
รามเกียรติ์ 260
หนุมานบั่นคอสัทธาสูรหลุดออกจากร่างแล้วคว้าเศียรพญาอสูรเหาะขึ้นฟ้าโดยไม่พูดอะไร องคตและพลกระบี่อีกห้าร้อยเหาะตามหัวหน้าอย่างรู้กัน หนุมานทะยานลงที่หน้าราชรถแห่งองค์ราม ชูเศียรของพญามารแสดงถึงการถวายโดยภักดี พระรามถึงกับสะดุ้งเมื่อเห็นหัวที่อาบเลือดของสัทธาสูร ทรงผินพักตร์หนีด้วยความหวาดกลัวเยี่ยงมนุษย์ทั่วไป แต่เพียงครู่ก็ฝืนยิ้มเพื่อแสดงความชื่นชมแก่ทหารเอกของตน “ไม่มีอะไรที่พญาหนุมานของข้าทำไม่ได้….ท่านไม่เคยทำให้เราผิดหวังจริงๆ” หนุมานหันมาที่องคต# เชิงให้น้องขยับให้มานั่งเสมอกันดั่งจะบอกว่าความชอบส่วนหนึ่งมาจากองคตผู้น้องด้วย องค์รามรู้ทันทีว่าหนุมานเตือนนายว่าควรชมเชยให้ทั่วถึง “องคตและเหล่าสิบแปดมงกุฎ ต่างทำความชอบในครั้งนี้หากสิ้นศึกลงกา เราจะตบรางวัลให้ทุกนาย” องคตและเหล่าวานรถวายบังคมด้วยความตื้นตัน
ทหารแห่งอัศดงค์ที่หนีทัพเมื่อเห็นว่านายจะเสียทีต่อลิงใหญ่ ต่างหนีตาเหลือกเข้าป่าอย่างไร้สติ วิ่งหนีอย่างไร้ทิศทางร้องโหวกเหวกโวยวายลั่นป่า ขนาดวิ่งมาพบยักษ์พวกเดียวกันก็ยังจำไม่ได้ร้องหนีจนต้องจับกันให้มั่นแล้วปลุกให้คืนสติ พอสอบถามก็แย่งกันเล่าแบบไม่ได้ศัพท์ “ตอนแรกพวกเราพบลิงตัวเล็กมากๆ แล้วพญาสัทธาสูรก็ไปหลงคารมมัน จู่ๆท่านก็ถูกลิงที่กลายเป็นยักษ์สีห้าแปดมือเข้าหักรถ ฉีกอก หักแขนขา มันตัดคอนายเราขาดอย่างง่ายดาย…. ข้ากลัว”
จิตกาสูรนายทัพหน้าแห่งจารึกนำความเข้ากราบทูลพญาวิรุญจำบัง มารหนุ่มขึ้นม้าแล้วควบนำกองทหารของตนจนถึงกองซากทหารแห่งอัศดงค์ที่นอนเกลื่อนทับถมกันแยกไม่ออกว่าใครเป็นนายทัพหรือทหารเลว วิรุญจำบังถอนใจเร่งม้าออกมาจากภาพอันน่าสลดอย่างบ้าระห่ำ เหลือบเห็นกองทหารมนุษย์ในระยะไกล วิรุญจำบังสั่งให้ทัพหน้าเข้าตีทัพวานรที่ตั้งรออยู่ทันที จิตกาสูรขุนศึกแห่งโรมคัลแบ่งทหารออกเป็นกองๆ
เพื่อให้ทหารวานรเข้าตามตีจนเสียขบวน ทหารม้าอสูรได้ทีพุ่งโตมรเข้าใส่เหล่าพลลิงที่หลงกลเข้ามาในกับดัก บัดนี้ทหารลิงตายเกลื่อนสนามรบ นายทัพวานรทั้งสิบแปดมงกุฎต้องเข้าช่วยลูกน้องของตนจนทัพยักษ์กลับเป็นฝ่ายแตกพ่ายบ้าง สังเกตว่าพลลิงมักไม่ค่อยชนะยักษ์ด้วยตนเองต้องอาศัยวานรสิบแปดมงกุฎมาช่วยทุกครั้ง
น่าเห็นใจฝ่ายยักษ์ที่สู้อย่างไรก็ไม่น่าชนะเพราะวานรสิบแปดมงกุฎต่างเป็นลูกเทพที่แบ่งภาคลงมาช่วยพระรามทั้งนั้น เหล่าเทพคงไม่ปล่อยให้ลูกตายต่อหน้าต่อตาด้วยน้ำมือยักษ์ไร้วัฒนธรรม