เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอสแอลเอส เอเอ็มจี

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอสแอลอาร์ แม็คลาเรน เป็นรถยนต์นั่งประเภทหรูหราสมรรถนะสูง เครื่องยนตร์กลางลำหน้า ขับเคลื่อนสองล้อท้าย (FMR) 2 ประตู 2 ที่นั่ง ผลิตขึ้นในปี ค.ศ. 2003 – 2010 โดยมีโรงงานอยู่ที่ พอร์ตสมัท ประเทศอังกฤษ เอสแอลอาร์ เป็นรถที่ได้ร่วมกันพัฒนาขึ้น ระหว่าง บริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์ และแม็คลาเรน บริษัทผลิตซูเปอร์คาร์ของอังกฤษ โดยบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ครองหุ้นส่วน 40% ของแม็กคาเรน
“เอสแอลอาร์” ย่อมาจาก “Sport Leicht Rennsport” (สปอร์ต เบา แข่ง) เมอร์เซเดส-เบนซ์ ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า จะผลิตเอสแอลอาร์ จำนวน 3,500 คันภายใน 7 ปี หรือปีละ 500 คันเท่านั้น
โฉมพิเศษของเอสแอลอาร์

jumbo jili

722 Edition ที่กรุงลอนดอน
722 Edition (2006)
ใช้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า Mercedes-Benz SLR McLaren 722 Edition โดยหมายเลข 722 เป็นการให้เกียรติแก่ เซอร์สเตอร์ลิง มอสส์ นักแข่งรถสูตรหนึ่งชื่อดังจากอังกฤษ โดยในขณะนั้นเขาขับ Mercedes-Benz 300 SLR และออกตัวในเวลา 7.22 น. พอดี จึงกลายเป็นที่มาของเลข 722 ใช้แม็กสีดำ ขนาด 19 นิ้ว
722 Edition มีกำลังเครื่องขนาด 650 PS (480 kW; 640 hp) ที่ 6,500 rpm และ 820 N·m (600 lb·ft) ที่ 4,000 rpm สามารถทำความเร่ง 0-100 km/h (62 mph) ในเวลาเพียง 3.6 วินาที, 200 km/h (120 mph) ในเวลา 10.2 วินาที และ 300 km/h (190 mph) ในเวลา 27.6 วินาที, สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 337 km/h (209 mph) ซึ่งเร็วกว่ารุ่นธรรมดา

สล็อต

Roadster (2007)
จำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ. 2007 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V8 AMG ในสไตล์โรสเตอร์เปิดประทุน ส่วนความเร็วถือว่าลดลงเล็กน้อย โดยอัตราเร่ง 0-100 km/h ทำได้ที่ 3.8 วินาที และความเร็งสูงสุดที่ 334 km/h (208 mph)
Roadster 722 S (2009)
กับรุ่นจำกัดจำนวน ที่จำหน่ายเพียง 150 คันเท่านั้น สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 334 km/h (208 mph) และอัตราเร่ง 0-100 km/h ทำได้ที่ 3.6 วินาที โฉมนี้ได้จำหน่ายครั้งแรกในช่วง เดือนมกราคมปี ค.ศ. 2009
Mercedes-Benz SLR Stirling Moss McLaren
722 GT (2007)
โฉมแต่ง สไตล์รถแข่ง ได้รับการออกแบบและผลิตโดย บริษัทสัญชาติอังกฤษ เรย์ มัลล็อก จำกัด ( Ray Mallock Ltd. )
Stirling Moss (2009)
โฉมจำกัดจำนวนที่ 75 คันเท่านั้น นับเป็นโฉมที่แปลกตาที่สุดในบรรดาโฉมทั้งหมด เนื่องจากเป็นโฉมในสไตล์ สปีดสเตอร์ ( Speedster ) ซึ่งเป็นทรงไม่มีหลังคา จึงทำให้รถออกไปทางรถแข่งมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังถือเป็นโฉมสุดท้ายที่ผลิตในฐานะ หุ้นส่วนการผลิต ระหว่าง เมอร์เซเดส-เบนซ์ และ แม็คลาเรน โดยรถได้รับการออกแบบโดย นักออกแบบรถชาวเกาหลีใต้ ยูน อิล ฮุน ( Yoon Il-hun )

