รามเกียรติ์ 227
เมื่อแน่ใจว่าได้มัดเชลยอย่างแน่นหนาดีแล้ว หนุมานเสกหางให้ยาวออกจากตัวสหัสเดชะ แล้วบุตรพระพายทะยานขึ้นฟ้ากลับพลับพลาเพื่อเฝ้านายตน “ข้าบาทได้รบชนะจอมมารสหัสเดชะและได้มัดกายมันไว้อย่างแน่นหนา บัดนี้พญายักษ์ยังพอมีลมหายใจอยู่ ขอให้พระองค์โปรดบัญชาให้เหล่าวานรเข้าไปเย้ยหยันให้มันได้อับอาย” พระรามมีความยินดียิ่งนักที่วันนี้ฝ่ายของตนสามารถปราบกษัตริย์ยักษ์ได้ถึงสองตน พระรามมีราชโองการให้เหล่าวานรน้อยใหญ่รีบออกไปเยาะเย้ยสหัสเดชะให้สาแก่ใจตามคำทูลแนะนำของหนุมาน เมื่อขบวนวานรมาถึง ภาพที่เห็นคือยักษ์ตัวใหญ่เท่าภูเขามีเศียรรอบหัว มือที่อยู่ทั่วตัวบัดนี้ดูอ่อนแรงปวกเปียกไปหมด พญามารแต่งองค์ด้วยอาภรสีขาวสลับทองที่บัดนี้เลอะเทอะไปด้วยรอยเลือด บัดนี้ราชาแห่งปางตาลดูระโหยโรยแรงเหลือเกิน เมื่อทหารลิงเห็นเหล่านางสนมของสหัสเดชะที่ติดตามมาดูแลราชาของตนอย่างใกล้ชิด ต่างคึกคะนองเข้าหยอกล้อแต่ละนางด้วยกริยาอันกลักขละเป็นที่สุด บ้างดึงสไบผ้าผ่อนจนหลุดลุ้ย บ้างฉุดกระชากเหล่านางในเข้ารกพงอย่างสนุกสนาน ทั้วบริเวณนั้นมีแต่หวีดร้องของเหล่าอสุราสาวที่ต่างวิ่งหนีลิงป่ากันให้วุ่น ทหารลิงบางส่วนจับกลุ่มกันชี้หน้าประจานเย้ยพญายักษ์อย่างสนุกปาก
นี่หรือเจ้ากรุงปางตาล พี่น้องอวดหาญว่าแข็งขัน
มาช่วยจะเอารางวัล ทีนี้กุมภัณฑ์ได้สมคิด
เหวยไอ้ตัวโตโง่เปล่า ไม่รู้เท่าหนุมานแต่สักหนิด
อวดมือสิงพันว่ามีฤทธิ์ จะสู้พระจักรกฤษณ์เลิศไกร
กูนี้ขอบคุณเอ็งหนักหนา อุตส่าห์พาเมียมาส่งให้
ในที่กันดารลำบากใจ หรือจะใคร่เอาเชื้อวานร
ว่าพลางไขว่คว้านางกำนัล ยิงฟันตะคอกหลอกหลอน
ลางลิงเข้ายุดฉุดกร ยื้อคร่าผ้าผ่อนไม่สมประดี
เหวยเหวยเฮ้ยอ้ายยักษ์เฒ่า ดูเราจะภิรมย์สมศรี
ว่าพลางจูบนางอสุรี ทำทีเยาะเย้ยไปมาฯ พระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 1
ฟังดูเหมือนเป็นการซ้ำเติมที่เจ็บช้ำสำหรับพญาสหัสเดชะผู้ที่ได้แต่หลับตาร้องไห้ เบือนหน้าหนีความอัปยศ หนีจากภาพตรงหน้า ภาพที่เหล่าฝูงลิงทำอุบาทลวนลามข้าราชบริภาณของตน จนหนุมานเห็นว่ากิจกรรมเย้ยเยาะศัตรูให้เจ็บแสบนั้นพอสมควรแล้ว วายุบุตรชักตรีเพชรออกจากอก
วิ่งเข้าฟันฉับที่คอของสหัสเดชะขาดกระเด็นทันที นี่คือการส่งวิญญาณอสูรพรหมให้หลุดออกจากความอัปยศ นี่คือการตอบแทนความกรุณาของสหัสเดชะที่มีให้แก่เจ้าลิงน้อยตัวนั้น…
สารัณทูตผู้มีหน้าที่รายงานทุกการศึกเห็นสองจอมมารตายคาตา จึงขึ้นม้าควบเข้าลงกา…..