เรื่องสำคัญก่อนตัดสินใจซื้อกองทุนรวม

ช่วงที่ผ่านมา 2-3 ปีมานี้ ผมเริ่มเห็นหลายคนสนใจในการลงทุน เนื่องจากเหตุผลสำคัญคือเรื่องการสร้างผลตอบแทนให้กับเม็ดเงินเพิ่มมากขึ้น ในสภาวะที่ดอกเบี้ยต่ำ

jumbo jili

แน่นอนว่ากองทุนรวมถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการลงทุนที่มีมืออาชีพมาคอยจัดการ โดยนำเงินของเรานั้น ไปลงทุนไม่ว่าจะเป็นเงินตั้งแต่หลักไม่กี่ร้อยบาทจนไปถึงเงินหลักหลายล้านบาท

ทั้งนี้ กองทุนรวมเหมาะสำหรับตั้งแต่มือใหม่ที่กำลังเริ่มต้นการลงทุน จนไปถึงนักลงทุนมือเก๋า นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมาเราจะเห็นว่ากองทุนรวมจำนวนหลายกองให้ผลตอบแทนที่ดีไม่น้อย

อย่างไรก็ดี แต่ก่อนที่เราจะลงทุนในกองทุนรวมนั้น เราควรทำความรู้จักกับปัจจัยสำคัญ ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนในกองทุนรวม ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถลงทุนได้อย่างมั่นใจมากขึ้น เพื่อทำให้ได้ผลตอบแทนที่ดี ลดโอกาสที่จะสูญเสียผลตอบแทนในระยะยาวครับ

  1. เข้าใจสินทรัพย์กับความเสี่ยง

ก่อนที่เราจะลงทุนในกองทุนรวมนั้นจะต้องเข้าใจถึงสินทรัพย์แต่ละชนิดที่เราจะลงทุนว่ามีข้อดีข้อเสีย รวมถึงความเสี่ยงต่างกันอย่างไร ไล่ตั้งแต่สินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำไปสูงคือ เงินฝากธนาคาร พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้บริษัทเอกชน หุ้นบริษัทที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ สินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมัน ทองคำ ซึ่งความเสี่ยงของแต่ละสินทรัพย์ไม่เท่ากัน และยังรวมถึงความผันผวนของราคา เช่น เงินฝากนั้นเราจะเห็นว่าความเสี่ยงที่เงินฝากจะทำให้สูญเสียผลตอบแทนนั้นโอกาสต่ำมากเมื่อเทียบกับหุ้นที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ที่ความผันผวนของราคา ส่งผลทำให้มีโอกาสที่จะให้สูญเสียผลตอบแทนสูงกว่าเมื่อเทียบเงินฝาก

อีกเรื่องที่อยากจะเน้นย้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักลงทุนมือใหม่ คือการลงทุนผ่านกองทุนรวมจะมีการทำแบบประเมินความเสี่ยงของผู้ลงทุนในครั้งแรกในเวลาเปิดบัญชีลงทุนในกองทุนรวม ฉะนั้นเวลาทำแบบประเมินนั้นควรที่จะประเมินตามความเป็นจริง เพราะในแบบประเมินการลงทุนนั้นหลังจากที่เราประเมินเสร็จก็จะมีรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมกับเราจริงๆ

สล็อต

  1. เข้าใจเรื่องเป้าหมายการลงทุนของตัวเราเอง

เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญของการลงทุนเลยทีเดียว เนื่องจากก่อนที่เราจะลงทุนเราต้องเข้าใจก่อนว่าเราลงทุนไปนั้นเพื่อจะนำเงินไปทำอะไร ยกตัวอย่างเช่น เก็บเงินไว้ใช้ยามชรา หรือนำเงินไปท่องเที่ยว

