
รามเกียรติ์ 272
สองกุมารคลานเข้าเฝ้าหน้าพระพักตร์องค์พรหมมาลีวราช ถวายบังคมอย่างพร้อมเพียง สองกุมารได้แต่บอกตนเองว่า “ร่างกายของต้นตระกูลอสูรช่างใหญ่โตงดงามอะไรเช่นนี้ รัศมีจากกายสว่างวาบจนต้องหลบตาแต่ผู้เข้าเฝ้ากลับรู้สึกพลังอันเมตตาที่ท้าวมาลีวราชมีให้แก่ทุกชีวิต ใช่สิเพราะท่านคือพรหม พรหมอันประเสริฐไม่มีความต้องการทางโลกเจือปน ท่านมีแต่ความเมตตา”
สองกุมารสกัดความประหม่าแล้วกราบทูลตามที่เสด็จปู่ทูลสั่งมา “ข้าบาททั้งสองขอนมัสการมาลีวราชพรหมาผู้เมตตา ขณะนี้กรุงลงกาเดือดร้อนด้วยสองมนุษย์รามลักษณ์ผู้นำพลลิงจองถนนข้ามสมุทรเข้ามารุกรานนครลงกา จนวงศ์พรหมาของพระองค์ตลอดถึงชาวประชาเดือดร้อนกันถ้วนหน้า พญาทศกัณฐ์จึงใช้ให้กระหม่อมมาทูลเชิญพระองค์ไปชำระความ ให้สองมนุษย์เลิกราวีเมืองมารเสียที”
ท้าวมาลีวราชรู้สึกแปลกใจ “ฤทธิ์เดชขององค์ทศกัณฐ์ระบือไปทั้งสามโลก ทั้งอินทร์เทพยมยักษ์ล้วนเกรงเดชแห่งขุนมารยิ่ง อีกอย่างเมืองมนุษย์กับลงกานั้นมีมหาสมุทรใหญ่กางกั้น สองพี่น้องนี้เป็นใครกันจึงมีฤทธิ์มากขนาดทำให้พญาทศกัณฐ์เดือดร้อนได้ แล้วเหตุใดมนุษย์รามลักษณ์จึงต้องอุตส่าห์ข้ามน้ำฝ่าอันตรายจนมาถึงเมืองมาร”
สองกุมารขยับตัวให้สบายขึ้นแล้วเล่าความเป็นมาจากที่เคยซักซ้อมไว้ “เรื่องราวมีอยู่ว่าพญาทศกัณฐ์ได้ออกประพาทป่าแล้วได้พบกับผู้หญิงนางหนึ่งนามว่าสีดาผู้โดดเดี่ยวอยู่กลางอันตราย พญายักษ์ได้ชุบเลี้ยงนางไว้ด้วยความเอ็นดูอันบริสุทธิ์ใจ นางไร้ญาติขาดมิตรอยู่แต่ผู้เดียวมาแต่เล็ก พญาทศกัณฐ์เห็นเข้าจึงนึกสงสารกลัวอันตรายจะมาสู่นาง จึงพานางมาเลี้ยงดูในสวนขวัญท้ายเกาะลงกา
ท้าวเธอมิเคยคิดล่วงเกินใดๆเลยนอกจากจะเลี้ยงไว้เพื่อเอาบุญ แต่อยู่มาวันหนึ่งสองมนุษย์รามลักษณ์ผู้เป็นลูกท้าวทศรถ หลานท้าวอัศบาลกลับยกทัพวานรมาเพื่อจะชิงสีดา โดยอ้างว่าตนเป็นสามีจะมาชิงเมียกลับคืน มนุษย์ร้ายฆ่าฟันเหล่าพระญาติวงศ์อย่างเลือดเย็น จนพญาทศกัณฐ์พระบิตุลาของสองเกล้าใช้ให้มาขอพระบารมีไปชำระความเพื่อปกเกล้าประชากรให้พ้นภัยนี้”