ปลูกฝังให้เด็กใช้เงินเป็น

การปลูกฝังให้เด็กออมเงิน เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างวินัยให้กับเด็กๆ ช่วยให้เด็กรู้จักประหยัดอดออม และรู้จักการรอคอย เพราะกว่าที่เด็กๆ จะได้สิ่งของมาจะต้องใช้เวลาในการออมเงิน ดังสำนวนไทยที่ว่า “เก็บหอมรอมริบ” ซึ่งก็คือ การเก็บรวบรวมไว้ทีละเล็กทีละน้อย ค่อยๆ เก็บสะสมจนพอกพูนมากขึ้นในที่สุด

jumbo jili

การทำให้เด็กรู้คุณค่าของเงิน ปลูกฝังให้รู้จักการใช้เงินตั้งแต่ยังเล็ก นับเป็นเรื่องจำเป็น เพราะเมื่อโตขึ้น จะสามารถวางแผนการใช้เงินได้อย่างเหมาะสม ตามที่ได้ปูพื้นฐานไว้

  1. สอนให้รู้คุณค่าของเงิน

พ่อแม่สามารถสอนลูกได้ว่า เงินที่หามาได้ พ่อแม่ต้องตั้งใจ และต้องเหนื่อยแค่ไหน เมื่อได้เงินมาแล้วก็ต้องรู้คุณค่าของเงิน ใช้เงินอย่างไรให้คุ้มค่า แม้ว่าเงินจะสามารถซื้อของที่ต้องการได้ แต่ก็ควรรู้ว่าอะไรจำเป็นไม่จำเป็น เพราะเงินที่ได้มานั้นมีวันหมดไป หากใช้โดยไม่วางแผน

  1. สอนให้รู้จักทำบัญชีรายรับรายจ่าย

มื่อเด็กๆ ได้รับเงินค่าขนมจากพ่อแม่แล้ว อย่าลืมสอนให้ “เก็บก่อนใช้” โดยแบ่งเก็บไว้ก่อน 10% เช่น ได้เงินค่าขนม 100 บาท ให้เก็บเป็นเงินออมก่อน 10 บาท แล้วที่เหลือให้ทำบัญชีรายรับรายจ่าย เพื่อควบคุมและรับรู้พฤติกรรมการใช้เงินของตัวเองว่าใช้จ่ายไปกับอะไรบ้าง เหลือเก็บเท่าไร ต่อไปจะได้บริหารวางแผนการใช้เงินของตัวเองอย่างเป็นระบบ และเป็นการปลูกฝังวินัยการวางแผนทางการเงินอีกด้วย

สล็อต

  1. สอนการออมที่คุ้มค่าที่สุด

สอนให้เด็กรู้จักการเก็บออม โดยให้นำเงินที่ได้เป็นค่าขนม แบ่งไว้ออมหยอดกระปุกทุกวัน ฝึกจนเป็นนิสัยติดตัว และบอกถึงประโยชน์ของการออมเงิน ซึ่งกิจกรรมการนับเหรียญ และแบงค์ ถือเป็นกิจกรรมที่ทำให้รู้สึกตื่นเต้นและสนุกสนานกับการนับเงิน และเห็นคุณค่าของเงิน รู้จักอดทนและรอคอยได้ดี เพราะกว่าจะเก็บเงินได้ครบตามต้องการก็ต้องใช้เวลา เมื่อครบตามต้องการแล้วให้เลือกการเก็บออมที่สามารถต่อยอดเงินออมของตัวเองได้ ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว อาทิ ออมเงินวันละ 1 บาท พอมีเงินครบ 50 บาท ก็นำมาออมกับกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เราจะได้เงินสมทบเพิ่มจากรัฐบาล 50% ของเงินออม คิดเป็นเงิน 25 บาท สูงสุด 600 บาทต่อปี

  1. สอนให้เก็บเงินซื้อของที่อยากได้เอง

วิธีนี้จะทำให้เด็กเห็นความสำคัญของสิ่งของ จะได้รู้ว่ากว่าจะได้ของแต่ละอย่างมาต้องใช้เงินเท่าไร และกว่าจะเก็บเงินซื้อได้ต้องใช้เวลาแค่ไหน ซึ่งเป็นการสร้างนิสัยในการดูแลสิ่งของ ไม่ใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็น

สล็อตออนไลน์

  1. สอนลูกด้วยการเป็นแบบอย่างที่ดีของพ่อแม่

เด็กมักเลียนแบบพฤติกรรมจากผู้ใหญ่ โดยเฉพาะพ่อแม่ และคุณครู เพราะอยู่ใกล้ชิดกันมากที่สุด ทำให้เห็นพฤติกรรมการใช้ชีวิตได้ชัดเจน ดังนั้นควรปลูกฝังนิสัยด้วยการเป็นแบบอย่างที่ดี เช่น ของอะไรที่ซ่อมแซมได้ก็นำมาซ่อมไม่จำเป็นต้องซื้อใหม่ เวลาพาไปซื้อของก็ซื้อแต่สิ่งที่จำเป็น อธิบายว่าอะไรควรซื้อ ไม่ควรซื้อ เป็นต้น

สิ่งที่สำคัญที่สุด หากอยากปลูกฝังให้เด็กๆ ใช้เงินเป็น และรู้ค่าของเงิน ผู้ใหญ่ใกล้ตัวเด็กจำเป็นต้องทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้เด็กได้เห็นพฤติกรรมการใช้เงิน ในแต่ละวัน ถึงแม้ว่าเรื่องการวางแผนทางการเงิน อาจดูเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับเด็กๆ แต่หากว่าได้เรียนรู้ ได้รู้จักวิธีการบริหารจัดการเงินตั้งแต่ยังเด็ก ก็จะมีทัศนคติเกี่ยวกับการวางแผนทางการเงินในอนาคตที่ถูกต้อง

jumboslot

ใกล้สิ้นปีแล้ว เรามาเตรียมความพร้อมเพื่อวางแผนการจัดการกับภาษีปี 2563 และหาตัวช่วยสำหรับ “การลดหย่อนภาษี” กันดีกว่า โดยตัวช่วยในการลดหย่อนภาษีสามารถแบ่งง่ายๆ เป็น 5 หมวด ดังนี้

หมวดลดหย่อนสำหรับตัวเอง ซึ่งเป็นค่าลดหย่อนภาษีที่เกิดจากตัวเอง และคนในครอบครัว อาทิ ค่าลดหย่อนส่วนตัว ค่าลดหย่อนคู่สมรส ค่าลดหย่อนบุตร ค่าลดหย่อนบิดามารดา ค่าลดหย่อนผู้พิการหรือทุพพลภาพ ค่าฝากครรภ์และทำคลอด

slot

หมวดการออมและการลงทุนเพื่อวัยเกษียณ การวางแผนการออมและการลงทุนเพื่อวัยเกษียณ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่เราควรตระหนักถึงค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ เพื่อเป็นหลักประกันในอนาคต ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกวางแผนการออมและการลงทุน โดยรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท ได้แก่ กองทุนการออมแห่งชาติ, กองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว (SSF),กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF), กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ, กองทุนสํารองเลี้ยงชีพ, กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ เป็นต้น ซึ่งได้รับความนิยมจากกลุ่มนักลงทุนมาก เพราะนอกจากจะนำเงินที่ลงทุนมาลดหย่อนภาษีได้แล้ว ยังช่วยให้เรามีเงินก้อนไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน หรือเก็บไว้ใช้ในยามเกษียณได้อีกด้วย

เคล็ดลับออมเงินสบายๆ ตามสไตล์ กับ กอช.