สล็อตออนไลน์

Stirling Moss มาพร้อมกับเครื่องชนิด V8 กำลัง 650 PS (480 kW; 640 hp) สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 350 km/h (220 mph) และอัตราเร่ง 0-100 km/h ทำได้ที่ 3.5 วินาที รถได้เปิดตัวครั้งแรกที่งาน นอร์ท อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล ออโต้ โชว์ ปี 2009
McLaren Edition (2011)
ในเดือนธันวาคม ปี ค.ศ. 2010 แม็คลาเรน ได้ทำโฉมสุดท้าย ด้วยจำนวนจำกัดเพียง 25 คันเท่านั้น โดยเป็นการผสานระหว่าง เอสแอลอาร์ ปกติ เข้ากับ สเตอร์ลิง มอสส์
เยอรมนีเป็นประเทศที่อยู่ตรงยุโรปกลางทำให้เรียกได้ว่าเป็นประเทศที่เป็นศูนย์กลางของทวีปยุโรปมีพรมแดนทางทิศเหนือติดทะเลเหนือ เดนมาร์ก และทะเลบอลติก ทิศตะวันออกติดโปแลนด์และเช็กเกีย ทิศใต้ติดออสเตรีย และสวิตเซอร์แลนด์ ทิศตะวันตกติดฝรั่งเศส ลักเซมเบิร์ก เบลเยียม และเนเธอร์แลนด์ และยังมีพรมแดนติดกับทะเลสาบโบเดินที่เป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ3ในทวีปยุโรป
ประเทศเยอรมนีมีขนาด357,021 ตารางกิโลเมตรโดยแบ่งเป็นพื้นดิน349,223 ตารางกิโลเมตรและพื้นน้ำ7,798 ตารางกิโลเมตร เป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับ 7 ในทวีปยุโรปและใหญ่เป็นอันดับ 62 ของโลก[19]และด้วยพรมแดนมีความยาวทั้งหมดรวม 3,757 กิโลเมตรมีประเทศเพื่อนบ้านถึง 9 ประเทศ ทำให้เยอรมนีเป็นประเทศที่มีประเทศเพื่อนบ้านมากที่สุดในทวีปยุโรป

jumboslot

เยอรมนีมีสภาพทางภูมิศาสตร์ที่แตกต่างกันไปจากทางตอนเหนือถึงทางตอนใต้ โดยมีทั้งที่ราบทางตอนเหนือและเทือกเขาทางตอนใต้ เยอรมนียังมีทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ ได้แก่ แร่เหล็ก, ถ่านหิน, โพแทช, ไม้, ลิกไนต์, ยูเรเนียม, ทองแดง, ก๊าซธรรมชาติ, เกลือ, นิกเกิล, พื้นที่เพาะปลูกและน้ำประเทศเยอรมนีไม่มีฤดูแล้งและฤดูหนาวจะมีอากาศที่เย็นถึงหนาวจัดและฤดูร้อนจะมีความอบอุ่นโดยอุณหภูมิจะไม่เกิน 30 ° C
ในปี 2008 อาณาเขตของประเทศเยอรมนีสามารถแบ่งสภาพพื้นดินได้โดยแบ่งเป็นพื้นที่ทำกิน (34%) ป่าไม้ (30.1%) ทุ่งหญ้าถาวร 11.8%พืชและสัตว์ในเยอรมนีส่วนใหญ่เป็นพืชและสัตว์ในยุโรปกลางโดยต้นไม้ส่วนใหญ่ก็จะเป็น เบิร์ช, โอ๊กและต้นไม้ผลัดใบอื่น ๆ ที่พบตามพื้นก็จะเป็น มอสส์, เฟิร์น, คอร์นฟลาวเวอร์, เห็ดรา สัตว์ป่าก็จะเป็น กวาง, หมูป่า, แพะภูเขา, หมาจิ้งจอกแดง, แบดเจอร์ยุโรป,กระต่ายป่าและอาจมีบีเวอร์บริเวณชายแดนประเทศโปแลนด์ด้วยซึ่งคอร์นฟลาวเวอร์สีฟ้าเคยเป็นดอกไม้ประจำชาติด้วย การรวมประเทศในปี 1990 นั้น เสมือนเป็นการผนวกประเทศเยอรมนีตะวันออกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเยอรมนีตะวันตก ดังนั้นระบบระเบียบการปกครองทั้งหมดในประเทศเยอรมนีใหม่นี้ จึงยึดเอาระบบระเบียบเดิมของเยอรมนีตะวันตกมาทั้งหมด กฎหมายสูงสุดหรือรัฐธรรมนูญของประเทศเยอรมนีเรียกว่า กรุนด์เกเซ็ทท์ (Grundgesetz) หรือแปลอย่างตรงตัวได้ว่า “กฎหมายพื้นฐาน” ถูกบัญญัติขึ้นในปี 1949 เพื่อใช้เป็นรัฐธรรมนูญของประเทศเยอรมนีตะวันตก การแก้ไขกฎหมายฉบับนี้จำเป็นต้องได้รับเสียงอย่างน้อยสองในสามจากที่ประชุมร่วมสองสภาและ อย่างไรก็ตาม บทบัญญัติเกี่ยวกับสิทธิขั้นพื้นฐาน, การแยกใช้อำนาจ, โครงสร้างสหพันธ์ และสิทธิในการต่อต้านความพยายามล้มล้างมิอาจถูกแก้ไขได้

