รามเกียรติ์ 274
ท้าวมาลีวราชมั่นใจว่าหลานแห่งอัชบาลมิได้มีนิสัยเกเรตามที่สองกุมารทูลถวาย แล้วทั้งสองตระกูลจะมาทำการศึกเพราะผู้หญิงเพียงคนเดียวนั้นเป็นสิ่งที่มิควรอย่างยิ่ง องค์พรหมจึงตัดสินใจจะลงจากยอดฟ้าคีรีไปไกล่เกลี่ยให้กษัตริย์ของทั้งสองพงศ์กลับมาเป็นมิตรต่อกัน จึงประกาศต่อหน้าเทพสภาว่า “ที่แท้สองพี่น้องรามลักษณ์ก็คือหน่อเนื้อของท้าวอัชบาลเพื่อนรักเรานี่เอง มิน่าถึงสามารถบุกมาถึงลงกาได้
วงศ์วานแห่งท้าวอัชบาลนั้นคือวงศ์วานสืบจากเทพเหมือนกันและมีความสามารถพอที่จะล้างสุริย์วงศ์พรหมยักษ์ได้ เรากับท้าวอัชบาลนั้นเป็นเพื่อนตายกันมาก่อนแต่เนื่องจากระยะทางเมืองห่างกันไกล จึงห่างกันมิได้ไปมาหาสู่อย่างเคย จนกาลล่วงมาท้าวอัชบาลหมดบุญบนโลกเสด็จสู่สวรรค์แล้ว ข้าก็ไม่ได้ไปเยี่ยมอโยธยาซะที ดีหละครั้งนี้ข้าจะไปพบหลานของสหายรักแล้วจะปรับความเข้าใจให้ลงกาและอโยธยาเป็นมิตรกันดั่งเช่นเดิม….
มหาเสนาเทพจงเตรียมขบวน ข้าจะไปเยือนลงกา” เทพเสนาทั้งสี่รับบัญชาออกไปจัดขบวนเสด็จแบบชาวสวรรค์ เรามาชมขบวนเสด็จขององค์พรหมมาลีวราชกันนะครับ
เกณฑ์เป็นกระบวนพยุหบาตร สำหรับเดินอากาศเวหา
เหล่าพลคนธรรพ์เสนา เป็นกองหน้าให้นำเสด็จจร
ถัดมาพวกพฤกษเทเวศ อันเรืองเดชสถิตในสิงขร
ถัดมาโยธาวิชาธร กรถือทิวธงอลงการ
กองขวาโยธาคณาครุฑ ฤทธิรุทรศักดากล้าหาญ
กองซ้ายนาคาในบาดาล ถือบุษบาบานทุกตน
กองหลังนั้นเหล่ากินนร เพียบพื้นอัมพรสับสน
ล้วนถือทิพย์มาศโกมล รถพลเสร็จพร้อมดั่งบัญชาฯ พระราชนิพนธ์ในร. 1
จะเห็นว่าผู้ตามเสด็จนั้นเป็นเหล่าคนธรรพ์ผู้เป็นเทพทางดนตรี เจ้าป่าเจ้าเขา วิทยาธรฤษี เหล่าครุฑและนาค กินนรผู้มีตัวเป็นคนท่อนล่างเป็นนก ต่างถือของมีค่าเพื่อเชิดชูพระบารมี จะสังเกตว่าไม่มีผู้ใดถืออาวุธเลยเพราะนี่มิใช่การเดินทัพเพื่อสงคราม