เราจะเห็นว่าจุดประสงค์การลงทุนนั้นจะถือว่าแตกต่างกัน ซึ่งถ้าหากเราเก็บเงินไว้ใช้ยามแก่ เม็ดเงินดังกล่าวก็ควรที่จะลงทุนกับสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง เช่น หุ้นต่างประเทศ เป็นต้น แต่ถ้าเราจะเก็บเงินไปท่องเที่ยว สินทรัพย์ที่เหมาะกับการลงทุนก็ควรจะเป็นสินทรัพย์ที่คุ้มครองเงินต้นของเรา เช่น เงินฝาก ซึ่งถ้าหากเราไม่เข้าใจเป้าหมายการลงทุนอาจก่อให้เกิดความผิดพลาด ส่งผลกระทบต่อการลงทุน

  1. เข้าใจสไตล์การลงทุนของกองทุนที่เราลงทุน

เมื่อเราพอเข้าใจเป้าหมายที่เราจะลงทุนแล้วนั้น ขั้นตอนนี้ก็คือการเลือกกองทุนที่เราจะลงทุน แม้ว่าแต่ละกองทุนจะลงทุนในสินทรัพย์เหมือนๆ กัน แต่แนวทางการลงทุนของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (หรือ บลจ.) ที่นำเงินเราไปบริหารเองนั้นก็อาจมีแนวทางแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นเน้นการลงทุนระยะสั้นๆ ตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 1 ปี ระยะกลางตั้งแต่ 3-5 ปี จนไปถึงระยะยาวตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป

ขณะที่บางกองทุน อาจมีเงื่อนไขไม่ให้เราสามารถขายหน่วยลงทุนกองทุนออกมา เช่น 3-6 เดือน ทำให้เราต้องนำปัจจัยดังกล่าวมาพิจารณาให้เหมาะสมกับการลงทุนของเราด้วยเช่นกันว่านโยบายการลงทุนของแต่ละแห่งนั้นเหมาะสมหรือไม่

นอกจากนี้ กองทุนบางกองทุน มีนโยบายจ่ายปันผลกำไรที่กองทุนทำได้ออกมา แต่บางกองทุนไม่จ่ายปันผลออกมา เพียงแต่จะนำเงินดังกล่าวกลับไปลงทุนอีกรอบ ซึ่งผู้อ่านจะต้องพิจารณาในเรื่องนี้ด้วย

สล็อตออนไลน์

สำหรับข้อมูลเงื่อนไขการลงทุนของแต่ละกองทุนเราสามารถอ่านได้จากสิ่งที่เรียกว่า “หนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ” สามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่เราต้องการจะลงทุนในกองทุนที่เราสนใจ

  1. อย่าลืมตรวจสอบ “ค่าธรรมเนียมกองทุน” จุดชี้เป็นชี้ตายการลงทุน

เรื่องสำคัญไม่แพ้กันและจะมีผลชี้เป็นชี้ตายการลงทุนคือเรื่องของค่าธรรมเนียมกองทุนซึ่งอยู่ใน “หนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ” ซึ่งค่าใช้จ่ายนี้กองทุนจะหักออกจากหน่วยลงทุน โดยค่าใช้จ่ายนี้จะนำไปให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซึ่งเป็นคนนำเงินของเราไปลงทุนนั่นเอง ซึ่งก็จะมีค่าใช้จ่าย เช่น ค่าธรรมเนียมซื้อ-ขาย ค่าธรรมเนียมการบริหาร ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับนายทะเบียนหรือผู้ดูแลผลประโยชน์

ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายของกองทุนเหล่านี้ก็จะมากน้อยแตกต่างกันไปตามแต่ประเภทของสินทรัพย์ จนไปถึงความซับซ้อนของกลยุทธ์การลงทุน ซึ่งถ้าซับซ้อนมาก ค่าธรรมเนียมส่วนใหญ่ก็จะแพงมากขึ้นตามไปด้วย

