประจักษ์แก่สายตาเถิด ข้าบาทจะตามเสด็จไปเป็นเพื่อน” นางสีดาพอมีกำลังใจมากขึ้น ทรงกายดำเนินไปขึ้นบุษบกแก้วอันงดงามเหนือยานใดๆในสามโลก บุษบกแก้วพานางสีดาและตรีชาดาดหาะมาถึงสนามรบ เบื่องล่างคือศพเหล่าทหารหาญที่นอนตายก่ายเกลื่อนทั่วบริเวณ นางสีดาได้แต่มองหาเพียงองค์รามแต่ผู้เดียว พลันเห็นร่างของกำแหงหนุมานนอนแน่นิ่งทับเศียรช้างเอราวัณไว้ นางสีดาอาลัยทหารกล้านามหนุมานยิ่งนัก กำลังใจที่นางมีกลับลดน้อยลงเข้าไปอีกเพราะขนาดหนุมานที่สามารถเหาะข้ามสมุทรฝ่าอันตรายเพื่อถวายแหวนและสไบแก่ตน อีกยังสามารถเผาลงกาได้อย่างง่ายดายแต่ยังต้องมาตายในครานี้ แล้วร่างขององค์รามหละจะแหลกละเอียดเพียงใด
โอ้ว่าคำแหงหนุมาน ยอดทหารฤทธิแรงแข็งกล้า
องอาจอาสาพระจักรา เอาธำมรงค์มากับสไบ
ให้เราจึ่งไม่ม้วยชีวัน คุณท่านนั้นหาท่สุดไม่
ซื่อตรงต่อองค์พระภูวไนย จะหาไหนได้เหมือนเช่นนี้
ผู้เดียวเคี่ยวขับรอนราญ กับสหัสกุมารยักษี
ฆ่าเสียสิ้นทั้งโยธี แล้วลวงเผาบุรีกุมภัณฑ์
ครั้งนี้มีพวกวานร มาแพ้กรอินทรชิตโมหันธ์
จนถึงสิ้นชีพชีวัน เป็นน่าอัศจรรย์ใจนัก
เสียแรงเป็นพงศ์พานรินทร์ เลื่องชื่อลือสิ้นทั้งไตรจักร
ร่ำพลางชลเนตรคลอพักตร์ นงลักษณ์เพียงสิ้นสมประดีฯ พระราชนิพนธ์ในร. 1
แล้วสีดาก็แลเห็นร่างอันมิไหวติงของพระรามที่กอดร่างของพระลักษณ์อยู่ นางถลาเข้ากราบสามีด้วยสัญชาตญาณเมียผู้ภักดี ชายาแห่งรามกอดข้อเท้าอันมิไหวติง “ทูลหัวของกระหม่อม ต้องมาเสียพระเกียรตินอนเกลือกกลิ้งผงฝุ่นเศษดินอย่างนี้ เพราะตัวข้าแท้ๆที่หลงอยากจะได้กวางทอง ขอร้องให้เสด็จพี่ออกติดตามจนเสียเชิงแก่ยักษ์จนเลยเถิดเกิดมหาสงครามเช่นนี้ มิหนำซ้ำพระลักษณ์ต้องพลอยเดือดร้อนเพราะความรักในตัวพี่ชาย เพราะข้า เพราะสีดานางโง่ที่ทำให้ทุกชีวิตเดือดร้อน ลืมตาเถอะเสด็จพี่ ลืมตามาคุยกับน้อง แล้วบอกว่านี่ไม่ใช่เรื่องจริง…” สีดาสลบแทบบาทของพระรามผู้สวามี นางตรีชาดาเข้าประคองร่างอันไร้สติของนายตน ตรีชาดาร้องไห้เพราะความสงสารสีดาและสงสารตนเองเพราะบัดนี้นางมิได้ต่างอะไรจากสีดาผู้มีฐานะเป็นเชลย นางอสูรต้องห่างพิเภกผู้เป็นสามี แถมไม่รู้ข่าวอะไรเลยถึงตอนนี้ยังมิเห็นแม้แต่เงาภัสดาตน บัดนี้ตรีชาดามีเพียงพระแม่สีดาเป็นที่พึ่ง แต่ที่พึ่งของตนดูเหมือนจะขาดใจตายตามพระรามไปซะแล้ว นางยักษ์ลูบหัวนวดตัวสีดาดั่งลูกในอกของตนเอง สีดาเริ่มได้สติตื่นขึ้นจากภวังแต่เมื่อเห็นหน้าพระรามก็กลับเจ็บแทบจะขาดใจอีกครั้ง