ทุกวันนี้เราทำงานเพื่ออะไร..? แล้วปลายทางของชีวิตการทำงานของเราจะเป็นเช่นไร เป็นคำถามที่คนทำงานทุกคนควรถามตัวเองอยู่เสมอ แล้วคุณรู้หรือไม่ว่าอีกไม่นานประเทศไทยจะก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ ดังนั้น การวางแผนการออมเพื่อวัยเกษียณ จึงเป็นเรื่องสำคัญ ได้แก่ การออมเงินในบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง หรือฝากประจำ, การลงทุนในตราสารหนี้ (Bond) หรือกองทุนรวม

jumbo jili

และอีกหนึ่งทางเลือกดีๆ คือ การออมเงินกับกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. เป็นวิธีการออมเงินที่มั่งคง เพราะมีรัฐบาลรับรองและได้ผลตอบแทนมากถึง 3 ต่อ เมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์จะได้เงินคืนในรูปแบบบำนาญ เรียกว่าออมน้อย ออมยาว แต่ให้ผลที่คุ้มค่าในวัยเกษียณ และที่สำคัญ ออมง่าย มีความยืดหยุ่นสูง สามารถออมขั้นต่ำเพียง 50 บาท หรือสูงสุด 13,200 บาท/ปี แบ่งงวดการส่งตามความพร้อมของตัวเอง มีมากออมมาก มีน้อยออมน้อย หรือเดือนไหนไม่มีก็ไม่ต้องออม

ซึ่งสิทธิประโยชน์ดีๆ ของการเป็นสมาชิกและส่งเงินออมสะสมกับกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) นอกเหนือจากจะได้รับเงินสมทบจากรัฐบาลสูงสุด 100% ตามช่วงอายุแล้ว ยังได้รับผลตอบแทนจากการนำเงินไปลงทุนอีกด้วย เมื่อสมาชิกอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ จะมีสิทธิ์รับเงินบำนาญตลอดชีพ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระและสร้างความมั่นคงในวัยเกษียณ โดย กอช.

สล็อต

ดังนั้นถ้าต้องการมีเงินบำนาญตลอดชีพ ควรเริ่มวางแผนการออมเงินกัน ตั้งแต่วันนี้เพื่อให้ผลลัพธ์ที่คำนวณได้ไม่น้อยกว่า 600 บาทต่อเดือน ยิ่งเริ่มออมตั้งแต่อายุยังน้อย ก็มีสิทธิ์รับเงินบำนาญขั้นต่ำเดือนละ 600 บาทตลอดชีพแล้ว หรือถ้าปีไหนเรามีรายได้มากขึ้น จะส่งเงินออมให้มากขึ้น ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสรับเงินบำนาญจำนวนที่มากขึ้น สูงสุดถึง 7 พันกว่าบาท/เดือน (เป็นผลลัพธ์การคำนวณที่สมมติอัตราผลตอบแทนประมาณ 3.5%) ส่วนใครที่อายุ 40-50 ปี ก็ยังไม่สายเกินไปที่จะเริ่มออม โดยคุณสามารถส่งเงินออมสูงสุด 13,200 บาท/ปี เพื่อรับเงินบำนาญตลอดชีพได้เช่นกัน

สำหรับคนที่สนใจสมัครเพื่อออมเงินกับ กอช. สมัครได้เลย เพียงมีอายุ 15-60 ปี เป็นนักเรียน นักศึกษา ประกอบอาชีพอิสระ ไม่อยู่ในระบบสวัสดิการบำเหน็จบำนาญอื่นๆ จะได้รับสิทธิประโยชน์ 3 ต่อ ได้แก่ ต่อที่ 1 เงินบำนาญรายเดือนไว้ใช้ในวัยเกษียณ ต่อที่ 2 รัฐค้ำประกันผลตอบแทนการลงทุน และต่อที่ 3 ใช้สิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีเต็มจำนวนเงินสะสมต่อปี

สล็อตออนไลน์

รู้แบบนี้แล้วอย่ารอช้า รีบมาออมเงินเพื่อเพิ่มความอุ่นใจยามเกษียณกับ กอช. สำหรับผู้ที่สนใจสามารถตรวจสอบสิทธิและสมัครสมาชิกได้ ที่แอปพลิเคชัน กอช. หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ สายด่วนเงินออมโทร. 02-049-9000 ในวันและเวลาทำการ

สำหรับคนที่สนใจสมัครเพื่อออมเงินกับ กอช. สมัครได้เลย เพียงมีอายุ 15-60 ปี และประกอบอาชีพอิสระ ไม่อยู่ในระบบสวัสดิการบำเหน็จบำนาญอื่นๆ จะได้รับสิทธิประโยชน์ 3 ต่อ ได้แก่ ต่อที่ 1 เงินบำนาญไว้ใช้ในยามเกษียณ ต่อที่ 2 รัฐค้ำประกันผลตอบแทนการลงทุน และต่อที่ 3 ใช้สิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีเต็มจำนวนเงินสะสมต่อปี

รู้แบบนี้แล้วอย่ารอช้า รีบมาออมเงินเพื่อเพิ่มความอุ่นใจยามเกษียณกับ กอช. สำหรับผู้ที่สนใจสามารถตรวจสอบสิทธิและสมัครสมาชิกได้ ที่แอปพลิเคชัน กอช. หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ สายด่วนเงินออม 02-049-9000 ในวันและเวลาทำการ

jumboslot

การปลูกฝังให้เด็กออมเงิน เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างวินัยให้กับเด็กๆ ช่วยให้เด็กรู้จักประหยัดอดออม และรู้จักการรอคอย เพราะกว่าที่เด็กๆ จะได้สิ่งของมาจะต้องใช้เวลาในการออมเงิน ดังสำนวนไทยที่ว่า “เก็บหอมรอมริบ” ซึ่งก็คือ การเก็บรวบรวมไว้ทีละเล็กทีละน้อย ค่อยๆ เก็บสะสมจนพอกพูนมากขึ้นในที่สุด การทำให้เด็กรู้คุณค่าของเงิน ปลูกฝังให้รู้จักการใช้เงินตั้งแต่ยังเล็ก นับเป็นเรื่องจำเป็น เพราะเมื่อโตขึ้น จะสามารถวางแผนการใช้เงินได้อย่างเหมาะสม ตามที่ได้ปูพื้นฐานไว้

  1. สอนให้รู้คุณค่าของเงิน

พ่อแม่สามารถสอนลูกได้ว่า เงินที่หามาได้ พ่อแม่ต้องตั้งใจ และต้องเหนื่อยแค่ไหน เมื่อได้เงินมาแล้วก็ต้องรู้คุณค่าของเงิน ใช้เงินอย่างไรให้คุ้มค่า แม้ว่าเงินจะสามารถซื้อของที่ต้องการได้ แต่ก็ควรรู้ว่าอะไรจำเป็นไม่จำเป็น เพราะเงินที่ได้มานั้นมีวันหมดไป หากใช้โดยไม่วางแผน

slot

  1. สอนให้รู้จักทำบัญชีรายรับรายจ่าย

มื่อเด็กๆ ได้รับเงินค่าขนมจากพ่อแม่แล้ว อย่าลืมสอนให้ “เก็บก่อนใช้” โดยแบ่งเก็บไว้ก่อน 10% เช่น ได้เงินค่าขนม 100 บาท ให้เก็บเป็นเงินออมก่อน 10 บาท แล้วที่เหลือให้ทำบัญชีรายรับรายจ่าย เพื่อควบคุมและรับรู้พฤติกรรมการใช้เงินของตัวเองว่าใช้จ่ายไปกับอะไรบ้าง เหลือเก็บเท่าไร ต่อไปจะได้บริหารวางแผนการใช้เงินของตัวเองอย่างเป็นระบบ และเป็นการปลูกฝังวินัยการวางแผนทางการเงินอีกด้วย

กอช. เผย 3 เคล็ดลับ “ลุก ปรับ เปลี่ยน” สร้างบำนาญวัยเกษียณ

ไม่ว่าใครก็อยากได้ชีวิตวัยเกษียณที่สุขสบายด้วยกันทั้งนั้น แต่การจะไปถึงฝันนั้นได้ โดยแค่หวังจากการทำงานไปวันๆ เพื่อเก็บออมเงินอย่างเดียวอาจจะยังไม่เพียงพอ ถ้าเรายังใช้เงินแบบเดือนชนเดือน ไม่รู้จักหักห้ามใจ เงินบำนาญไว้ใช้ยามเกษียณ ก็อาจเป็นแค่ความฝันแน่นอน และถ้าใครยังไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นอย่างไร ขอแนะนำให้รู้จัก 3 เคล็ดลับ “ลุก ปรับ เปลี่ยน” สร้างบำนาญวัยเกษียณ กันเลย

jumbo jili

เคล็ดลับ “ลุก ปรับ เปลี่ยน” สร้างบำนาญวัยเกษียณ

“ลุก” ขึ้นมาทำสิ่งที่ตัวเองถนัด เพื่อให้เกิดรายได้ การลุกขึ้นมาทำสิ่งที่ตัวเองถนัด จากนั้นเปลี่ยนมาเป็นรายได้เพิ่มเติมจากเงินเดือนหรือรายได้หลัก และรู้จักประยุกต์จากไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันของเรา อย่างเช่น การที่เราขายของในตลาดแห่งหนึ่ง แต่รายได้ก็ยังคงเท่าเดิม ในขณะที่ค่าแผงปรับแพงขึ้นทุกปี นั่นเท่ากับว่า เรายังคงย่ำอยู่กับที่ ถ้าเราปรับไปขายในออนไลน์ด้วย เป็นการสร้างรายรับทั้งสองทาง ตรงนี้ก็จะทำให้เรามีเงินเก็บเพิ่มแน่นอน