slot

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอสแอลเค-คลาส

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอสแอลเค-คลาส เป็นรถยนต์นั่งสมรรถนะสูง แบบโรดสเตอร์เปิดประทุน เครื่องยนตร์หน้าลำ ขับเคลื่อนสองล้อท้าย (FR) ผลิตโดยบริษัทสัญชาติเยอรมนี เมอร์เซเดส-เบนซ์ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1996 จนถึง 2019 มีโฉมทั้ง 3 โฉม ได้แก่ R170 ในปี ค.ศ. 1996 R171 ในปี ค.ศ. 2004 และ R172 ในปี ค.ศ. 2011 ในปี ค.ศ. 1994 บริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้มีความคิดที่จะสร้างรถสไตล์โรดสเตอร์ ซึ่งในขณะนั้นก็ได้มีรถเปิดประทุนหลังคาผ้าใบและหลังคาแข็งมาก่อนหน้าแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Peugeot 206cc, Lexus SC, Pontiac G6 และ Chrysler Sebring จนนำไปพัฒนาสู่การต่อยอด ในรูปแบบคอนเซปต์คาร์ และเผยแพร่ครั้งแรก ที่งานปารีสมอเตอร์โชว์ ปี ค.ศ. 1994 ใช้ชื่อว่า “SLK II concept” และในอีก 2 ปีต่อมา ก็ได้มีการผลิตขายในยุโรป และในปี ค.ศ. 1997 เริ่มจำหน่ายในสหรัฐ เอสแอลเค มีโรงงานผลิตอยู่ที่เมืองเบรเมิน ประเทศเยอรมนี

jumbo jili

คำว่า “SLK” เป็นคำย่อของค่ายที่ต้องการตอบโจทย์ความเป็นโรดสเตอร์ ได้แก่ S – Sportlich (มีความเป็นสปอร์ต) L – Leicht (เบา) และ K – Kurz (สั้น) สำหรับโฉมปี 2017 (ช่วงปลาย ค.ศ. 2016) ได้ออกจำหน่ายในโฉมที่ 3 R172 ที่ปรับแต่ง (facelift) และเปลี่ยนไปใช้ชื่อใหม่แทนว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอสแอลซี-คลาส โดยคำย่อ “SL” นั้นคือ Sportlich Leicht (ในภาษาเยอรมันแปลว่า “สปอร์ต เบา”) ซึ่งต้องการอ้างอิงถึงรุ่น เอสแอล-คลาส และเช่นเดียวกันตัว “C” ใหม่นี้อ้างอิงถึง ซี-คลาส
R171 (ค.ศ. 2004–2011)
เอสแอลเค เอเอ็มจี โฉมปี ค.ศ. 2004-2011
อาร์171 คือโฉมที่ 2 ของคลาสเอสแอลเค เปิดตัวครั้งแรกในงานเจนีวามอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 74 ปี ค.ศ. 2004 มาพร้อมกับรูปทรงใหม่ที่แตกต่างจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด ตัวถังที่เบากว่า และได้มีการยกระดับรถคันนี้ให้เป็นคลาสของรถหรูสไตล์โรดสเตอร์ อาร์171 ได้ผลิตมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2004 และยุติการผลิตลงในปี ค.ศ. 2011 นำไปสู่การเปิดตัวเอสแอลเค ตัวใหม่โดยใช้รหัสว่า อาร์172

