3 ข้อต้องทำ ก่อนจะซื้อกองทุนรวม

หากเราเป็นคนหนึ่งที่มีประสบการณ์การลงทุนน้อย มีเงินลงทุนไม่มาก หรือไม่มีเวลาในการวิเคราะห์ติดตามข่าวสารข้อมูลอย่างใกล้ชิด ดังนั้นการเลือกซื้อกองทุนรวมจึงเป็นคำตอบสำหรับคนทั่วไป นอกจากจะได้ลงทุนแล้วยังเป็นการออมเงินเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีกลับมาให้เราได้

jumbo jili

ในส่วนของผลตอบแทนนั้นจะอยู่ใน 2 รูปแบบ คือ

  1. ส่วนต่างกำไร หรือที่เรียกว่า Capital gain
  2. เงินปันผล หรือ Dividend
    แต่เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า กองทุนที่เราจะซื้อมีปันผลให้เราหรือไม่ ต้องศึกษารายละเอียดให้ชัดเจนครับ

สล็อต

นี้เป็น 3 ขั้นตอน “ต้องทำ” ก่อนจะซื้อกองทุนรวมฉบับมือใหม่ มีอะไรบ้าง มาดูกันครับ

  1. คัดเลือกธีมที่เราจะลงทุน คัดเลือกกองทุนรวม
    ก่อนจะซื้อ เราต้องเลือกก่อนว่าเราจะเลือกลงทุนในธีมอะไร ธีมเทคโนโลยี ธีมการลงทุนต่างประเทศ กองทุนหุ้นจีน กองทุนหุ้นอเมริกา ซึ่งปัจจุบันมีให้เราเลือกมากมายตามแต่ละ บลจ.ที่มีอยู่มาก

** ทดลองคัดกรองกองทุนรวมได้ที่ www.aimc.or.th และ www.morningstarthailand.com

  1. เจาะลึกข้อมูล อ่านหนังสือชี้ชวน และ Fund Fact Sheet
    เมื่อเราธีมและกองทุนที่ต้องการแล้ว อันดับต่อมาคือศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลให้เข้าใจว่ากองทุนนี้ลงทุนในอะไรบ้าง มีสัดส่วนเท่าไร มีนโยบายจ่ายปันผลไหม โดยการอ่านจากหนังสือชี้ชวนเสนอขายหน่วยลงทุน และ Fund Fact Sheet ซึ่งเราสามารถหาอ่านได้จากเว็บไซด์ของ บลจ. นั้นๆเองได้เลย

สล็อตออนไลน์

  1. วิเคราะห์ปัจจัยอื่นๆที่สะดวกต่อเรา
    เมื่อเลือกกองทุนที่ถูกใจแล้วเราอาจจะศึกษาปัจจัยอื่นๆด้วย เช่น

ค่าธรรมเนียมของกองทุน – การซื้อขายแต่ละครั้งต้องเสียค่าธรรมเนียม ค่าบริหารกองทุนเท่าไร มีความคุ้มค่ามากไหม เพราะค่าธรรมเนียมถือเป็นต้นทุนของผู้ถือหน่วยที่จะต้องจ่าย
ถ้ากองทุนมีขนาดเล็ก เราอาจจะต้องเสียค่าธรรมเนียมมาก
ถ้ากองทุนมีขนาดใหญ่ เราอาจจะเสียค่าธรรมเนียมน้อย

jumboslot

ความสะดวกในการซื้อ
ดูว่า บลจ. นั้นๆซื้อขายได้ง่ายไหม มีการซื้อขายผ่านแอป ผ่านอินเตอร์เน็ต หรือซื้อขายที่สาขาเพียงอย่างเดียว

สุดท้ายก่อนตัดสินใจซื้อกองทุน นอกจากจะทำความเข้าใจกองทุนแล้ว เรายังต้องทำความเข้าใจตัวเองด้วยว่ารับความเสี่ยงได้มากแค่ไหน เงินที่เราลงทุนเป็นเงินที่เราพร้อมจะสูญเสียไหมถ้าไม่ได้เป็นไปตามที่คาด เพราะการลงทุนทุกชนิดมีความเสี่ยง เราสามารถสร้างผลตอบแทน สร้างกำไรได้ ก็ขาดทุนได้เช่นเดียวกัน

slot

คิดว่าใครหลายๆ คนก็ทราบถึงกองทุนรวม หรือที่เรียกภาษาอังกฤษว่า Mutual Fund ว่าเป็นการลงทุนประเภทหนึ่ง ซึ่งผู้ลงทุนสามารถที่จะเลือกความกองทุนที่เหมาะกับลักษณะการลงทุนของตนเองได้ เช่นรับความเสี่ยงได้น้อย ควรเลือกกองทุนแบบนี้ หรือถ้ารับได้มาก ก็ควรไปลงกองทุนนั้น