“ปรับ” ใช้ก่อนเก็บ เป็น เก็บก่อนใช้ โดยการรู้จักตั้งงบก่อนใช้ เปรียบเทียบก่อนซื้อ สรุปการใช้จ่ายอย่างสม่ำเสมอ ด้วยการลงบัญชีรายรับรายจ่ายอย่างสม่ำเสมอ และพยายามตั้งคำถามกับตัวเองทุกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อของที่ไม่จำเป็น ทางที่ดีควรปรับจาก “ใช้ก่อนเก็บ” เป็น “เก็บก่อนใช้” นั่นเอง พร้อมเลือกวิธีการออมเงินให้เหมาะกับสภาวะของตัวเองด้วย

สล็อต

“เปลี่ยน” วิถีการออม เพื่อความมั่นคงวัยเกษียณ เพราะการออมอย่างเดียว คงไม่พอให้เรามั่นใจ ว่าจะสามารถมีเงินบำนาญวัยเกษียณ เราต้องรีบมองหาวิธีเก็บเงินเพื่อวัยเกษียณของตัวเองตั้งแต่วันนี้ เช่น ซื้อประกันชีวิตแบบบำนาญ ซื้อกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และอีกหนึ่งทางเลือกดีๆ ที่อยากแนะนำ คือ การออมเงินกับกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เพื่อจะได้มีเงินบำนาญทุกเดือนเมื่ออายุครบ 60 ปี นั่นเอง เพียงเท่านี้ฝันที่อยากมี เงินบำนาญวัยเกษียณก็สามารถเป็นจริงได้แน่นอน

สำหรับคนที่สนใจสมัครเพื่อออมเงินกับ กอช. สมัครได้เลย เพียงมีอายุ 15-60 ปี และประกอบอาชีพอิสระ ไม่อยู่ในระบบสวัสดิการบำเหน็จบำนาญอื่นๆ จะได้รับสิทธิประโยชน์ 3 ต่อ ได้แก่ ต่อที่ 1 เงินบำนาญไว้ใช้ในยามเกษียณ ต่อที่ 2 รัฐค้ำประกันผลตอบแทนการลงทุน และต่อที่ 3 ใช้สิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีเต็มจำนวนเงินสะสมต่อปี

สล็อตออนไลน์

รู้แบบนี้แล้วอย่ารอช้า รีบมาออมเงินเพื่อเพิ่มความอุ่นใจยามเกษียณกับ กอช. สำหรับผู้ที่สนใจสามารถตรวจสอบสิทธิและสมัครสมาชิกได้ ที่แอปพลิเคชัน กอช. หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ สายด่วนเงินออม 02-049-9000 ในวันและเวลาทำการ

ทุกวันนี้เราทำงานเพื่ออะไร..? แล้วปลายทางของชีวิตการทำงานของเราจะเป็นเช่นไร เป็นคำถามที่คนทำงานทุกคนควรถามตัวเองอยู่เสมอ แล้วคุณรู้หรือไม่ว่าอีกไม่นานประเทศไทยจะก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ ดังนั้น การวางแผนการออมเพื่อวัยเกษียณ จึงเป็นเรื่องสำคัญ ได้แก่ การออมเงินในบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง หรือฝากประจำ, การลงทุนในตราสารหนี้ (Bond) หรือกองทุนรวม

และอีกหนึ่งทางเลือกดีๆ คือ การออมเงินกับกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. เป็นวิธีการออมเงินที่มั่งคง เพราะมีรัฐบาลรับรองและได้ผลตอบแทนมากถึง 3 ต่อ เมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์จะได้เงินคืนในรูปแบบบำนาญ เรียกว่าออมน้อย ออมยาว แต่ให้ผลที่คุ้มค่าในวัยเกษียณ และที่สำคัญ ออมง่าย มีความยืดหยุ่นสูง สามารถออมขั้นต่ำเพียง 50 บาท หรือสูงสุด 13,200 บาท/ปี แบ่งงวดการส่งตามความพร้อมของตัวเอง มีมากออมมาก มีน้อยออมน้อย หรือเดือนไหนไม่มีก็ไม่ต้องออม

jumboslot

ซึ่งสิทธิประโยชน์ดีๆ ของการเป็นสมาชิกและส่งเงินออมสะสมกับกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) นอกเหนือจากจะได้รับเงินสมทบจากรัฐบาลสูงสุด 100% ตามช่วงอายุแล้ว ยังได้รับผลตอบแทนจากการนำเงินไปลงทุนอีกด้วย เมื่อสมาชิกอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ จะมีสิทธิ์รับเงินบำนาญตลอดชีพ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระและสร้างความมั่นคงในวัยเกษียณ โดย กอช.

ดังนั้นถ้าต้องการมีเงินบำนาญตลอดชีพ ควรเริ่มวางแผนการออมเงินกัน ตั้งแต่วันนี้เพื่อให้ผลลัพธ์ที่คำนวณได้ไม่น้อยกว่า 600 บาทต่อเดือน ยิ่งเริ่มออมตั้งแต่อายุยังน้อย ก็มีสิทธิ์รับเงินบำนาญขั้นต่ำเดือนละ 600 บาทตลอดชีพแล้ว หรือถ้าปีไหนเรามีรายได้มากขึ้น จะส่งเงินออมให้มากขึ้น ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสรับเงินบำนาญจำนวนที่มากขึ้น สูงสุดถึง 7 พันกว่าบาท/เดือน (เป็นผลลัพธ์การคำนวณที่สมมติอัตราผลตอบแทนประมาณ 3.5%) ส่วนใครที่อายุ 40-50 ปี ก็ยังไม่สายเกินไปที่จะเริ่มออม โดยคุณสามารถส่งเงินออมสูงสุด 13,200 บาท/ปี เพื่อรับเงินบำนาญตลอดชีพได้เช่นกัน

สำหรับคนที่สนใจสมัครเพื่อออมเงินกับ กอช. สมัครได้เลย เพียงมีอายุ 15-60 ปี เป็นนักเรียน นักศึกษา ประกอบอาชีพอิสระ ไม่อยู่ในระบบสวัสดิการบำเหน็จบำนาญอื่นๆ จะได้รับสิทธิประโยชน์ 3 ต่อ ได้แก่ ต่อที่ 1 เงินบำนาญรายเดือนไว้ใช้ในวัยเกษียณ ต่อที่ 2 รัฐค้ำประกันผลตอบแทนการลงทุน และต่อที่ 3 ใช้สิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีเต็มจำนวนเงินสะสมต่อปี

slot

รู้แบบนี้แล้วอย่ารอช้า รีบมาออมเงินเพื่อเพิ่มความอุ่นใจยามเกษียณกับ กอช. สำหรับผู้ที่สนใจสามารถตรวจสอบสิทธิและสมัครสมาชิกได้ ที่แอปพลิเคชัน กอช. หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ สายด่วนเงินออมโทร. 02-049-9000 ในวันและเวลาทำการ

สำหรับคนที่สนใจสมัครเพื่อออมเงินกับ กอช. สมัครได้เลย เพียงมีอายุ 15-60 ปี และประกอบอาชีพอิสระ ไม่อยู่ในระบบสวัสดิการบำเหน็จบำนาญอื่นๆ จะได้รับสิทธิประโยชน์ 3 ต่อ ได้แก่ ต่อที่ 1 เงินบำนาญไว้ใช้ในยามเกษียณ ต่อที่ 2 รัฐค้ำประกันผลตอบแทนการลงทุน และต่อที่ 3 ใช้สิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีเต็มจำนวนเงินสะสมต่อปี