สล็อต

ในปี ค.ศ. 2005 เอสแอลเค อาร์171 ก็ได้รับการจัดอันดับให้เป็นรถที่ดีที่สุด ประเภทโรสเตอร์ ของนิตยสาร Car and Driver Ten Best และได้ชนะรางวัล รถเปิดประทุนหน้าใหม่ที่ดีที่แห่งปี ของนิตยสาร Canadian Car of the Year
รุ่นต่างๆ ของ อาร์171 ได้แก่
-SLK 200 Kompressor – เครื่องขนาด 1.8 ลิตร 120 kW (163 PS; 161 hp) I4 (4 สูบ), อัตราเร่ง 0–100 km/h (62 mph) ทำได้ที่ 7.9 วินาที, ความเร็วสูงสุด 143 mph (รุ่นนี้ไม่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา)
-SLK 300 ( หรือบางครั้งรู้จักกันในชื่อ SLK 280 ) – เครื่องขนาด 3.0 ลิตร (2996 cc) 170 kW (231 PS; 228 hp) เครื่องยนต์ V6 , อัตราเร่ง 0–100 km/h (62 mph) ทำได้ที่ 6.3 วินาที, ความเร็วสูงสุด 155 mph. (โมเดล ปี 2006)
-SLK 350 – เครื่องขนาด 3.5 ลิตร (3498 cc) 200 kW (272 PS; 268 hp) เครื่องยนต์ V6 , อัตราเร่ง 0–100 km/h (62 mph) ทำได้ที่ 5.4 วินาที, ความเร็วสูงสุด 155 mph
-SLK 55 AMG – เครื่องขนาด 5.4 ลิตร (5439 cc) 265 kW (360 PS; 355 hp) เครื่องยนต์ V8 , อัตราเร่ง 0–100 km/h (62 mph) ทำได้ที่ 4.9 วินาที (เป็นทางการ), 4.3 วินาที (ตอนทดสอบ), ความเร็วสูงสุด 155 mph (249 km/h)
-R172 (ค.ศ. 2011–2019)

สล็อตออนไลน์

เอสแอลเค โฉมปี 2011-2016
เอสแอลซี โฉมปี 2016-2019
อาร์172 คือรุ่นที่ 3 ของคลาส เอสแอลเค ได้เปิดเผยครั้งแรกที่งาน เจนีวา มอเตอร์ โชว์ ปี ค.ศ. 2011 มาพร้อมกับทรงใหม่ รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายชนิดใหม่ อย่าง “Magic Sky Control”
รุ่นต่างๆ ของ อาร์172 ได้แก่
-SLK 200 BlueEFFICIENCY – เครื่องขนาด 1.8 ลิตร 135 kW (184 PS; 181 hp) I4 (4 สูบ), อัตราเร่ง 0–100 km/h (62 mph) ทำได้ที่ 7.3 วินาที, ความเร็วสูงสุด 149 mph. (รุ่นนี้ไม่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา)
-SLK 250 – เครื่องขนาด 1.8 ลิตร 150 kW (204 PS; 201 hp) I4 (4 สูบ), อัตราเร่ง 0–100 km/h (62 mph) 6.5 วินาที, ความเร็วสูงสุด 152 mph.
-SLK 250 CDI BlueEFFICIENCY – เครื่องขนาด 2.1 ลิตร 150 kW (204 PS; 201 hp) I4 (4 สูบ), อัตราเร่ง 0–100 km/h (62 mph) 6.7 วินาที, ความเร็วสูงสุด 152 mph. (รุ่นนี้ไม่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา)
-SLK 350 – เครื่องขนาด 3.5 ลิตร 225 kW (306 PS; 302 hp) V6 (6 สูบ), อัตราเร่ง 0–100 km/h (62 mph) 5.6 วินาที, ความเร็วสูงสุด 155 mph
-SLK 55 AMG – เครื่องขนาด 5.5 ลิตร 314 kW (427 PS; 421 hp) V8 (8 สูบ), อัตราเร่ง 0–100 km/h (62 mph) 4.2 วินาที, ความเร็วสูงสุด 155 mph

jumboslot

-SLC 180 เครื่องขนาด 1.6 ลิตร I4 (4 สูบ) 156 PS, 250 Nm, 5,6 l/100 km, 127 g CO2/km, อัตราเร่ง 0–100 km/h (62 mph) ใน 7.9 วินาที, ความเร็วสูงสุด 226 km/h
-SLC 200 เครื่องขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบ I4 (4 สูบ) 184 PS, 300 Nm, 5,7 l/100 km, 133 g/km, อัตราเร่ง 0–100 km/h (62 mph) ใน 7.0 วินาที, ความเร็วสูงสุด 240 km/h
-SLC 300 เครื่องขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบ I4 (4 สูบ) 245 PS, 370 Nm, 5,8 l/100 km, 134 g/km, อัตราเร่ง 0–100 km/h (62 mph) ใน 5.8 วินาที, ความเร็วสูงสุด 250 km/h
-AMG SLC 43 เครื่องขนาด 3.0 ลิตร ไบเทอร์โบ V6 (6 สูบ) 367 PS, 520 Nm, 7,8 l/100 km, 178 g/km, อัตราเร่ง 0–100 km/h (62 mph) ใน 4.7 วินาที, ความเร็วสูงสุด 250 km/h (0-60 mph in 4.6s)
-SLC 250d เครื่องขนาด 2.1 ลิตร เทอร์โบดีเซล I4 (4 สูบ) 204 PS, 4,4 l/100 km, 114 g/km, อัตราเร่ง 0–100 km/h (62 mph) ใน 6.6 วินาที, 245 km/h
เอสแอลซี 300 Final Edition ในปี 2019 นี้ เปิดตัว Mercedes-Benz SLC Final Edition เพื่อระลึกถึงบรรพบุรุษ SLK รุ่นแรก Mercedes-Benz SLC Final Edition ถือกำเนิดขึ้นเพื่อระลึกถึงบรรพบุรุษอย่าง SLK (ชื่อดั้งเดิมของ SLC) ที่ผู้คนจดจำในสีเหลืองสดใด เป็นเหตุให้สีนี้กลับมาปรากฏอีกครั้งในทายาทรุ่นล่าสุด เพิ่มเติมด้วยการตกแต่งพิเศษทั้งภายนอก และ ภายในห้องโดยสาร ทั้งนี้ รุ่นดังกล่าวไม่ได้จำกัดไว้เพียงสีเดียว เพราะยังมีอีกหลายทางเลือก Mercedes-Benz SLC Final Edition พร้อมเปิดรับจองในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ และมีกำหนดส่งมอบในเดือนมีนาคม