แล้วเราจะทราบได้อย่างไรว่ากองทุนไหนที่เราควรจะเลือก 10 หัวข้อที่ควรจะต้องดู

  1. นโยบายหลัก
    นโยบายหลัก หมายถึง กองทุนรวมนั้นนำเงินของนักลงทุนไปลงทุนในสินทรัพย์ไหน โดยสินทรัพย์หลักที่กองทุนรวมไปลงทุนมี 6 ประเภท คือ ตลาดเงิน ตราสารหนี้ อสังหาริมทรัพย์ ตราสารทุน สินค้าโภคภัณฑ์ และแบบผสมของกองทุนที่กล่าวมา
  2. นโยบายรอง
    นโยบายรอง หมายถึง กองทุนรวมนั้นมีลักษณะการลงทุนที่พิเศษนอกเหนือไปจากนโยบายหลักอย่างไรบ้าง ซึ่งนโยบายรองเหล่านี้มักนำมาซึ่งผลตอบแทนที่แตกต่างกันในกองทุนรวมที่ลงทุนในสินทรัพย์เดียวกัน
  3. เงื่อนไขทางภาษี
    อันนี้ก็สำคัญ สำหรับพนักงานเงินเดือนที่ต้องเสียภาษี กองทุนบางอย่างเราสามารถนำไปหักภาษีได้ ช่วยให้ได้รับเงินคืน เช่นพวกที่อยู่ใน LTF หรือ RMF
  4. พอร์ตการลงทุน
    สิ่งสำคัญที่จะขาดไม่ได้คือ ดูพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตัวกองทึนรวมที่เราสนใจด้วย เพราะมันจะบอกได้ว่ากองทุนรวมนั้นมีโอกาสได้กำไร หรือขาดทุน นักลงทุนควรทำความรู้จักว่ากองทุนรวมที่สนใจลงทุนในสินทรัพย์อะไรอยู่บ้าง และสินทรัพย์นั้นมีแนวโน้มในอนาคตเป็นอย่างไร

ซื้อกองทุนที่ไหนดีกว่ากัน

สวัสดีครับ นักลงทุนทุกท่าน กลับมาพบกันกับผม “หมอนัท” อีกครั้งที่คอลัมน์ Fund Clinic แห่งนี้ ปกติแล้วผมจะเขียนบทความถึงการลงทุนกับกองทุนรวมเสียเป็นส่วนใหญ่ ว่ากองทุนไหนที่น่าสนใจ หรือว่าอยู่ในกระแส และมีแนวโน้มการลงทุนที่ดีก็จะนำมาพูดคุยกันอย่างเสมอๆ แต่วันนี้จะขอพูดคุยเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับการลงทุนสักเล็กน้อย

jumbo jili

ซึ่งเป็นเรื่องสบายๆ แต่ก็เป็นเรื่องที่มีคำถามเข้ามาหาผมมากพอสมควร และเป็นหนึ่งในคำถามยอดนิยมเลยก็ว่าได้ครับ

เนื่องจากคนส่วนใหญ่ที่อยากจะเริ่มลงทุนในกองทุนรวมก็มักจะเสาะหา “สถานที่ซื้อ หรือแหล่งที่ซื้อกองทุน” ที่สะดวกสบาย ใกล้บ้าน หรือว่าเป็นบริษัทที่เชื่อถือได้เป็นหลัก หรือบางครั้งก็พยายามถามว่าซื้อกับธนาคารไหนดี ซึ่งนักลงทุนหลายๆ คน โดยเฉพาะมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นคงคิดว่าน่าจะมีธนาคารที่เก่งกาจในเรื่องนี้ และมีกองทุนที่ดี และก็คงคิดว่าผลตอบแทนจากกองทุนที่มาจากธนาคารนั้น ต้องดีแน่ๆ เพื่อที่จะได้เลือกลงทุนกับธนาคารแห่งนั้นที่เดียวไปเลย ซึ่งผมจะบอกเลยครับว่า ไม่มีธนาคารไหนที่จะมีกองทุนที่ดีทุกกองทุนครับ แต่ละธนาคารจะมี

จุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป แต่ว่าการลงทุนในกองทุนนั้นไม่จำเป็นต้องซื้อกองทุนผ่านธนาคารเพียงอย่างเดียวนะครับ มีอีกหลายที่เลยที่เราสามารถลงทุนได้ และบางครั้งน่าจะตอบโจทย์การลงทุนในกองทุนมากกว่าเสียด้วยซ้ำครับ

สล็อต

แต่ก่อนที่เราจะไปรู้จักว่ามีที่ไหนบ้าง เรามารู้จักตัวย่อและผู้เกี่ยวข้องของบริษัทที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการลงทุนกันก่อนนะครับ

1.บลจ. = บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน-มีหน้าที่คือ เป็นโรงงานผลิตกองทุนออกมาขายใหักับนักลงทุนนั่นเองครับ

2.บล. = บริษัทหลักทรัพย์-มีหน้าที่เป็นนายหน้าในการซื้อขาย หุ้น กองทุน และสินทรัพย์อื่นๆ พูดง่ายๆ ว่า บล.จะเอากองทุนของแต่ละ บลจ.ที่ผลิตออกมา มาขายต่อให้กับนักลงทุนนั่นเองครับ

3.บลน. = บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน-มีหน้าที่เป็นนายหน้าในการซื้อขายกองทุนเพียงอย่างเดียวครับ ไม่เหมือนกับ บล.ที่สามารถเป็นนายหน้าซื้อขายหุ้นได้ด้วย

4.ตัวแทนซื้อขายหน่วยลงทุน-อันนี้เป็นบุคคลธรรมดาที่มีใบอนุญาตในการทำหน้าที่เป็นผู้แนะนำ และซื้อขายหน่วยลงทุน เราอาจจะเคยเห็นเพื่อนๆ เราที่ทำงานด้วยกัน ขายประกันใช่ไหมครับ คล้ายกันครับ แต่เพื่อนๆ กลุ่มนี้จะขายกองทุนแทนนั่นเอง

คราวนี้เรามาต่อกันครับ เชื่อว่าหลายๆ คน อยากรู้แล้วใช่ไหมครับว่ามีทางไหนบ้างที่เราจะซื้อกองทุนได้อย่างสบายใจ ตามผมมาครับ

สล็อตออนไลน์

ทองคำ 13 ส.ค. ขึ้น 100 บาท
บาทเปิด 33.11บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่า
ซื้อกองทุนกับธนาคาร และ บลจ.โดยตรง