รู้แบบนี้แล้วอย่ารอช้า รีบมาออมเงินเพื่อเพิ่มความอุ่นใจยามเกษียณกับ กอช. สำหรับผู้ที่สนใจสามารถตรวจสอบสิทธิและสมัครสมาชิกได้ ที่แอปพลิเคชัน กอช. หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ สายด่วนเงินออม 02-049-9000 ในวันและเวลาทำการ

ออมเงินเพียงพอ กอช. จัดให้

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ รายย่อย ลูกจ้างทั่วไป พ่อค้า แม่ค้า เกษตรกร ชาวไร่ ชาวนา นักเรียนนักศึกษา หรือแม้แต่พนักงานประจำ ล้วนได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งสถานการณ์ในครั้งนี้ได้มอบบทเรียนการใช้ชีวิตที่สำคัญ

jumbo jili

ในการดำเนินชีวิตอย่างมีสติ ไม่ประมาท เริ่มต้นวางแผนชีวิตและการเงินเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต “ความมั่นคงทางการเงิน” จึงถือเป็นรากฐานสำคัญในการดำเนินชีวิต ที่จะทำให้พร้อมรับกับเรื่องที่ไม่คาดฝันได้ วันนี้เราจึงมีแนวทางการใช้ชิวิตทางการเงินวิถีใหม่มาแบ่งปันกัน

“ออมก่อนใช้” เมื่อมี “รายได้” สิ่งแรกที่ควรทำให้เป็นนิสัย คือ แบ่งส่วนหนึ่งของรายได้มาออม โดยอาจจะเริ่มที่ 10% หรือ 20% ของรายได้ หรือจะมากกว่านี้ก็ได้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้จ่ายเงินและความจำเป็นของแต่ละคน

สล็อต

“ออมสำรองยามฉุกเฉิน” เงินสำรองยามฉุกเฉินถือเป็นเงินออมที่มีความสำคัญ เพราะเรามีโอกาสพบเจอเหตุที่ไม่คาดฝันได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะด้านสุขภาพ การเจ็บป่วย ฉะนั้นเราควรมีการวางแผนทางการเงินในส่วนของเงินสำรองยามฉุกเฉินไว้ ซึ่งจะช่วยให้เราผ่านเหตุการณ์เหล่านั้นไปได้ โดยไม่ก่อให้เกิดผลกระทบกับการดำเนินชีวิตประจำวัน และเกิดปัญหาการขาดสภาพคล่องทางการเงิน โดยหลักในการวางแผนเก็บเงินสำรองยามฉุกเฉิน เราจะต้องมีเงินใช้จ่ายในกรณีที่ขาดรายได้ อย่างน้อย 3 – 6 เดือน

“ออมเงินไว้ใช้เพื่อวัยเกษียณ” ไม่มีใครที่อยากจะทำงานไปจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต เราทุกคนต้องการมีชีวิตที่สุขสบายในวัยเกษียณด้วยกันทั้งนั้น โดยเทคนิคการออมเงินไว้ใช้หลัง 60 ปี มีหลายรูปแบบให้เลือกออมตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เช่น การหยอดกระปุก การฝากประจำ การลงทุนในกองทุนรวม การทำประกันชีวิต เป็นต้น

สล็อตออนไลน์

นอกจากรูปแบบการออมที่กล่าวมาแล้ว ยังมีอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้เรามีเงินรายเดือนไว้ใช้วัยเกษียณ คือ การออมเงินกับกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. โดยจะได้เงินคืนเมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ในรูปแบบบำนาญ เรียกว่าออมน้อย ออมยาว แต่ให้ผลที่คุ้มค่าในวัยเกษียณ และที่สำคัญ ออมง่าย มีความยืดหยุ่นสูง สามารถออมขั้นต่ำเพียง 50 บาท หรือสูงสุด 13,200 บาท/ปี

jumboslot

แบ่งงวดการส่งตามความพร้อมของตัวเอง มีมากออมมาก มีน้อยออมน้อย หรือเดือนไหนไม่มีก็ไม่ต้องออม สำหรับคนที่สนใจสมัครเพื่อออมเงินกับ กอช. สมัครได้เลย เพียงมีอายุ 15-60 ปี เป็นนักเรียน นักศึกษา ประกอบอาชีพอิสระ ไม่อยู่ในระบบสวัสดิการบำเหน็จบำนาญอื่นๆ จะได้รับสิทธิประโยชน์ 3 ต่อ ได้แก่ ต่อที่ 1 เงินบำนาญรายเดือนไว้ใช้ในวัยเกษียณ ต่อที่ 2 รัฐค้ำประกันผลตอบแทนการลงทุน และต่อที่ 3 ใช้สิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีเต็มจำนวนเงินสะสมต่อปี

slot

รู้แบบนี้แล้ว อย่ารอช้า!! เริ่มต้นวางแผนชีวิต เริ่มต้นออมเงินกับ กอช. ตั้งแต่วันนี้ เพียงแค่ลงมือจริงจังกับการเก็บเงินเพื่ออนาคต มีวินัยออมเงินสม่ำเสมอ ชีวิตวัยเกษียณอย่างสุขใจ อยู่ไม่ไกล ตรวจสอบสิทธิสมัครสมาชิกได้ ที่แอปพลิเคชัน กอช. หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ สายด่วนเงินออม 02-049-9000 ในวันและเวลาทำการ

4 วิธีออมเงิน ใช้ชีวิตแบบพอเพียง

ต้นแบบของการ ออมเงิน การใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ไม่ต้องมองหาที่ไหนไกลเลยค่ะ เพราะพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นับว่าเป็นต้นแบบที่ดีที่สุดสำหรับเราชาวไทย ซึ่งวันนี้เราก็ได้นำหลักการ วิธีออมเงิน ที่ประยุกต์มาจากการออมเงินของพระองค์ มาให้เพื่อนๆ ได้นำไปลองทำกันค่ะ เป็นวิธีง่ายๆ ที่ทำแล้วชีวิตเราจะไม่เป็นหนี้และมีเงินออมอย่างแน่นอน!

jumbo jili

“…คนเราถ้าพอใจในความต้องการ ก็มีความโลภน้อย เมื่อมีความโลภน้อย ก็เบียดเบียนคนอื่นน้อย ถ้าทุกประเทศมีความคิด อันนี้ไม่ใช่เศรษฐกิจ มีความคิดว่าทำอะไรต้องพอเพียง หมายความว่า พอประมาณ ไม่สุดโต่ง ไม่โลภอย่างมาก คนเราก็อยู่เป็นสุข…”

“…ความพอเพียงนี้ ก็แปลว่า ความพอประมาณและความมีเหตุผล…”
พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระราชทานเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย วันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๔๑

  1. วิธีออมเงิน : ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย

สล็อต

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เคยมีพระราชดำริให้มีการจัดทำบัญชีครัวเรือน หรือก็คือบัญชีรายรับรายจ่ายขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้รู้จักการวางแผนชีวิต และใช้ชีวิตตามหลักพอเพียง การทำบัญชีแบบนี้ จะทำให้เรารู้รายรับ รายจ่ายในแต่ละเดือน ว่าเงินขาดเหลือเท่าไหร่ เราซื้ออะไร ใช้อะไรไปบ้างในเดือนนั้น ซึ่งจะทำให้เราสามารถนำมาใช้วางแผนการเงินในครอบครัว ทั้งยังนำมาใช้ในการประกอบอาชีพ ซึ่งทำให้เราเห็นภาพรวมของการลงทุนในแต่ละกิจการ ส่งผลให้เราลดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยต่างๆ ลงได้ และนั่นล่ะค่ะ จะทำให้เรารู้จักการออม และใช้จ่ายอย่างรู้คุณค่า