slot

เมอร์เซเดส-เบนซ์

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอสแอล-คลา เป็นชื่อสายการผลิตรถยนต์นั่งประเภทหรูหราสมรรถนะสูง เครื่องยนตร์หน้าลำ ขับเคลื่อนสองล้อท้าย (FMR) 2 ประตู 2 หรือ 4 ที่นั่ง ผลิตโดยบริษัทรถยนต์สัญชาติเยอรมัน เมอร์เซเดส-เบนซ์ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1954 จนถึงปัจจุบัน โดยใช้ชื่อรุ่นว่า “เอสแอล” ซึ่งย่อมาจาก “สปอร์ต น้ำหนักเบา (Sport Leicht)” เอสแอล-คลาส 300เอสแอล เป็นคันแรกของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ใช้ “ประตูปีกนกนางนวล” (Gull-wing door) ซึ่งสามารถเปิดขึ้นลง แทนแบบปกติที่เปิดข้าง ซึ่งเป็นการใช้แค่โฉมแรกในรุ่นนั้นรุ่นเดียว และไม่เคยทำมาอีกเลย จนกระทั่งเมื่อเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ได้ออกรุ่น เอสแอลเอส เอเอ็มจี เมื่อปี ค.ศ. 2010 ก็ได้นำแบบประตูแบบนี้มาใช้อีกครั้งหนึ่ง

jumbo jili

ปัจจุบัน เอสแอล-คลาส ได้ออกโฉมต่าง ๆ มาทั้งหมดแล้ว 6 โฉม ดังต่อไปนี้
โฉมแรก (1954-1963) แบ่งเป็นสองรุ่นคือ “300เอสแอล โรสเตอร์” (300SL roadster) ซึ่งใช้ ประตูปีกนกนางนวลเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1957 ส่วน 190เอสแอล (190SL) ซึ่งผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก ถึง 25,881 รถคันนี้ได้เริ่มการผลิต ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1955 จนถึงปี ค.ศ. 1963 ลักษณะตัวถังแบ่งเป็น 2 ชนิด คือ ชนิดที่เป็นรถหลังคาแข็ง 2 ประตู ซึ่งเป็นประตู ปีกนกนางนวล (กัลวิง) และ ชนิดที่ 2 คือ โรสเตอร์ หลังคาผ้าใบ (Soft top) ในลักษณะประตูปกติ และหลังจากโฉมนี้เป็นต้นไป ประตูแบบกัลวิง ก็จะไม่มีให้เห็นอีกต่อไป ทำให้ โฉมแรกนี้ จึงดูเป็นโฉมที่มูลค่ามากกว่าโฉมไหนๆ ซึ่งปัจจุบัน ก็ได้จัดให้เป็นหนึ่งใน “รถยูโรคลาสสิก” และอยู่ในฐานะรถประมูลอีกด้วย 300เอสแอล กัลวิง ถือเป็นรถที่เร็วที่สุดในโลกในเวลานั้น และยังถือได้ว่าเป็นครั้งแรกที่มีการบัญญัติศัพท์ว่า “ซูเปอร์คาร์” ขึ้น ทำให้ 300เอสแอลกัลวิง ได้รับการยกย่องให้เป็นซูเปอร์คาร์คันแรกของโลก