ข้อดี-อันนี้น่าจะเป็นช่องทางที่ง่ายที่สุด เพียงแค่เดินเข้าไปในธนาคารที่อยู่ใต้ตึกที่ทำงาน หรือว่าใกล้บ้าน และวิธีการก็ง่ายมากครับ เหมือนกับการเปิดบัญชีเงินฝากเท่านั้นครับ ท่านก็สามารถลงทุนในกองทุนได้แล้ว

นอกจากนี้ ยังได้รับสิทธิพิเศษต่างๆ โดยตรง เช่น ถ้าลงทุนในกองทุน EEE จะได้บัตรเครดิต หรือสิทธิพิเศษในระดับ Gold ด้วยนั่นเอง

ข้อสังเกต-วิธีนี้ส่วนใหญ่ธนาคารเองก็จะเลือกขายเฉพาะกองทุนที่ออกโดย บลจ.ที่เป็นเครือข่ายของธนาคารนั้นๆ ครับ เช่น ธนาคาร AAA ก็จะมีขายกองทุนที่ออกโดย บลจ. AAA ซึ่งอยู่ในเครือเดียวกัน หรือว่ามีความผูกพันกันอยู่ครับ

jumboslot

และกองทุนดีๆ ไม่ได้รวมกันอยู่ที่เดียว เช่น กองทุนหุ้นของธนาคารนี้น่าสนใจ แต่กองทุนตราสารหนี้ของอีกธนาคารทำผลตอบแทนได้ดี เราก็ควรที่จะไปซื้อกองทุนตราสารหนี้จากอีกธนาคารนึง ซึ่งจะเสียเวลาเยอะพอสมควรครับ และการที่จะติดตามพอร์ตการลงทุนก็เป็นไปได้ยากเช่นกันครับ

ซื้อกับ บล.และ บลน.หรือตัวแทนขายหน่วยลงทุน

ข้อดีคือ เนื่องจากว่า บล.และ บลน.นั้น เป็นตัวแทนขายที่ค่อนข้างจะมีกองทุนให้เลือกมากกว่าครับ คือ มีกองทุนดีๆ ของแต่ละ บลจ.มารวมกับไว้ในที่เดียว แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นกับว่า บล. หรือว่า บลน.นั้น ได้ตกลงกับ บลจ.ไว้กี่เจ้า ซึ่งถ้ามีกองทุนหลากหลายก็น่าสนใจ

slot

เนื่องจากว่า บล.และ บลน.นั้นจะมีการรวมผลตอบแทนจากกองทุน มีข้อมูลกองทุน รวมถึงบทวิเคราะห์เปรียบเทียบกองทุนได้อย่างกว้างขวางเลยทีเดียวครับ นอกจากนี้ค่าธรรมเนียมก็ไม่ได้แพง

ไม่ได้เสียค่าธรรมเนียมในการลงทุนเพิ่มมากขึ้นแต่อย่างใด

ส่วนข้อสังเกตคือ คนที่ลงทุนกับ บล.อาจจะไม่ได้รับสิทธิพิเศษเท่าไหร่ ไม่เหมือนกับการลงทุนโดยตรงกับทางธนาคาร หรือ บลจ.น่าจะได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการเลือกที่ซื้อกองทุนมากขึ้นนะครับ ส่วนวันนี้ผมขอลาไปก่อน แล้วพบกันครั้งหน้า สวัสดีครับ

ทำไม SSF ถึงน่าซื้อในปีนี้

หนึ่งในตัวช่วยลดหย่อนภาษีที่น่าสนใจประจำปี 2564 คงหนีไม่พ้นกับกองทุน SSF หรือ กองทุนรวมเพื่อการออม ซึ่งถือว่า กองทุน SSF นี้เป็นกองทุนรวมประเภทหนึ่งที่สามารถเลือกลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท และเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาทุกคน

jumbo jili

5 เทคนิคเลือกกองทุน SSF อย่างไรให้เหมาะกับตัวเอง

โดยเงื่อนไขในการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีนั้น มีดังนี้

ผู้เสียภาษีสามารถซื้อกองทุนรวม SSF ได้สูงสุด 30 เปอร์เซ็นต์ของเงินที่ต้องเสียภาษีในแต่ละปี แต่เงินที่ซื้อสูงสุดต้องไม่เกิน 200,000 บาท
นอกจากนั้นเมื่อนำยอดซื้อกองทุนรวม SSF มารวมกับค่าลดหย่อนในกลุ่มเกษียณ ได้แก่ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) + กบข./กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ/กองทุนสงเคราะห์ครูเอกชน + กองทุนการออมแห่งชาติ + ประกันชีวิตแบบบำนาญ แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาทอีกด้วย
หากซื้อ กองทุน SSF ในปีไหนจะได้สิทธิลดหย่อนภาษีในปีนั้นทันที โดยไม่มีเงื่อนไขให้ซื้อติดต่อกันเหมือนกับ RMF
เมื่อซื้อแล้ว ต้องถือครองกองทุน SSF เป็นเวลา 10 ปี (เต็ม) นับตั้งแต่วันที่ซื้อกองทุน

สล็อต

ซึ่งถ้าหากใครปฎิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ได้ และขายกองทุนหลังจากที่ครบกำหนดแล้ว กฎหมายยังยกเว้น กำไรที่ได้จากการขายคืนหน่วยลงทุน (Capital Gain) ให้ไม่ต้องเสียภาษีอีกด้วย

