
โอ้ว่าอินทรชิตของบิดร เลื่องชื่อลือขจรทั้งไตรจักร
ยิ่งในสุริย์วงศ์พงศ์ยักษ์ ฤามาแพ้ปรปักษ์ปัจจามิตร
เสียแรงเป็นวงศ์พรหมา รอบรู้วิชาศรสิทธิ์
อานุภาพปราบได้ทั่วทิศ ฤาแพ้ฤทธิ์มนุษย์เดินดิน
ได้ความอัปยศอดสู แก่หมู่ไตรโลกทั้งสิ้น
ทีนี้อริราชไพริน จะดูหมิ่นฮึกฮักอหังการ์
อนิจจาเสียน้องแล้วมิหนำ มาซ้ำเสียลูกรักเสน่หา
จะได้ใครต่างใจต่างตา อสุราร่ำพลางทางโศกีฯ พระราชนิพนธ์ในร. 1
ทศกัณฐ์ร้องไห้ฟูมฟายถึงการตายของบุตรชายแต่ก็มิได้โทษว่าตนเองนั่นแหละคือต้นเหตุของการสูญเสียในครั้งนี้ ได้แต่โทษว่าไม่น่าพลาด พ่ายแพ้จนทำให้วงศ์ตระกูลอับอาย พอครองสติได้จึงเรียกมโหทรให้เตรียมทัพเพื่อยกพลไปยังเขาจักรวาล ขบวนเสด็จหลวงยังคงโอ่อ่าอย่างเคยแต่ครานี้ช่างเงียบเหงาหลือเกิน ไร้ซึ่งเสียโห่ร้องปลุกใจมีแต่เสียงสะอื้นเพราะนายเสียลูก ไพร่เสียญาติ
นี่คือความสูญเสียที่ใหญ่หลวงที่สุดเท่าที่ลงกาเคยประสบมา นี่คือขบวนรับศพมิใช่การเดินทัพอย่างที่คุ้นเคย เมื่อเข้าสู่สนามรบพญาทศกัณฐ์ได้แต่ถอนใจเพราะเห็นศพทหารตนตายเกลื่อนไปทั่ว
เพียงชั่วครู่พญามารก็แทบจะทรงกายไม่อยู่เมื่อร่างที่ไร้หัวของบุตรชายนอนอนาถอยู่กับพื้น ทศกัณฐ์รีบโดดลงจากรถ ด้วยสันชาตญานของคนเป็นพ่อพญายักษ์เข้าประคองร่างของบุตรชายไว้บนตัก
บัดนี้จอมมารไม่เหลือความยิ่งใหญ่อีกต่อไปแล้ว ภาพที่เห็นคือยักษ์แก่ตนหนึ่งร้องไห้อาลัยการตายอันน่าอดสูของลูกชาย ลูกชายที่หมายจะให้เป็นเจ้าลงกาต่อจากตน