สล็อต

รุ่นต่างๆ ของโฉมแรก
-300SL (“กัลวิง”): ค.ศ. 1954–1957, 3.0 ลิตร I6, กำลัง 215 hp (160 kW)
-300SL (Roadster): ค.ศ. 1957–1963 3.0 ลิตร I6, กำลัง 225 hp (168 kW)
-190SL: ค.ศ. 1955–1963, 1.9 ลิตร I4, กำลัง 105 hp (78 kW)
โฉมที่สอง (ค.ศ. 1963-1971)
โฉมที่ 2
ต่อจากโฉมแรก เอสแอล-คลาส ก็ได้ใช้ชื่อโฉมใหม่นี้ว่า “230SL” และใช้รหัสว่า “W113” ได้รับการออกแบบโดย นักออกแบบรถชาวฝรั่งเศส Paul Bracq มาพร้อมกับการออกแบบใหม่ เครื่องยนต์ขนาด 2.3 ลิตร 6 สูบ (I6) และเปลี่ยนประตูจาก “กัลวิง” หรือที่เรียกว่า “ประตูปีกนกนางนวล” ไปเป็นรถเปิดประทุนหลังคาผ้าใบ (บางครั้งเรียกเป็นชื่อเล่นว่า Pagoda top) แทนทั้งหมด

สล็อตออนไลน์

รุ่นต่างๆ ของโฉมที่ 2
-230SL: ค.ศ. 1963–1967, 2.3 ลิตร I6, กำลัง 150 hp (112 kW)
-250SL: ค.ศ. 1966–1968, 2.5 ลิตร I6, กำลัง 150 hp (112 kW)
-280SL: ค.ศ. 1967–1971, 2.8 ลิตร I6, กำลัง 170 hp (127 kW)
โฉมที่สาม (ค.ศ. 1972-1989)
โฉมที่ 3
โฉมที่สาม นับเป็นโฉมที่เปลี่ยนรูปลักษณ์ด้านนอกอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ยังเป็นโฉมที่มีรหัสรโฉมถึง 2 รหัส ได้แก่ R107 หรือ SL ซึ่งเป็นลักษณะรถ 2 ประตู เปิดประทุนด้วยหลังคาผ้าใบ และ C107 หรือ SLC ซึ่งเป็นลักษณะรถ 2 ประตู คูเป้ ผลิตตั้งแต่ปี ค.ศ. 1972 จนถึง ปี ค.ศ. 1989 รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 300,175 คัน

jumboslot

รุ่นต่างๆ ของโฉมที่สาม
-350SL: ค.ศ. 1971–1980, 3.5 ลิตร V8
-450SL: ค.ศ. 1973–1980, 4.5 ลิตร V8
-280SL: ค.ศ. 1974–1985, 2.8 ลิตร I6
-300SL: ค.ศ. 1986–1989 เป็นรุ่นที่ใช้เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ แต่จำหน่ายน้อยมาก
-380SL: ค.ศ. 1980–1986, 3.8 ลิตร V8
-500SL: ค.ศ. 1980–1986, 5.0 ลิตร V8
-420SL: ค.ศ. 1986–1989, 4.2 ลิตร V8
-500SL: ค.ศ. 1986–1989, 5.0 ลิตร V8
-560SL: ค.ศ. 1986–1989, 5.6 ลิตร V8
สำหรับรุ่น 560SL จำหน่ายที่สหรัฐอเมริกา แคนาดา ญี่ปุ่น และ ออสเตรเลีย เพียงเท่านั้น แต่ถึงจะเรียก 560SL ก็ยังคง ขนาดเครื่องยนต์ไว้ที่ 5.0 ลิตร เช่นเดียวกับ 500SL เนื่องจากติดที่กฎหมายเกี่ยวกับอัตราปล่อยมลพิษ ในทั้ง 4 ประเทศ
โฉมที่สี่ (1989-2002) โฉมที่สี่ ใช้รหัสว่า “R129” ได้รับการออกแบบโดย Johann Tomforde และ Bruno Sacco นับเป็นที่ไม่ต่างกับโฉมก่อนหน้านี้มากนัก แต่เป็นโฉมแรกของ เอสแอล-คลาส ที่ได้มีการติตตั้งเครื่องยนต์เสริม เอเอ็มจี (AMG) โฉมนี้ผลิตตั้งแต่ปี ค.ศ. 1989 จนถึงปี ค.ศ. 2002 เป็นจำนวนทั้งสิ้น 213,089 คัน
โฉมที่ห้า (2001-2008)
โฉมที่ 5 เอสแอล ได้ใช้ชื่อรหัสว่า “R230” เปิดตัวครั้งแรกที่งาน แฟรงเฟิร์ตมอเตอร์โชว์ ปี ค.ศ. 2002 ได้รับการออกแบบโดย Steve Mattin และ Bruno Sacco ในปี ค.ศ. 1997 เอสแอล