อย่างที่บอกไปว่า กองทุน SSF มีหลายระดับความเสี่ยงให้เลือกลงทุนตั้งแต่ความเสี่ยงต่ำไปจนถึงความเสี่ยงสูง และยังให้สิทธิ์ในการสับเปลี่ยนกองทุนได้ตลอด (การสับเปลี่ยนในกลุ่มกองทุน SSF ไม่ถือเป็นการขายและซื้อหน่วยลงทุนใหม่) หากไม่พอใจกับผลการดำเนินงานของบลจ. ที่ลงทุนอยู่ในปัจจุบัน

จะเห็นว่าเงื่อนไขของการลงทุนในกองทุน SSF นั้นเหมาะกับการถือครองในระยะยาว ซึ่งนอกจากสิทธิประโยชน์ทางภาษีแล้ว สิ่งที่ได้เพิ่มเติมจากการลงทุน คือ ผลตอบแทนนั่นเอง

อีกเหตุผลสำคัญที่ กองทุน SSF เป็นกองทุนที่น่าลงทุนในปีนี้ ก็เพราะว่ามันถูกออกแบบมาให้สำหรับคนที่เป้าหมายในระยะยาว (10 ปีขึ้นไป) โดยที่ไม่ไปรวมกับส่วนที่เป็นการลงทุนเพื่อการเกษียณอย่าง RMF เช่น กลุ่มเด็กจบใหม่ หรือ กลุ่มที่เริ่มทำงาน ที่ต้องการเก็บเงินตามเป้าหมายในระยะ 10 ปีขึ้นไป เพื่อรองรับอนาคตข้างหน้า หรืออาจจะเป็นกลุ่มที่ต้องการเก็บเงินแยกออกจากเงินเกษียณตามวัตถุประสงค์ด้านอื่นๆ เพราะข้อดีของกองทุน SSF คือ เราไม่จำเป็นต้องซื้อทุกปี แค่ซื้อแล้วต้องถือครองตามเวลาที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น

สล็อตออนไลน์

ข้อดีของกองทุน SSF และเทคนิคการเลือก กองทุน SSF ให้เหมาะสม

อย่างไรก็ดี นอกจากจะเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายที่ว่ามาแล้ว ยังมีเทคนิคเลือกกองทุน SSF ให้โดนใจแบบง่ายๆ มาฝากกันด้วย โดยใช้หลักการ 3 ข้อดังนี้

เป้าหมายการลงทุนกองทุน SSF ในระยะยาว

  1. ถามความต้องการของตัวเองก่อน นั่นคือ เป้าหมายในการลดหย่อนภาษี และ ลงทุนระยะยาว 10 ปีขึ้นไป พร้อมกับกระแสเงินสด (สภาพคล่อง) ในแต่ละปี ถ้าหากตอบคำถามตัวเองได้ว่า ในเมื่อเราเสียภาษี และมีเงินอยู่ พร้อมที่จะลงทุนตามเป้าหมายที่วางไว้ข้างหน้าอย่างน้อย 10 ปี กองทุน SSF นี้ก็อาจจะเป็นคำตอบที่น่าสนใจ

ประเมินผลตอบแทนและความเสี่ยงกองทุน SSF

jumboslot

  1. ประเมินผลตอบแทน ความเสี่ยง และสไตล์การลงทุนของกองทุนที่เหมาะกับเรา ทั้งเรื่องการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ตราสารหนี้ อสังหาริมทรัพย์ หุ้น ทองคำ หรือ แบบผสมผสานการลงทุนในหลายสินทรัพย์ ก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสมในแต่ละระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ซึ่งถ้าหากเรามีเป้าหมายที่ชัดเจน พร้อมกับประเมินความเสี่ยงไว้ครบถ้วนแล้ว การเลือกสินทรัพย์ลงทุนก็จะยิ่งง่ายขึ้นไปอีก

ค่าธรรมเนียม เงินปันผล และผลตอบแทนของกองทุน SSF

slot

  1. พิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าธรรมเนียม เงินปันผล ผลตอบแทนที่ผ่านมา โดยปัจจัยในการพิจารณาอยู่ที่น้ำหนักของแต่ละคนที่ให้กับเรื่องนั้น ๆ เช่น ค่าธรรมเนียมเหมาะสมกับผลการดำเนินงานหรือไม่ เราอยากได้รับเงินปันผลเป็นกระแสเงินสดมาเรื่อย ๆ หรือไม่ (แต่ต้องแลกกับการเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย 10%) ไปจนถึงผลการดำเนินงานของกองทุนที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ เนื่องจากกองทุน SSF บางกองเป็นกองที่มีนโยบายการลงทุนเหมือนกับกองทุนเดิมของ บลจ. ซึ่งตรงนี้ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ควรนำมาพิจารณาด้วยว่าเราให้น้ำหนักกับเรื่องไหนเป็นพิเศษหรือไม่

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการลงทุนในกองทุนรวม

กองทุนรวม มักจะเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ ที่นักลงทุนมือใหม่จะเลือกลงทุน เนื่องจากยังไม่มีประสบการณ์การลงทุนมากนัก จึงไม่กล้าที่จะเลือกลงทุนในหุ้นเอง หรือไม่มีเวลาตามข่าวสารตลาด การที่มีผู้จัดการกองทุนนำเงินไปบริหารการลงทุนให้น่าจะดีกว่า แม้จะเป็นนักลงทุนมือใหม่ แต่มักจะเห็นว่าได้มีการศึกษาหาความรู้อยู่ตลอด ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับการลงทุนในกองทุนรวมขึ้นมา มาดูกันว่าคำถาม 10 อันดับแรกที่พบเจอบ่อยเป็นคำถามอะไรกันบ้าง

jumbo jili

อันดับ 10 ตอนเช้าตลาดหุ้นตกหนัก ซื้อเพิ่มเลยดีไหม

การคิดราคา หรือ NAV ของกองทุน จะใช้ราคาปิดของตลาดหุ้นในแต่ละวัน ดังนั้นการดูภาพรวมตลาดจะเหมาะกับนักลงทุนที่ซื้อกองทุนดัชนี หากตอนเช้าตลาดเป็นขาลง แต่ตอนตลาดปิดพลิกกลับมาเป็นขาขึ้น จะทำให้ราคา NAV ของวันนี้จะสูงขึ้นกว่าเมื่อวาน