  1. วิธีออมเงิน : ใช้เท่าที่มี อย่าสร้างหนี้

สล็อตออนไลน์

หากการไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ การไม่มีหนี้ก็เป็นโชคอันประเสริฐเช่นกันค่ะ เพราะแน่นอนว่าการเป็นหนี้ นอกจากจะไม่ช่วยให้มีเงินออมมากขึ้นแล้ว ยังเป็นการลดทอนเงินส่วนที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวันลงไปด้วย ฉะนั้นจำไว้ค่ะว่า ก่อนจะซื้ออะไร คิดให้ดีก่อนว่าเราพร้อมหรือยัง ซื้อเมื่อพร้อม จะช่วยให้เราหลีกหนีจากการเป็นหนี้ได้ดีที่สุดค่ะ โดยหลักการ อย่าสร้างหนี้นั้น สมเด็จย่าได้ทรงอบรมพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมาตั้งแต่สมัยวัยเยาว์ ดังจะเห็นได้จากพระบรมราโชวาท ณ ศาลาดุสิตดาลัย สวนจิตรลดา วันพฤหัสบดีที่ 9 พ.ย.2538 ความว่า

“…สมเด็จพระบรมราชชนนีท่านได้อบรม ท่านได้สั่งสอนด้วยวิธีการต่างๆ ที่ยังจำได้ เมื่ออายุประมาณ 7 ขวบ ไปอยู่เมืองนอกแล้ว ไปในเมือง ไปที่ร้านของเล่น แล้วอยากซื้อของเล่น อยากได้ จริงแล้วก็ไม่มีเงิน ไม่ได้เอาเงินไป เลยขอยืมผู้ใหญ่เป็นญาติซื้อของเล่น กลับมาท่านเห็นว่าซื้อของมา ท่านถามว่าเอาเงินอะไรไปใช้ บอกว่ายืมเขามา ท่านดุใหญ่ ท่านบอกว่าถ้าไม่มีเงินอย่าไปซื้อของ เป็นหนี้ใครไม่สมควร ท่านก็ถือว่าเป็นระเบียบสำคัญ ไปเป็นหนี้เป็นสินนั้นไม่ดี แม้จะเล็กน้อยมันก็พอกเข้าไป นี่ก็รับการสั่งสอนจากแม่ว่าไม่ให้เป็นหนี้…”

jumboslot

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ ศาลาดุสิตดาลัย สวนจิตรลดา วันพฤหัสบดีที่ 9 พ.ย.2538

ฉะนั้นการบริหารเงินให้เป็น ใช้เท่าที่มี อย่าเกินตัว จะทำให้เรามีเงินเก็บออมในอนาคตอย่างแน่นอนค่ะ แม้สำหรับบางคนจะไม่มากเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยที่สุดเราก็ไม่ต้องเป็นหนี้ใครแน่ๆ

  1. วิธีออมเงิน : มีเป้าหมายในการออม

หากเรามีเป้าหมายในการเก็บออมที่แน่ชัด จะช่วยให้เรามีแรงบันดาลใจและแรงใจในการเก็บเงินมากขึ้น เริ่มแรกตั้งเป้าไว้เลยค่ะ ว่าเงินที่เราจะเก็บออมนี้ เราเก็บไปเพื่ออะไร เพื่อซื้อของที่อยากได้มานาน เพื่อบ้านในอนาคต หรือเพื่ออนาคตของลูกและของเราในช่วงบั้นปลายชีวิต หากเรามีเป้าหมายที่แน่นอนแล้ว ต่อมาก็คือการเริ่มวางแผนการเก็บเงินค่ะ โดยการวางแผนนี้อาจจะแล้วแต่ความถนัดของแต่ละคนค่ะ หากใครสะดวกเก็บเป็นเดือนก็ตั้งเป้าว่าเดือนนี้จะเก็บเท่าไหร่แล้วใส่อีกบัญชีแยกไว้ หรือถ้าใครสะดวกเก็บเป็นเหรียญ หรือเป็นแบงก์ เช่น แบงก์ 50 ก็ให้เก็บทุกครั้งที่ได้มา

slot

ซึ่งการเก็บออมนี้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ก็ทรงเป็นตัวอย่างที่ดีเสมอมาค่ะ พระองค์ทรงเก็บเงินจากค่าขนมเพื่อซื้อของใช้ส่วนพระองค์หลายชิ้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดนตรี จักรยาน ของเล่น หรือแม้กระทั่งกล้องถ่ายรูป ซึ่งพระองค์ทรงซื้อกล้องถ่ายรูปตัวแรกด้วยเงินสะสมส่วนพระองค์เอง ในขณะที่พระชนม์เพียง 8 พรรษาเท่านั้น

  1. วิธีออมเงิน : วางแผนการใช้เงินอย่างชาญฉลาด

นอกจากการวางแผนใช้เงินสำหรับชีวิตประจำวันแล้ว การวางแผนให้เงินงอกเงยขึ้นก็เป็นสิ่งที่ควรทำค่ะ ซึ่งนอกจากการฝากเงินกับธนาคารเพื่อสะสมดอกเบี้ย ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงทำเป็นประจำ เพื่อให้เงินเกิดการงอกเงย ดัง พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๔ ธันวาคม ๒๕๑๘ ความว่า
“…ถ้าเราสะสมเงินให้มาก เราก็สามารถที่จะใช้ดอกเบี้ย ใช้เงินที่เป็นดอกเบี้ยโดยไม่แตะต้องทุนแต่ถ้าเราใช้มากเกินไปหรือเราไม่ระวัง เรากินเข้าไปเป็นทุน ทุนมันก็น้อยลงๆจนหมด…” แล้วนั้น
สมัยนี้ยังมีการลงทุนอีกมากมายค่ะ ที่เราสามารถนำเงินไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นกองทุน หุ้น หรือการลงทุนต่าง ๆ แต่อย่าลืมค่ะว่า การวางแผนทุกอย่างต้องทำอย่างมีสติและฉลาด เพราะหากพลาดพลั้ง แทนที่เงินจะงอกเงย กลับสูญหายไปโดยเปล่าประโยชน์

แนวคิดเรื่องการออมของในหลวง รัชกาลที่ 9 ต้นแบบพระมหากษัตริย์นักออม

ในหลวง รัชกาลที่ 9 ต้นแบบของ “พระมหากษัตริย์นักออม” ทรงแสดงให้เห็นถึงความประหยัด เรียบง่าย และพอเพียง ซึ่งเป็นสิ่งที่พสกนิกรชาวไทยสามารถน้อมนำแนวคิดมาปฏิบัติตาม

jumbo jili

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเป็นแรงบันดาลใจของพสกนิกรชาวไทย ในหลาย ๆ เรื่อง และหนึ่งในสิ่งที่ทุกคนให้การยกย่องพระองค์เป็นต้นแบบ ก็คือ การเป็น “พระมหากษัตริย์นักออม” ซึ่งเป็นพระราชจริยวัตรที่พระองค์ทรงปฏิบัติให้เห็นเป็นแบบอย่างเป็นประจำเสมอมา โดยเป็นแนวคิดง่าย ๆ ที่ทุกคนนำไปประยุกต์ใช้ได้ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและครอบครัว ดังพระราชดำรัสที่ว่า “การประหยัดอดออม เป็นรากฐานในการสร้างตัว สร้างฐานะบุคคล ตลอดจนความเจริญมั่นคงของสังคมและชาติบ้านเมือง” ….พระราชดำรัส เมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2559 กระปุกดอทคอม จึงขอรวบรวม 7 แนวคิดวิธีการออม ตามแบบอย่างในหลวง รัชกาลที่ 9 มาฝากเพื่อให้ทุกคนนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน

สล็อต

  1. สมเด็จย่าผู้ปลูกฝังเรื่องการออม พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงได้รับการปลูกฝังเรื่องการออมเงินจากสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ สมเด็จย่า ตั้งแต่ครั้งยังทรงพระเยาว์ โดยทรงได้รับเงินค่าขนมเป็นรายสัปดาห์ เพื่อเป็นการสอนให้รู้จักจัดสรรเงินไว้ใช้ และเมื่ออยากได้อะไรก็ให้เก็บเงินซื้อด้วยพระองค์เอง เพราะสมเด็จย่า จะไม่ทรงซื้อของขวัญให้พร่ำเพรื่อ โดยจะซื้อให้เพียงปีละ 2 ครั้งเท่านั้น เฉพาะในวันปีใหม่และวันเกิด อย่างเมื่อครั้งที่พระองค์ทรงเรียนหนังสืออยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ ได้กราบทูลสมเด็จย่าว่าอยากได้จักรยาน เพราะเพื่อน ๆ คนอื่นมีจักรยานกันหมดแล้ว สมเด็จย่ารับสั่งตอบว่า “ลูกอยากได้ ลูกก็ต้องเก็บสตางค์ที่แม่ให้ไปกินที่โรงเรียนไว้สิ หยอดกระป๋องวันละเหรียญสองเหรียญ ได้มากค่อยเอาไปซื้อ” และเมื่อถึงวันขึ้นปีใหม่ สมเด็จย่าก็ทรงสมทบเงินเพิ่มให้ไปอีกก้อนหนึ่งเพื่อนำไปซื้อจักรยาน ซึ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พระองค์ท่านก็ได้ทรงปั่นจักรยานแทนการประทับรถยนต์พระที่นั่งไปโรงเรียนด้วยพระองค์เองด้วย อันเป็นหนึ่งในต้นแบบแนวทางการประหยัดพลังงานในเวลาวิกฤต