slot

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซีแอลเค จีทีอาร์

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซีแอลเค จีทีอาร์ เป็นรถยนต์นั่งสมรรถนะสูงและรถแข่ง เครื่องยนต์กลางลำหลัง ขับเคลื่อนสองล้อท้าย (RMR) 2 ประตู 2 ที่นั่งผลิตโดยบริษัทรถยนต์สัญชาติเยอรมนี เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ร่วมกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ เดิมสร้างขึ้นเพื่อใช้แข่งขันในรายการ เอฟไอเอจีทีแชมเปียนชิป (FIA GT Championship) ปี ค.ศ. 1997 ซีแอลเค จีทีอาร์ ช่วงแรกจึงเป็นรถแข่งสนาม จนมีการทำเป็นรถถนน ตามมาตรฐานในเวลาต่อมา แต่ถึงอย่างไรก็ดี แม้จะปรับเป็นรถถนนแล้ว ก็ยังจัดว่าเป็นรถแข่งสนามอยู่ ภายหลังคว้าชัยในปี ค.ศ. 1997 รถได้ปรับปรุงใหม่ในปี ค.ศ. 1998 เพื่อการแข่งในสนาม24 ชั่วโมง เลอม็อง และใช้ชื่อใหม่เป็น CLK LM สายการผลิต ซีแอลเค จีทีอาร์ ได้ยุติลงในปี ค.ศ. 1999 และถูกแทนที่ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซีแอลอาร์ เลอม็อง โปรโทไทป์

jumbo jili

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซีแอลเค จีทีอาร์ ในโฉมรถถนน เคยได้รับการบันทึกจากกินเนสบุ๊ค ให้เป็นรถที่มีราคาสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยราคากว่า $1,547,620(USD) ในขณะนั้น โฉมรถถนน แม้ว่าโฉม เอฟไอเอ จีที1 จะได้ยกเลิกไปในปี ค.ศ. 1999 แต่เมอร์เซเดส ก็ได้จัดส่งโฉมรถถนนอีก 25 คันตามที่ค่ายได้ให้สัญญาไว้ ซึ่งต่างผลิตในปี ค.ศ. 1997 เพื่อที่จะใช้เป็นใบเบิกตามความต้องการของเอฟไอเอ แต่รถเหล่านี้กลับไม่ได้นำมาใช้ ซึ่งเมอร์เซเดสเลือกที่จะเก็บไว้ รถทั้ง 25 คันนี้ สร้างขึ้นโดยค่ายเอเอ็มจีในโรงงานที่อัฟฟัลเตอร์บาก ในช่วงฤดูหนาวปี ค.ศ. 1998 จนถึงช่วงฤดูร้อนปี ค.ศ. 1999 รถเหล่านี้มีความแตกต่างจากโฉมรถแข่งเล็กน้อย มีการออกแบบให้ใช้พวงมาลัยซ้ายทั้งหมด ยกเว้นพวงมาลัยขวาพิเศษคันเดียวให้กับสมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านฮัสซานัล โบลเกียห์ แห่งบรูไน

สล็อต

ใช้เครื่องยี่ห้อ อิลมอร์ (Ilmor Engineering) ขนาด 6.0L ถึง 6.9L ซึ่งสามารถให้กำลังได้ถึง 612 PS (450 kW; 604 hp) และแรงบิดที่ 775 N·m (572 lb·ft) ทางค่าย เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี อ้างว่ารถสามารถทำอัตราเร่ง 0-100 km/h (62 mph) ได้ในเวลา 3.8 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ 344 km/h (214 mph) เยอรมนีเป็นประเทศที่อยู่ตรงยุโรปกลางทำให้เรียกได้ว่าเป็นประเทศที่เป็นศูนย์กลางของทวีปยุโรปมีพรมแดนทางทิศเหนือติดทะเลเหนือ เดนมาร์ก และทะเลบอลติก ทิศตะวันออกติดโปแลนด์และเช็กเกีย ทิศใต้ติดออสเตรีย และสวิตเซอร์แลนด์ ทิศตะวันตกติดฝรั่งเศส ลักเซมเบิร์ก เบลเยียม และเนเธอร์แลนด์ และยังมีพรมแดนติดกับทะเลสาบโบเดินที่เป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ3ในทวีปยุโรป
ประเทศเยอรมนีมีขนาด357,021 ตารางกิโลเมตรโดยแบ่งเป็นพื้นดิน349,223 ตารางกิโลเมตรและพื้นน้ำ7,798 ตารางกิโลเมตร เป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับ 7 ในทวีปยุโรปและใหญ่เป็นอันดับ 62 ของโลกและด้วยพรมแดนมีความยาวทั้งหมดรวม 3,757 กิโลเมตรมีประเทศเพื่อนบ้านถึง 9 ประเทศ ทำให้เยอรมนีเป็นประเทศที่มีประเทศเพื่อนบ้านมากที่สุดในทวีปยุโรป เยอรมนีมีสภาพทางภูมิศาสตร์ที่แตกต่างกันไปจากทางตอนเหนือถึงทางตอนใต้ โดยมีทั้งที่ราบทางตอนเหนือและเทือกเขาทางตอนใต้ เยอรมนียังมีทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ ได้แก่ แร่เหล็ก, ถ่านหิน, โพแทช, ไม้, ลิกไนต์, ยูเรเนียม, ทองแดง, ก๊าซธรรมชาติ, เกลือ, นิกเกิล, พื้นที่เพาะปลูกและน้ำ