อันดับ 9 ยิ่งกระจายความเสี่ยงยิ่งดี งั้นซื้อหลายๆ กองดีไหม

ถ้าเป็นกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนคล้ายๆ กัน เช่น กองทุนรวมหุ้น การถือหลายๆ กอง อาจจะเกิดการลงทุนทับซ้อนกันได้ เพราะจะมีการถือหุ้นตัวเดียวกัน แบบนี้จะไม่ช่วยในเรื่องการกระจายความเสี่ยง หากต้องการเน้นลงทุนในหุ้นเป็นหลัก การกระจายการลงทุนไปในหุ้นประเทศอื่นๆ อาจจะช่วยลดความผันผวนได้ เนื่องจากเศรษฐกิจของแต่ละประเทศจะไม่ขึ้นและลงพร้อมๆ กัน ทำให้สามารถรักษาผลตอบแทนของพอร์ตได้

อันดับ 8 ซื้อกองทุน Passive หรือ Active ดีกว่ากัน

การจะเลือกแบบไหนนั้น ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและความสามารถในการรับความเสี่ยงของนักลงทุนแต่ละท่าน กองทุน Passive จะเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับตลาด สามารถรับความผันผวนได้บ้าง ส่วนกองทุน Active จะมีความผันผวนมากกว่า เนื่องจากจะมีโอกาสที่ผลตอบแทนจะสูงกว่าตลาดได้ แต่ก็มีโอกาสที่จะขาดทุนได้มากกว่าตลาดเช่นกัน ดังนั้นจึงเหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง

สล็อต

อันดับ 7 ซื้อกองทุนวันปิดสมุดทะเบียนจะได้ปันผลไหม

วันปิดสมุดทะเบียน หรือ XD ย่อมาจาก Excluding Dividend ดังนั้นการซื้อวันปิดสมุดทะเบียน จะไม่ได้เงินปันผลแล้ว หากต้องการรับเงินปันผลในรอบนี้ นักลงทุนจะต้องซื้อก่อนวันปิดสมุดทะเบียน

อันดับ 6 ซื้อกองทุน IPO ดีไหม

การซื้อกองทุน IPO มีข้อดีตรงที่มีค่าธรรมเนียมตอนซื้อที่ต่ำกว่าช่วงหลัง IPO เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งค่าธรรมเนียมนั้นเป็นเพียงหนึ่งปัจจัยในการเลือกซื้อกองทุน ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีก คือ นโยบายการลงทุน การกระจายความเสี่ยง และผลตอบแทนที่ผ่านมา (กรณีเป็นกองทุนแบบ Feeder Fund) หากนักลงทุนยังไม่มั่นใจนัก อาจจะรอดูผลตอบแทนระยะสั้นประมาณ 3-6 เดือนก่อน เพื่อดูว่าเทียบกับ Benchmark แล้ว ทำผลตอบแทนได้ใกล้เคียงหรือดีกว่าไหม

อันดับ 5 ทำไมซื้อกองทุนแล้วได้ราคาไม่ตรงกับในเว็บ

สล็อตออนไลน์

ราคา หรือ NAV ที่แสดงในเว็บ จะเป็นราคาที่ไม่รวมค่าธรรมเนียมการซื้อขาย และค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ของกองทุน ซึ่งค่าธรรมเนียมนี้จะไม่ได้หักจากเงินลงทุนที่เราซื้อกองทุนไป แต่จะหักอยู่ในราคา NAV เลย ทำให้เวลาที่เราเข้าซื้อ จะขึ้นราคา NAV ที่แพงกว่า และเวลาขายออก จะขายได้ราคา NAV ที่ต่ำกว่า

คำถามยอดฮิตเพิ่มเติม : นอกจากคำถามว่าซื้อกองทุนแล้วได้ราคาไม่ตรงกับในเว็บเนื่องจากเรื่องค่าธรรมเนียมแล้ว หลายคนสงสัยว่า ซื้อกองทุนรวมวันนี้ จะได้ NAV วันไหน ในเมื่อ NAV ที่โชว์บนเว็บหรือในแอป ยังเป็น NAV เมื่อ 2-3 วันที่แล้วอยู่

คำตอบคือ จะได้รับ NAV ของวันที่ซื้อ (ก่อนเวลา cut-off time ของแต่ละกอง) ตัวอย่างเช่น ซื้อกองทุน xx วันที่ 26 ม.ค. 64 ก่อนเวลา cut-off time ก็จะได้ NAV กองทุนนั้นของวันที่ 26 ม.ค. 64 (หลังตลาดปิดแล้ว) อย่างไรก็ตาม การซื้อกองทุนรวมจะเป็นแบบ T+1 สำหรับกองในประเทศ และ T+2-3 สำหรับกองต่างประเทศ กล่าวคือ หลังจากซื้อกองทุนแล้ว ต้องรอประมาณ 2-3 วันทำการ NAV ถึงจะขึ้นโชว์บนพอร์ต (ถ้าซื้อ 26 ม.ค. Nav จะขึ้นโชว์บนพอร์ตเราประมาณ 28-29 ม.ค. เป็นต้น)