สล็อตออนไลน์

หรือเมื่อครั้งพระชนมายุเพียง 8 พรรษา ก็ทรงซื้อกล้องถ่ายรูป ด้วยเงินสะสมส่วนพระองค์ และเมื่อพระชนมายุ 10 พรรษา ทรงนำเงินที่เก็บออมไว้ซื้อเครื่องดนตรีชิ้นแรก คือ คลาริเน็ต แสดงให้เห็นว่า พระองค์ท่านได้รับการปลูกฝังเรื่องการออมที่ดีจากสมเด็จย่ามาตั้งแต่ทรงพระเยาว์

  1. ฝากเงินกับธนาคารอย่างเป็นประจำเสมอมา

ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเก็บออมเงินไว้กับธนาคารอย่างต่อเนื่อง ตามคำสอนของสมเด็จย่า ผ่านสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารออมสินส่วนพระองค์ ซึ่งมีเงินฝากเข้าเป็นประจำทุก ๆ ปี นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงกำชับให้พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ เห็นคุณค่าของการออมด้วยการให้เปิดบัญชีกับธนาคารออมสิน

ดังจะเห็นได้จากพระราชดำรัสของพระองค์หลายต่อหลายครั้ง ที่ทรงให้ความสำคัญต่อการออมเป็นอย่างยิ่ง “ถ้าเราสะสมเงินให้มาก เราก็สามารถที่จะใช้ดอกเบี้ย ใช้เงินที่เป็นดอกเบี้ยโดยไม่แตะต้องทุน แต่ถ้าเราใช้มากเกินไปหรือเราไม่ระวัง เรากินเข้าไปเป็นทุน ทุนมันก็น้อยลง ๆ จนหมด”….พระราชดำรัส เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2518

jumboslot

  1. ประหยัด มัธยัสถ์ เป็นที่สุด

พระองค์ทรงเป็นต้นแบบของการประหยัด มัธยัสถ์ อย่างแท้จริง จนเคยมีครั้งหนึ่งสมเด็จย่ามีพระดำรัสว่า “ในสวนจิตรเนี่ย คนที่ประหยัดที่สุดคือ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ประหยัดที่สุดทั้งน้ำ ทั้งไฟ เรื่องฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือยไม่มี” ซึ่งเราจะเห็นได้จากของใช้ส่วนพระองค์ ที่ทรงใช้ทุกอย่างแบบรู้คุณค่า และคุ้มค่าที่สุด

ไม่ว่าจะเป็นการใช้ฉลองพระองค์ชุดเดิมมาเป็นเวลาหลายปี หากมีการชำรุดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็จะโปรดให้ชุนบ้าง เปลี่ยนยางยืดบ้าง บางชุดตัดมา 8-9 ปี บางชุดก็ใช้นานถึง 12 ปี หรือจะเป็นดินสอทรงงาน ที่พระองค์ทรงเบิกใช้เพียงปีละ 12 แท่ง ทรงใช้จนกุด แม้กระทั่งหลอดยาสีพระทนต์ ที่ทรงใช้จนแบนราบเรียบคล้ายแผ่นกระดาษ ซึ่งแสดงให้เห็นเรื่องความประหยัด มัธยัสถ์ ของพระองค์ท่านได้เป็นอย่างดี

  1. บัญชีครัวเรือน แก้ปัญหาความยากจน

บัญชีครัวเรือน เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวคิดของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงริเริ่มที่จะช่วยแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน โดยการทำบัญชีครัวเรือน ก็คือ การบันทึกรายรับ-รายจ่าย ที่เกิดขึ้นในครัวเรือน เพื่อช่วยให้เห็นภาพรวมว่า ครอบครัวมีรายได้-รายจ่ายเท่าไหร่ มีเงินคงเหลือมากน้อยแค่ไหน

slot

หากมีการทำบัญชีครัวเรือน จะช่วยให้ทราบว่า มีรายจ่ายไหนจำเป็น ไม่จำเป็นบ้าง เพื่อจะได้ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นทิ้งไป ซึ่งสิ่งสำคัญของการทำบัญชีครัวเรือนตามแนวคิดของพระองค์ คือ ให้มีการจัดสรรรายได้ส่วนหนึ่งออมไว้ใช้จ่ายในยามฉุกเฉินหรือยามเกษียณด้วย

  1. พอเพียง พอประมาณ แต่ไม่สุดโต่ง

การประหยัด อดออม ล้วนเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว แต่หากสุดโต่งมากจนเกินไปก็เกิดผลเสียได้เช่นกัน ซึ่งตามความหมายของคำว่าพอเพียงของพระองค์ ก็คือ การคำนึงถึงความพอประมาณ อย่างมีเหตุผล ที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไป โดยไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น

เหมือนบางโอกาสที่พระองค์ทรงซื้อของขวัญชิ้นพิเศษเพื่อเป็นรางวัลให้กับตนเอง อย่างตอนที่พระองค์ทรงซื้อกล้อง ที่เป็นรุ่นตัวระดับสูง เนื่องจากต้องนำมาใช้ทรงงาน และเลือกดีแล้วว่ามีราคาที่เหมาะสม คุ้มค่าต่อการใช้งาน ดังตอนหนึ่งของพระราชดำรัสที่ว่า

“พอเพียงนี้ก็หมายความว่า มีกินมีอยู่ ไม่ฟุ่มเฟือย ไม่หรูหราก็ได้ แต่ว่าพอ แม้บางอย่างอาจจะดูฟุ่มเฟือย แต่ถ้าทำให้มีความสุข ถ้าทำได้ก็สมควรที่จะทำ สมควรที่จะปฏิบัติ”….พระราชดำรัส เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2540

  1. ลงทุนควบคู่ไปด้วย

นอกจากการออมแล้ว พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ยังเป็นผู้ที่รู้จักนำเงินที่ออมได้มาลงทุนควบคู่กันไปด้วย เห็นได้จากโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา ที่เริ่มต้นลงทุนจากเงินสะสมส่วนพระองค์เพียง 32,866 บาท จนกลายเป็นโครงการที่เติบโตมาถึงทุกวันนี้

หรืออย่างเรื่องการเลี้ยงปลานิล ก็เป็นสิ่งที่สะท้อนเป็นอย่างดีว่า พระองค์ท่านรู้จักการลงทุนเพื่อหวังผลระยะยาว เพราะเริ่มแรกได้รับการถวายปลานิล จำนวน 50 ตัว จากสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ ประเทศญี่ปุ่น พระองค์จึงได้โปรดเกล้าฯ ให้ทดลองเลี้ยงปลานิลภายในสวนจิตรลดา หลังจากเลี้ยงไม่นาน มีทั้งรอดบ้าง ตายบ้าง มีปลานิลที่ยังคงเหลือเพียง 10 ตัวเท่านั้น

แต่พระองค์ไม่ทรงย่อท้อ ยังคงพยายามต่อไป จนกระทั่ง 1 ปี ผ่านไป พระองค์สามารถพระราชทานปลานิลให้กรมประมง 10,000 ตัว ทำให้ปัจจุบัน ประเทศไทยกลายเป็นผู้ส่งออกปลานิลไปทั่วโลก สามารถเพาะพันธุ์ปลานิลได้ปีละกว่า 220,000 ตัน สร้างงานสร้างอาชีพให้ผู้คนจำนวนมาก แสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยะภาพด้านการลงทุนในระยะยาวของพระองค์ได้เป็นอย่างดี