สล็อตออนไลน์

ประเทศเยอรมนีไม่มีฤดูแล้งและฤดูหนาวจะมีอากาศที่เย็นถึงหนาวจัดและฤดูร้อนจะมีความอบอุ่นโดยอุณหภูมิจะไม่เกิน 30 ° C ในปี 2008 อาณาเขตของประเทศเยอรมนีสามารถแบ่งสภาพพื้นดินได้โดยแบ่งเป็นพื้นที่ทำกิน (34%) ป่าไม้ (30.1%) ทุ่งหญ้าถาวร 11.8%พืชและสัตว์ในเยอรมนีส่วนใหญ่เป็นพืชและสัตว์ในยุโรปกลางโดยต้นไม้ส่วนใหญ่ก็จะเป็น เบิร์ช, โอ๊กและต้นไม้ผลัดใบอื่น ๆ ที่พบตามพื้นก็จะเป็น มอสส์, เฟิร์น, คอร์นฟลาวเวอร์, เห็ดรา สัตว์ป่าก็จะเป็น กวาง, หมูป่า, แพะภูเขา, หมาจิ้งจอกแดง, แบดเจอร์ยุโรป,กระต่ายป่าและอาจมีบีเวอร์บริเวณชายแดนประเทศโปแลนด์ด้วย ซึ่งคอร์นฟลาวเวอร์สีฟ้าเคยเป็นดอกไม้ประจำชาติด้วย การรวมประเทศในปี 1990 นั้น เสมือนเป็นการผนวกประเทศเยอรมนีตะวันออกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเยอรมนีตะวันตก ดังนั้นระบบระเบียบการปกครองทั้งหมดในประเทศเยอรมนีใหม่นี้ จึงยึดเอาระบบระเบียบเดิมของเยอรมนีตะวันตกมาทั้งหมด กฎหมายสูงสุดหรือรัฐธรรมนูญของประเทศเยอรมนีเรียกว่า กรุนด์เกเซ็ทท์ (Grundgesetz) หรือแปลอย่างตรงตัวได้ว่า “กฎหมายพื้นฐาน” ถูกบัญญัติขึ้นในปี 1949 เพื่อใช้เป็นรัฐธรรมนูญของประเทศเยอรมนีตะวันตก การแก้ไขกฎหมายฉบับนี้จำเป็นต้องได้รับเสียงอย่างน้อยสองในสามจากที่ประชุมร่วมสองสภาและ อย่างไรก็ตาม บทบัญญัติเกี่ยวกับสิทธิขั้นพื้นฐาน, การแยกใช้อำนาจ, โครงสร้างสหพันธ์ และสิทธิในการต่อต้านความพยายามล้มล้างมิอาจถูกแก้ไขได้

jumboslot

รัฐสมาชิกตามรัฐธรรมนูญ ประเทศเยอรมนีประกอบด้วยสิบหก รัฐ ในจำนวนนี้ เบอร์ลินและฮัมบวร์ค มีสถานะเป็นนครรัฐ ในขณะที่ เบรเมิน เป็นรัฐที่ประกอบด้วยสองนครรัฐคือเบรเมินและเบรเมอร์ฮาเฟิน ในขณะที่อีกสิบสามรัฐที่เหลือ มีสถานะเป็นรัฐเฉพาะถิ่น ทุกรัฐมีรัฐบาลท้องถิ่นเป็นของตนเอง สามารถตรากฎหมายและจัดเก็บภาษีเองตามกรอบของรัฐธรรมนูญแห่งสหพันธ์ฯ

slot