อันดับ 4 กองทุนปันผลกับไม่ปันผลแบบไหนดีกว่า

กองทุนปันผลจะเหมาะกับนักลงทุนต้องการกระแสเงินสดกลับมาใช้ในชีวิตประจำวัน และไม่ได้ต้องการกำไรจากส่วนต่างของราคามากนัก หากนักลงทุนต้องการกำไรจากส่วนต่างของราคา กองทุนปันผลอาจจะไม่เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เนื่องจากเมื่อมีการจ่ายปันผลออกมา ราคา NAV ของกองทุนจะลดลง ทำให้ราคา NAV ของกองทุนปันผลนั้นไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก

jumboslot

อันดับ 3 กองทุนที่ถืออยู่ขาดทุนทำอย่างไรดี

ส่วนใหญ่ก่อนที่นักลงทุนจะตัดสินใจซื้อกองทุน มักจะซื้อเพราะต้องการลงทุนในระยะยาว แต่เมื่อขาดทุนจะความกังวลใจ ดังนั้นอยากให้ย้อนกลับไปตอนที่ตัดสินใจซื้อ ว่าซื้อเพราะอะไร เมื่อขาดทุนแล้วกองทุนนี้ยังตอบโจทย์เป้าหมายในตอนแรกอยู่ไหม ถ้าพื้นฐานยังดีอยู่ จะเป็นช่วงที่เหมาะสมในการซื้อเพิ่ม แต่หากไม่ดีแล้วก็คงต้องจากลากันไป เลือกกองใหม่ที่ตอบโจทย์เป้าหมายดีกว่า

อันดับ 2 DCA วันไหนดี

การลงทุนแบบ DCA หรือ Dollar Cost Average เป็นการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยทุกเดือน ด้วยจำนวนเงินเท่าๆ กัน นักลงทุนหลายๆ ท่านจะอยากเลือกวันที่ได้ราคาต่ำที่สุด แต่จริงๆ การลงทุนแบบ DCA นั้นเหมาะกับการลงทุนในระยะยาว ดังนั้นควรเลือกวันที่เราสะดวกที่สุดดีกว่า เช่น เลือก DCA วันที่เงินเดือนออก จะได้เป็นการออมก่อนใช้ไปในตัว เนื่องจากราคา NAV ในหนึ่งเดือนไม่ได้มีความผันผวนมากเกินไป

slot

อันดับ 1 กองทุนไหนดี

คำถามยอดฮิตอันดับ 1 เชื่อว่าผู้อ่านเองคงจะเคยเป็นฝ่ายถาม หรือ โดนถามมาบ้าง เป็นคำถามที่ตอบยากจริงๆ เพราะยังไม่ทราบว่าผู้ถามมีเป้าหมายการลงทุนอะไร ระยะเวลาการลงทุนนานเท่าไหร่ รับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน กองทุนที่ดีของคนหนึ่ง อาจจะไม่ดีต่ออีกคนก็ได้ เนื่องจากการมีเป้าหมายที่ต่างกัน ระยะการลงทุนและการยอมรับความเสี่ยงที่ต่างกัน ส่งผลต่อการเลือกกองทุนทั้งหมด ดังนั้นหากผู้ถามให้แนบคำตอบเหล่านี้มาด้วย จะทำให้ตอบได้ง่ายขึ้นค่ะ

จบไปแล้วสำหรับ 10 อันดับคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการลงทุนในกองทุนรวม จะเห็นว่าหลักสำคัญของการลงทุนนั้น นักลงทุนควรจะเลือกการลงทุนที่เหมาะสมกับเป้าหมายและระดับความเสี่ยง เมื่อเกิดผลขาดทุนจะได้ไม่มีอาการกังวลใจเกินไป หรือ สามารถสับเปลี่ยนกองทุนใหม่ได้

ไขข้อข้องใจกับวิธีการขายกองทุนรวม

สำหรับนักลงทุนรายใหม่ไฟแรงที่เพิ่งเริ่มลงทุนผ่าน “กองทุนรวม” โดยให้ผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ที่มีความรู้ มีประสบการณ์มากกว่าเราช่วยบริหารจัดการเงินให้ แต่พอถึงเวลาอยากจะขายกองทุนรวมหรือถอนเงินออกจากกองทุนรวม ก็ดันไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรยังไงบ้าง พี่ทุยอยากจะบอกว่าวิธีการมันง่ายมาก ๆ เลยล่ะ ตามพี่ทุยมาติด ๆ เลย

jumbo jili

วิธีแรกในการขาย “กองทุนรวม”
ง่ายที่สุด คือ เดินเข้าไปที่ธนาคารที่เราซื้อกองทุนมาหรือไปที่บลจ.ที่เราต้องการขายกองทุนพร้อมกับสมุดบัญชีกองทุน แค่บอกเจ้าหน้าที่ว่าต้องการขายกองทุน เจ้าหน้าที่ก็จะเอาเอกสารมาให้เรากรอกและดำเนินการให้ วิธีง่ายที่สุดแต่อาจจะเสียเวลาเดินทางบ้างเล็กน้อย แต่ถ้าสาขาธนาคารอยู่ใกล้ ๆ ก็จัดการโล้ด