  1. ออมแล้วรู้จักให้ด้วย

จะเห็นได้ว่า พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่พระราชทานทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ช่วยเหลือราษฎร และทรงให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนอยู่ตลอดเวลา รวมถึงโครงการตามพระราชดำริและพระราชกรณียกิจทุกโครงการ ที่ล้วนแสดงให้เห็นว่าพระองค์พร้อมจะให้ และเสียสละความสุขส่วนตนเพื่อประโยชน์สุขส่วนรวมอย่างแท้จริง นั่นก็เพราะเมื่อครั้งทรงพระเยาว์ ที่ได้รับการอบรม จากสมเด็จย่าเรื่องการให้ ด้วยการทรงตั้งกระป๋องออมสินที่เรียกว่า “กระป๋องคนจน” ไว้กลางที่ประทับ เมื่อพระองค์นำเงินไปทำกิจกรรมแล้วมีกำไร จะต้องถูกเก็บภาษี ด้วยการต้องนำมาหยอดใส่กระปุกนี้ 10% และทุกสิ้นเดือน สมเด็จย่าจะทรงเรียกประชุมเพื่อสอบถามความคิดเห็นว่า จะนำเงินสะสมที่ได้จากการเก็บภาษีไปใช้ทำอะไร เช่น อาจจะนำไปมอบให้เด็กกำพร้า หรือทำกิจกรรมเพื่อคนยากจน เป็นต้น

ทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงปฏิบัติต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน จนเป็นต้นแบบของ “พระมหากษัตริย์นักออม” ให้คนไทยยึดถือเป็นแบบอย่าง ซึ่งทุกคนสามารถนำแนวทางดังกล่าวไปปรับใช้เพื่อความเจริญรุ่งเรื่องของตนเอง ครอบครัว และประเทศชาติต่อไป

ใช้จ่ายอย่างประหยัดเพื่อเป็นหลักสร้างความสุข ตามพระราชดำรัสของพ่อหลวง

“การใช้จ่ายอย่างประหยัดนั้น จะเป็นหลักประกันความสมบูรณ์พูนสุขของผู้ประหยัดเอง และครอบครัวช่วยป้องกันความขาดแคลนในวันข้างหน้า การประหยัดดังกล่าวนี้จะมีผลดีไม่เฉพาะแก่ผู้ที่ประหยัดเท่านั้น ยังเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติด้วย” พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๒

jumbo jili

การประหยัดอดออมเป็นหนทางสู่รากฐานแห่งความสำเร็จ การที่เรารู้จักคุณค่าของสิ่งของ และใช้สิ่งของเหล่านั้นอย่างมีประสิทธิภาพ คือ แนวทางประหยัดที่นอกจากจะดีกับตัวเราเองแล้ว ยังดีต่อส่วนรวม คือ ช่วยให้การใช้ทรัพยากรในภาพรวมเป็นไปอย่างมีประสิทธิผลมากขึ้น ดังคำพระราชดำรัสของพ่อหลวง ที่กล่าวไว้ ลองมาดูแนวคิดของการประหยัดเพื่อใช้เป็นหลักสร้างความสุข ดังต่อไปนี้

แนวคิดแรก “รู้จักพอคือความสุขที่แท้จริง”

เคยคิดกันบ้างไหมครับ เวลาเราอยากได้อะไร เมื่อเราได้มันมาแล้ว กลับรู้สึกเฉย ๆ และในใจก็อยากได้อีก อยากได้ของใหม่ อยากได้มือถือรุ่นใหม่ อยากได้รถคันใหม่ อยากไปเที่ยวต่างประเทศอีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่สิ่งเหล่านั้นไม่จำเป็นเลย เพราะมือถือเครื่องเก่าก็ยังใช้ได้ รถคันเก่าก็ยังขับได้ไม่มีปัญหา หรือการไปเที่ยวต่างประเทศก็ไม่จำเป็นมากนัก หรือเพิ่งไปเที่ยวมาแต่กลับอยากไปอีก สิ่งเหล่านี้คือ “อารมณ์ของความอยาก” เมื่อเราได้มาแล้วมันก็เติมไม่เต็ม พอเราได้สิ่งที่อยากแล้ว อารมณ์ที่ตามมาคือ “เฉย ๆ” ทำให้เราอยากได้อีกไปเรื่อย ๆ ไม่จบ

สล็อต

สำหรับคำสอนของพ่อหลวงที่ให้เราพอเพียง หมายถึง ให้เรากำจัดความอยากส่วนเกินออกไป ถ้าเรารู้สึกเติมไม่เต็มลองหันไปมองดูคนที่ขาดโอกาสเหมือนเรา ไม่มีเงินพอจะไปซื้อสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เหมือนกับเรา เพียงแค่มีข้าวกินอิ่มท้องก็ทำให้เขาเหล่านั้นพอใจมากแล้ว คิดได้แบบนี้ความอยากก็จะทำอะไรใจเรายากขึ้น ทำให้เรารู้สึกพอเพียง เมื่อเราพอ เราก็ไม่ต้องจ่ายส่วนเพิ่ม และนั่นทำให้เราประหยัดเงินได้มากโข นำเงินที่เหลือเก็บไปต่อยอดให้งอกเงยเพื่ออนาคตของเราได้อีกต่างหาก

แนวคิดที่สอง “การประหยัดนั้นถ้าทำกันเยอะ ๆ จะทำให้โลกใบนี้น่าอยู่ขึ้น”

สล็อตออนไลน์

ทำไมการประหยัดนั้นถ้าทำกันเยอะ ๆ จะทำให้โลกใบนี้น่าอยู่ขึ้น ? นั่นก็เพราะถ้าเราประหยัดเราจะใช้ทรัพยากรน้อยลง ยกตัวอย่างเช่น ยาสีฟันที่เราบีบใช้ จนเหลือก้นหลอด หลายคนขี้เกียจบีบยาสีฟันก้นหลอด ก็จะทิ้งขว้างไปทั้ง ๆ ที่ยังมียาสีฟันเหลืออยู่ บางคนอาจคิดว่าแค่เรื่องเล็ก ๆ ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหน แต่ลองคิดดูครับว่า ถ้าน้ำหนักยาสีฟันก้อนหลอดเหลือซัก 1 กรัม คนไทยที่ใช้ยาสีฟัน 60 ล้านคน ไม่ยอมใช้ให้หมดเพราะขี้เกียจบีบยาสีฟันก้นหลอดนั้น เท่ากับวัน ๆ หนึ่งจะมียาสีฟันเหลือทิ้งกว่า 60 ล้านกรัมทีเดียว แบบนี้มันเยอะไม่ใช่เล่นเลยนะครับ

พ่อหลวงของเราได้ทำสิ่งนี้เป็นตัวอย่าง เพราะพระองค์ท่านประหยัดใช้ แม้แต่ของเล็ก ๆ สิ่งที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน พระองค์ท่านทำให้เป็นตัวอย่างกับเรา ให้เราเห็นจากการกระทำ การที่เราใช้ของอย่างประหยัด ลำพังคน ๆ เดียวอาจไม่เกิด Impact อะไรมากมาย แต่ถ้าทำเป็นล้านคน เป็นสิบล้านคน จะช่วยประหยัดทรัพยากรธรรมชาติได้มากมายแค่ไหน และนั่นจะทำให้โลกดีขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย ทำให้เราใช้ทรัพยากรน้อยลง เหลือไว้ให้ลูกหลานได้ใช้อีกหลายรุ่นจะดีกว่าครับ

jumboslot

แนวคิดที่สาม “การประหยัดจะเป็นหลักประกันของครอบครัว”

