
รามเกียรติ์ 190
มโหทรแจ้งแก่ตรีชาดาว่าบัดนี้พญาทศกัณฐ์ให้มาทูลเชิญนางสีดาให้ไปดูศพพระรามที่สนามรบ ตรีชาดาตกใจและอึดอัดเราพไม่รู้จะบอกข่าวร้ายนี้แก่สีดาอย่างไร เพราะสงสารนางมนุษย์ที่ตนรักเหมือนลูกอย่างสุดหัวใจ บางครั้งนางหลงรักสีดาผู้เรียกนางว่า “แม่” เรียกว่า “พี่” มากกว่าเบญกายซะอีก
“โถสีดาลูกสาวผู้อ่อนโยนของข้า เมื่อไหร่เจ้าจะเลิกเจอเรื่องร้าย ร้ายซะที เมื่อเห็นเจ้าร้องไห้ครั้งใดข้าใจแทบจะขาด” นางตรีชาดาสะบัดหน้ากลั้นใจเดินเข้าไปในพลับพลาอย่างไม่ใยดีต่อมโหทรมหาเสนี นางยักษ์เฒ่าก้มลงกราบซบหน้าที่ตักสีดา “แม่ตรีชาดาทำไมถึงร้องไห้ มีอะไรบอกข้ามา สีดาจะช่วยท่านเอง”
ตรีชาดาปาดน้ำตาแล้วทูลว่า “บัดนี้เจ้าเหนือหัวทศกัณฐ์ให้มโหทรเสนาเอกมาเชิญเสด็จไปยังสนามรบ พะค่ะ” นางสีดารู้สึกเย็นวูบอย่างบอกไม่ถูก ปนกับฉงนต่อคำเชิญ “เกิดอะไรขึ้นแม่ ทำไมสีดาจะต้องไปสนามรบด้วยหละ”
นี่คือสิ่งที่ตรีชาดาหวังว่าสีดาจะไม่ถาม นางกลืนน้ำลายแล้วทูลตามตรงอย่างมิสามารถหลีกเลี่ยงได้ “บัดนี้องค์ราม องค์ลักษณ์และเหล่าวานรได้เสียชีวิตลง ณ สนามรบชายเมืองลงกา….”
ความเงียบเข้ามาปกคลุมสวนขวัญ ไม่มีใครอยากออกเสียงหรือแม้แต่จะหายใจ ด้วยความเป็นขัตติยนารี สีดาหาได้ฟูมฟายดั่งหญิงเสียจริตไม่ เพียงแต่มีน้ำตานองน้อยๆ ร่างกายเธออ่อนแรงดั่งบุคคลสิ้นหวัง แต่เมื่อใคร่ครวนถึงอนาคตของตนสีดารู้สึกว่าชีวิตนี้สุดทางแล้ว