สล็อต

วิธีที่สองในการขาย “กองทุนรวม”
เราสามารถทำได้ด้วยตนเอง คือ ขั้นแรก เข้าไปที่เว็บไซต์ของ บลจ. ที่เราต้องการจะขายกองทุน แล้วดาวน์โหลดแบบฟอร์ม “คำสั่งขายคืนหน่วยลงทุน” ปริ้นท์เอกสารออกมา เซ็นต์ชื่อ แล้วส่งเอกสารไปให้บลจ. ทำรายการ ตรงแบบฟอร์มขายคืนที่กรอกต้องระบุวันที่ที่เราต้องการขายกองทุนด้วย แต่ข้อควรระวังก็คือ เราจะต้องดูก่อนว่ากองทุนรวมที่เราจะขาย เปิดให้ขายได้ถึงกี่โมง หากเราส่งไม่ทันวันที่เราต้องการขายทาง บลจ.จะทำการขายให้ในวันถัดไป

สล็อตออนไลน์

นอกจากเรื่องระยะเวลาในการทำรายการแล้ว เรายังต้องดูจำนวนเงินขั้นต่ำที่เราต้องคงไว้ในบัญชีกองทุนที่เราซื้อด้วย ในกรณีที่เราอยากขายกองทุนออกมาบางส่วน แต่ถ้าเราจะขายทั้งหมดอยู่แล้วเราก็แค่กรอกจำนวนหน่วยลงทุนที่มีทั้งหมดในช่องจำนวนที่ต้องการขายคืน และเรื่องสุดท้ายที่เราสามารถอ่านได้จากหนังสือชี้ชวนก็คือ ระยะเวลาที่เราจะได้รับเงินจากกองทุนคืนหลังส่งคำสั่งขาย อาจจะเป็น 1 วัน 3 วัน 5 วัน ซึ่งจะแตกต่างออกไปในแต่ละกองทุน โดยปกติการคืนเงินจะมี 2 วิธี คือ

jumboslot

  1. โอนเข้าบัญชีที่เราผูกไว้ตอนสมัครซื้อกองทุน พี่ทุยแนะนำวิธีนี้เพราะง่ายที่สุด เงินเข้าที่เราตรง ๆ เลย
  2. คืนเป็นเช็ค โดยจะได้รับจากทางไปรษณีย์ วิธีนี้ไม่ค่อยนิยมมากเท่าไหร่ แต่บางคนก็ชอบวิธีนี้ ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละคน

เราสามารถเลือกวิธีการรับเงินคืนได้ ตอนที่เราเปิดบัญชีซื้อกองทุนรวมนั่นแหละ แต่แน่นอนว่าถ้าเราอยากเปลี่ยนวิธีการรับเงินคืนก็สามารถแก้ไขตามที่เราต้องการได้เลยนะ

slot

เท่านี้เราก็สามารถขายกองทุนและได้เงินคืนกลับมาได้แล้ว พี่ทุยจะบอกว่าไม่ได้ยากเลยง่ายมาก ๆ

แต่เดี๋ยวนี้หลายๆ บลจ. ก็เปิดให้ซื้อขายกองทุนรวมออนไลน์ผ่านอินเตอร์เน็ตหรือ แอปพลิเคชั่นในมือถือได้เลย ไม่จำเป็นต้องส่งเอกสาร พี่ทุยว่าวิธีนี้ก็เป็นวิธีที่สะดวกรวดเร็วเหมาะกับคนยุคใหม่แบบเรา ๆ ที่สุดเลยล่ะ

ถ้าให้อ่านบทความของพี่ทุยแต่ไม่ได้ลองทำจริงก็คงไม่รู้ว่าง่ายขนาดไหน อย่าลืมไปลองซื้อขายกองทุนด้วยตัวเอง เพื่อที่เราจะได้กลายเป็นนักลงทุนมืออาชีพในอนาคตยังไงล่ะ

เงื่อนไขการซื้อRMF

ช่วงสิ้นปีทีไร พี่ทุยบอกได้เลยว่าเรื่องที่ถูกถามเกี่ยวกับการลดหย่อนภาษีมากที่สุด ก็คือ เรื่อง “เงื่อนไขการซื้อ RMF” หรือที่ทุกคนรู้จักกันในชื่อ กองทุนรวมเพื่อนการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund) เอาจริง ๆ พี่ทุยก็รู้สึกดีใจไม่น้อยนะที่คนเริ่มสนใจใช้ในการลดหย่อนภาษีกันมากขึ้น เพราะเป็นเครื่องมือที่ช่วยทำให้เราเก็บเงินได้ดีขึ้น

jumbo jili

สำหรับ “เงื่อนไขการซื้อ RMF” ที่ทุกคนชอบสอบถามกัน พี่ทุยได้รวบรวมคำถามที่สอบถามมากันมาก มีดังนี้

  1. RMF ซื้อได้ไม่เกิน 30% ของรายได้ที่ต้องเสียภาษี และเมื่อนับรวมกับ กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ประกันแบบบำนาญและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแล้วห้ามเกิน 500,000 บาท
    ถ้าเรารายได้ 500,000 บาทต่อปี เราก็จะซื้อได้ 150,000 บาทต่อปีเท่านั้น แต่ว่าเราต้องระวังอีกเงื่อนไขด้วยก็คือ ถ้าเราไปนับรวมกับ กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ประกันแบบบำนาญกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) แล้ว ห้ามเกิน 500,000 บาทเด็ดขาด
  2. RMF ปรับเกณฑ์ใหม่ ไม่มีขั้นต่ำในการซื้อ
    เงื่อนไขของปีก่อนๆ จะมีขั้นต่ำที่ 5,000 บาท หรือ ถ้า 3% ของรายได้ต่อปีนั้น ๆ น้อยกว่า 5,000 บาทก็ซื้อแค่ 3% แต่ปีนี้ปรับเกณฑ์ใหม่ ใจดีขึ้น ไม่ต้องมีขั้นต่ำในการซื้อแล้ว สามารถซื้อได้ตามขั้นต่ำของกองทุนเลย แต่มีเงื่อนไขเดิมที่ติดมาคือ ถ้าซื้อแล้ว ก็ต้องซื้อต่อเนื่องปีเว้นปีนะ ปีที่ไม่มีรายได้ก็ไม่ต้องซื้อ แต่ปีถัดมาต้องกลับมาซื้อเพื่อให้ไม่ผิดเงื่อนไขของ RMF