สำหรับอานิสงค์ของความประหยัดนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะตัวเราเพียงอย่างเดียว หากเรามีครอบครัวที่ต้องดูแล การประหยัดจะเป็นหลักประกันของครอบครัวได้อีกด้วย เพราะถ้าเรากินอยู่ ใช้จ่ายอย่างไม่ฟุ่มเฟือย ก็จะทำให้ภาระค่าใช้จ่ายในบ้านน้อยลง มีเงินเหลือเก็บมากขึ้น และยิ่งเราสามารถนำเงินไปลงทุนต่อยอดให้งอกเงยได้ ยิ่งเป็นผลดีต่อครอบครัว ในทางกลับกัน หากเราใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ไม่คิดหน้าคิดหลัง รูดบัตรเครดิต แล้วไปจ่ายขั้นต่ำโดยไม่จำเป็น หรือไปกู้เงินเพื่อซื้อสิ่งที่ไม่จำเป็น สิ่งนี้นอกจากจะไม่เป็นผลดีแล้วยังอาจเป็นระเบิดเวลาได้ ถ้าเราต้องตกงาน ขาดรายได้ ก็จะทำให้ลำบากในภายหลัง

slot

อย่างไรก็ตามสำหรับการประหยัดจะเป็นหลักประกันของครอบครัวได้อย่างแน่นอน เพราะถ้าเราใช้จ่ายอย่างประหยัด และมีเงินเหลือเก็บในยามฉุกเฉินมากขึ้น เวลาเกิดปัญหา อุปสรรคชีวิต ก็สามารถนำเงินส่วนนี้มาจุนเจือ เพื่อให้ผ่านพ้นช่วงที่ยากลำบากไปก่อน แต่ถ้าหากไม่เกิดเหตุการณ์ไม่ดี ทุกอย่างราบรื่น เงินก้อนนี้ก็จะสะสมทบต้นไปเรื่อย ๆ เมื่อนำไปลงทุนต่อยอดจนมากเข้า อนาคตมันอาจกลายเป็นเงินก้อนหลักของครอบครัวยามที่เราเกษียณไปแล้ว ไม่มีแรงทำงานแล้ว บางคนนำเงินไปซื้อกองทุนรวมมีเงินปันผลเลี้ยงยามแก่ หรือแม้แต่นำเงินไปลงทุนซื้ออสังหาฯ ปล่อยเช่า ก็ทำให้สามารถเก็บค่าเช่ากินยามเกษียณได้เช่นกัน

ที่กล่าวมาทั้งหมด คือ แนวคิดการประยุกต์ใช้หลักการประหยัดของพ่อหลวงที่ได้สอนเราไว้เป็นมรดกทางปัญญา ที่เราทุกคนควรน้อมเกล้านำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดผลจริง อันจะนำความสุข และความเจริญมาสู่ชีวิตของเราได้ แถมยังสร้างความสุขง่าย ๆ อย่างพอเพียงนั่นเองครับ

ออมแบบคนสวิตเซอร์แลนด์

มีบทความเรื่องการออมเงินของคนสวิตเซอแลนด์ ว่าเขาจะไม่สอนให้ลูกหลานออมเงิน แต่ให้ใช้เงิน (แบบรู้คุณค่า) เลยอาจจะทำให้คนที่อ่านบทความนั้น เข้าใจผิดคิดว่า การออมเงินเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญ

jumbo jili

ผมคิดว่าบริบทของคนไทยกับคนสวิตเซอร์แลนด์ไม่เหมือนกัน มีความแตกต่างกันหลายอย่าง ทั้งระบบภาษี กฏหมาย วัฒนธรรม การใช้จ่าย นิสัยส่วนตัว ค่านิยม จึงไม่สามารถบอกได้ว่า หลักการคิดของคนสวิสเซอร์แลนด์จะเหมาะสมสำหรับคนไทย

  1. คนสวิตเซอร์แลนด์ไม่มีนิสัยการอวดรวย ถ้าใครที่อวดรวยกลับถูกคนอื่นมองว่า ขี้อวด ดังนั้นวัฒนธรรมบริโภคนิยมแบบอเมริกันจึงไม่สามารถใช้ได้ในประเทศนี้ ถ้าพูดกันแบบตรงๆ ไม่โกรธกัน คนไทยมีนิสัยขี้อวดรวยมากกว่า และการอวดรวยสามารถแสดงออกได้ในหลายรูปแบบ บางคนอวดบ้าน อวดรถ อวดนาฬิกา อวดเครื่องประดับ อวดเงินเก็บในธนาคาร
    การที่ไม่มีนิสัยเอาความรวยมาเบ่งทับกัน จึงมองว่า เงินไม่ใช่วัตถุเพื่อการสะสม แต่เป็นเพียงเครื่องอำนวยความสะดวกในการจับจ่ายใช้สอย

สล็อต

ดังนั้นคนสวิตเซอร์แลนด์จึงไม่ได้มีความปรารถนาที่จะเก็บสะสมเงินเพื่อแสดงถึงความมั่งคั่งของตนเองแต่อย่างใด

  1. คนสวิตเซอร์แลนด์เป็น Perfectionists คือนิยมชมชอบความสมบูรณ์แบบ ดังนั้นสินค้าและบริการจะต้องมีอรรถประโยชน์ มีคุณภาพสูงสุด ไม่นิยมสินค้าราคาถูกแต่คุณภาพต่ำ
    เราจะสังเกตได้จาก สินค้าจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ไม่ว่าจะเป็น นาฬิกา ของประกับตกแต่งบ้าน มีดพับ มีคุณภาพที่สูงมาก มีดพับ Victorinox เน้นเรื่องอรรถประโยชน์การใช้สอยแบบสูงสุด แต่ไม่เน้นเรื่องรูปแบบดีไซน์
    ดังนั้นคนสวิตเซอร์แลนด์จึงยอมจ่ายแพง เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพดี มีประโยชน์ใช้สอยสูง เพราะเขาถือว่าซื้อครั้งเดียวใช้ได้เป็นสิบปี ดีกว่าซื้อมาไม่นานก็ต้องเปลี่ยน

สล็อตออนไลน์

  1. ระบบสวัสดิการดี มีระบบการจ่ายเงินชดเชยการว่างงาน ระบบสาธารณสุขที่เข้าถึงคนทุกเพศทุกวัยระบบการศึกษาทั้งในสายสามัญและสายอาชีพที่รองรับได้เพียงพอกับจำนวนประชากร
    ดังนั้นการออมเงินเพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน จึงมีความจำเป็นน้อยกว่าคนไทย เพราะทุกอย่าง เราต้องดูแลตัวเอง เราจึงจำเป็นต้องมี เงินออม ไว้ใช้จ่ายในเวลาจำเป็น
  2. ภาษีการรับมรดก (Inheritances Tax) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีการจัดเก็บภาษีการรับมรดก โดยมีอัตราส่วนที่สูงที่สุดในโลกคือร้อยละ 55 (ถ้ามีมรดกพันล้านจะถูกภาษี 550 ล้าน) ดังนั้นการนิยมการเก็บออมไว้เพื่อเป็นมรดกให้ลูกหลาน แล้วจะต้องจ่ายภาษีเกินครี่ง จึงเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยจูงใจให้กับคนเก็บออมเท่าไหร่ ซึ่งแตกต่างจากประเทศไทยที่ไม่มีการจัดเก็บภาษีการรับมรดก

jumboslot

จากบริบทที่แตกต่างกันระหว่างประเทศไทยกับสวิตเซอร์แลนด์ เราจึงไม่สามารถใช้บรรทัดฐานของคนสวิส มาใช้ในประเทศไทยได้
ผมมีความเห็นว่า การออม เป็นสิ่งสำคัญ และเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต ดังจะเห็นได้จากสถานการณ์ล้อคดาวน์จากโควิด-19 คนที่ไม่มีเงินเก็บออมเลย เวลาเจอสถานการณ์ไม่ปกติ ทำให้ขาดรายได้อย่างฉับพลัน จะไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ต้องให้ภาครัฐมาช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

ในขณะที่คนที่ยังมีเงินออมเก็บ กลับได้รับผลกระทบน้อยกว่า เพราะอย่างน้อยเงินออมในยามฉุกเฉินนี่แหละที่จะทำให้พวกเขาผ่านพ้นสถานการณ์ไปได้โดยไม่เดือดร้อนมากนัก

slot

เราไม่จำเป็นต้องไปลอกเลียนแบบวิธีการสอนของประเทศไหน เราต้องยึดมั่นในแนวทางที่ผู้หลักผู้ใหญ่ของเราสอนเอาไว้ตั้งแต่ยังเด็ก
มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท
อย่าให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์
มีน้อยจงใช้น้อยค่อยบรรจง
อย่าจ่ายลงให้มากจะยากนาน
ไม่ควรซื้อก็อย่าไปพิไรซื้อ
ให้เป็นมื้อเป็นคราวทั้งคาวหวาน
เมื่อพ่อแม่แก่เฒ่าชรากาล
จงเลี้ยงท่านอย่าให้อดระทดใจ