จนตรีชาดาต้องเข้าเตือนสติอย่างผู้ใหญ่ “สีดาลูกแม่ อย่าเพิ่งเศร้าโศกไปมากกว่านี้เลย เพราะหากหญิงหม้ายขึ้นบุษบกวิเศษองค์นี้ พาหนะเทพจะไม่สามารถเหาะหรือเคลื่อนไหวได้ แต่บุษกพาเราจนมาถึงที่นี่แสดงว่าสามีของเราทั้งสองยังไม่ตาย” สีดารู้สึกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ จึงคว้ามือพระพี่เลี้ยงขึ้นบุษบกแก้ว แล้วอธิฐานว่า “หากองค์รามยังไม่ตาย ข้าขอสั่งให้บุษบกแก้วเหาะเวียนรอบเมืองลงกาด้วยเถิด” บุกษกแก้วทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าตามคำสั่งวนรอบมหานครลงกา นางสีดาค่อยคลายกังวลแต่ก็อธิฐานขอให้เทวดารวมถึงสิ่งศักสิทธ์ต่างๆให้เข้าช่วยองค์ราม ลักษณ์ให้พ้นอันตรายโดยเร็ว นางก้มกราบแทบบาทของพระอวตาร “ทูลกระหม่อมแก้วของสีดา เป็นเพราะเวรกรรมที่เคยทำไว้เ ราถึงต้องพรากจากกัน บัดนี้น้องขอถวายพระพรลา…” สีดาประทับบุษบกแก้วอย่างงามสง่า ขณะที่บุษบกจะลอยลิ่วพุ่งตรงกลับสวนขวัญ สีดาประนมสิบนิ้วขึ้นลาสามี “สีดาผู้ซื่อตรง…ขอลาท่านพี่” นางปาดน้ำตาและหวังว่านี่จะไม่ใช่เป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เห็นหน้าสามี
กล่าวถึงพญาพิเภกผู้นำเหล่าวานรไปหาเสบียงในป่าอัมพวัน ฝูงวานรผู้หิวโซเด็ดผลไม้ไปกินอย่างเพลิดเพลิน ใส่ตะกร้าครึ่งหนึ่งกินเองครึ่งหนึ่ง สนุกสนานยิ่งนัก พระอาทิตย์ต้องเตือนสติให้เหล่าพลเสบียงกลับพลับพลาโดยการค่อยๆคล้อยต่ำลงๆดั่งจะอับแสงในมิช้า พิเภกและเหล่าวานรรู้ตัวว่าลืมเวลาจึงพากันหอบเข่งหามคานนำเสบียงกลับค่าย เมื่อมาถึงยักษ์พิเภกพบแต่ความเงียบเหงา ยามเฝ้าค่ายเล่าเรื่องราวให้ฟังจนครบความว่านายออกไปตามพระน้องเธอ พิเภกร้อนใจยิ่งนักสังหรว่านายตนต้องได้รับอันตรายเป็นแน่ เหล่าพลลิงพากันทิ้งหาบทิ้งคานรีบฝ่าความมืดออกตามนาย จนมาถึงสนามรบเห็นกองทัพลิงทับกองนอนแน่นิ่งตายเกลื่อน ขนาดหนุมานยังเสียท่านอนสลบไม่ไหวติง พิเภกร่ายคาถาครบเจ็ดคาบแล้วเป่าลงที่กระหม่อมบุตรแห่งพระพาย หนุมานฟื้นขึ้นมาเห็นหน้าพญาพิเภกนึกว่าฝันไป พอรู้ว่าตนยังไม่ตายก็สุดแสนยินดีเล่าเหตุการณ์ให้พญาพิเภกฟังว่าเหตุใดตนจึงมาอยู่ในสภาพนี้ “เจ็บใจนัก ที่พระอินทร์ไปเข้ากับพวกยักษ์นำขบวนชาวสวรรค์มาฟ้อนรำมาลวงเหล่าทหารเราให้หลงใหล แล้วยิงห่าธนูซัดอาวุธมาต้องร่างพระลักษณ์และเหล่าทหารเราล้มตาย… ถึงตัวเราขึ้นหักคอช้างทรงได้แต่ก็เสียทีโดนพระอินทร์หวดจนตกลงมาอย่างที่ท่านเห็น…