สล็อต

  1. จะขายคืนได้ต่อเมื่อเราอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และต้องถือมาอย่างน้อย 5 ปีเท่านั้น
    เงื่อนไขที่เราจะขายได้นั้นต้องประกอบไปด้วย 2 เงื่อนไขหลักก็คือ อายุต้องครบ 55 ปีบริบูรณ์ อารมณ์จัดงานวันเกิดเป่าเค้กแบบวันชนวันเลย แล้วอีกเงื่อนไขก็คือต้องถือมาอย่างน้อย 5 ปีบริบูรณ์

แต่ความพิเศษจะอยู่ที่ว่า สมมติตอนนี้เราอายุ 50 ปี แล้วเราซื้อมาทุกปีติดต่อกันสมมติปีละ 100,000 บาท แล้วพอเราอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์แล้ว เราก็จะถือมา 5 ปีเป๊ะ ๆ เราสามารถขายที่เราทยอยซื้อได้ทั้งหมด แม้ว่าตอนเราอายุ 54 ปีที่เราเพิ่งซื้อมา 100,000 บาทนั้นถือมาแค่ 1 ปีเท่านั้น ไม่เหมือนกับ SSF ที่นับแยกก้อนที่เราซื้อตามปีเลย

  1. ห้ามผิดเงื่อนไข
    การผิดเงื่อนไข พี่ทุยขอไม่พูดถึงว่าโทษมีค่าปรับอะไรยังไงบ้าง แต่พี่ทุยบอกได้เลยว่าเยอะมาก ๆ ไม่ควรผิดเงื่อนไขไม่ว่ากรณีใด ๆ ก็ตาม พี่ทุยเชื่อว่าถ้าเรามีการวางแผนการเงินที่ดี เราไม่มีความจำเป็นต้องไปแตะต้องมันเลยอย่างแน่นอน

สล็อตออนไลน์

สำหรับใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับการซื้อขาย RMF สามารถไปแจ้งเรื่องร้องเรียนกับทางกรมสรรพากร ได้เลย ที่นี่

  1. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ มัลติ อินคัมพลัส (SCB Multi Income Plus Fund – SCBMPLUS)
    สินทรัพย์ที่ลงทุน: เน้นลงทุนตราสารหนี้ของไทย, ตราสารหนี้ต่างประเทศ, REIT และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน
    ระดับความเสี่ยง: ปานกลาง
    Morningstar: 4 ดาว

SCBMPLUS เหมาะกับนักลงทุนแบบไหน?
สำหรับ SCBMPLUS เนี้ยจะมีความคล้ายคลึงกับ SCBPLUS แต่จะแตกต่างตรงที่ SCBMPLUS สามารถขายได้ทุกเดือน เลยทำให้ SCBMPLUS มีสภาพคล่องที่สูงกว่า แต่แน่นอนว่าผลตอบแทนโดยรวมของ SCBMPLUS จะมีแนวโน้มที่ได้ต่ำกว่า SCBPLUS เนื่องจากผู้จัดการกองทุนจะลงทุนในสินทรัพย์ที่มีระยะเวลาได้สั้นมากกว่านั่นเอง

jumboslot

พี่ทุยอยากจะสรุปให้เข้าใจง่าย ๆ ว่า ถ้าใครชอบ SCBPLUS แต่อยากให้ขายได้บ่อย ๆ หน่อยก็มาทาง SCBMPLUS ได้เลย ตอบโจทย์แน่นอน!

ชี้เป้า 6 “กองทุนติดดาว” จาก บลจ. ไทยพาณิชย์

  1. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นทุนปันผล (SCB Dividend Stock Open End Fund – SCBDV)
    สินทรัพย์ที่ลงทุน: หุ้นไทย
    ระดับความเสี่ยง: สูง
    Morningstar: 4 ดาว

slot


SCBDV เหมาะกับนักลงทุนแบบไหน?
สำหรับ SCBDV ก็เหมาะกับคนที่เป็นพันธุ์แท้หุ้นไทยเหมือนกับ SCBSE ที่พี่ทุยบอกไปก่อนหน้านี้ แต่ SCBDV เค้าจะเน้นลงทุนหุ้นไทยที่มีการเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อโอกาสในการสร้างกระแสเงินสดตลอดการลงทุน เนื่องจาก SCBDV จะมีนโยบายการจ่ายปันผล

นอกจากนี้ SCBDV ก็ยังได้รับรางวัล “กองทุนตราสารทุนยอดเยี่ยม ปี 2020 ประเภทกองทุนหุ้นขนาดใหญ่ (Equity Large Cap)” โดย Morningstar อีกด้วยนะ

เรียกได้ว่าใครที่อยากได้เงินปันผลเรื่อย ๆ พี่ทุยว่าก็ต้อง SCBDV นี่แหละ ได้รางวัลมาการันตีซะขนาดนี้!

ชี้เป้า 6 “กองทุนติดดาว” จาก บลจ. ไทยพาณิชย์

  1. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นยูเอส (ชนิดจ่ายเงินปันผล)
    สินทรัพย์ที่ลงทุน: หุ้นสหรัฐอเมริกา
    ระดับความเสี่ยง: สูง
    Morningstar: 4 ดาว