เมื่อไม่นานมานี้ ผมเคยนั่งอ่านหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญของบางกองทุนในไทยที่ไปลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งกองทุนหลายๆ กองทุนมีค่าธรรมเนียมกองทุนสูงมาก แต่ผลงานของกองทุนกลับทำได้น่าผิดหวัง เมื่อเทียบกับการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทเดียวกัน บางกองทุนที่ค่าธรรมเนียมสูง แต่ทำผลงานได้ดีในหลายสิบปีเลยทีเดียวก็มี ซึ่งเราจะต้องอ่านรายละเอียดค่าธรรมเนียมของกองทุนให้ดี รวมถึงเปรียบเทียบกับผลตอบแทนที่กองทุนทำได้ กับดัชนีชี้วัดที่กองทุนนำมาเปรียบเทียบว่าผลงานของผู้จัดการกองทุนที่เรากำลังจะลงทุนนั้นดีแค่ไหน

jumboslot

ย้ำครับว่า อย่าปล่อยให้กองทุนที่ค่าธรรมเนียมแสนแพง แต่ผลงานของกองทุนที่สุดแสนจะย่ำแย่มาทำลายการลงทุนของคุณ เพราะเท่ากับว่าเรากำลังประเคนเงินให้กับผู้จัดการกองทุนที่ไม่เก่งครับ

  1. อย่าลืมติดตามข่าวสารและตรวจสอบการลงทุนให้สม่ำเสมอ

แม้ว่าเราจะลงทุนในกองทุนรวมโดยที่มีมืออาชีพมาช่วยจัดการด้านการลงทุนแล้วก็ตาม อย่างไรก็ดีเราเองก็จะต้องหมั่นติดตามข่าวสารสม่ำเสมอ โดยเฉพาะหากเราลงทุนในกองทุนประเภทเป็นสินทรัพย์ที่ความเสี่ยงสูง เช่น หุ้น น้ำมัน ทองคำ เพราะว่าสินทรัพย์เหล่านี้มีความผันผวนกับเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก

การติดตามข่าวสารการลงทุนเราอาจไม่ต้องถึงขั้นอ่านข่าวเศรษฐกิจหรือต่างประเทศแทบจะทุกวันก็ได้ครับ แต่อย่างน้อยๆ ถ้าหากเราลงทุนแล้ว ก็ควรจะติดตามอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ซึ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเราจะเห็นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนของไทยหลายแห่งมีการสรุปข่าวเศรษฐกิจ หรือปัจจัยสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนประจำสัปดาห์แบบสั้นๆ ไม่ยาวมาก เราควรเสียเวลาเพียงเล็กน้อยเพื่อทำความเข้าใจปัจจัยต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นด้วย

slot

สำคัญอย่างมาก ถ้าหากเป็นกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ เช่น หุ้นต่างประเทศที่ปัจจุบันกองทุนเหล่านี้กำลังเพิ่มจำนวนมากขึ้นในไทย ในแต่ละเดือนนั้นกองทุนเหล่านี้ มักจะมีบทสรุปการลงทุนของกองทุนที่ไปลงทุนว่าได้ลงทุนอะไรไปบ้าง หรือปรับพอร์ตการลงทุนอะไรไปแล้วบ้าง

การที่เราเข้าใจข่าวสารการลงทุนจะทำให้เราเข้าใจถึงภาพรวมการลงทุนที่ดี ส่งผลต่อการตัดสินใจในการลงทุนได้ดีมากขึ้น

ปัจจัยทั้งหมด 5 ข้อที่กล่าวมานั้นหวังว่าจะช่วยให้การลงทุนในกองทุนรวมของท่านเติบโตมากขึ้น และสนุกกับการลงทุนในกองทุนรวมที่ปัจจุบันมีหลากหลายสินทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศครับ

สิ่งที่ต้องรู้ ก่อนเลือกซื้อกองทุน ETF

บทความนี้จะขอพาไปทำความรู้จักกับเทคนิคการเลือกซื้อ ETF ว่าเราต้องรู้อะไรบ้าง ต้องพิจารณาปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลต่อผลตอบแทน และความเสี่ยง เพื่อช่วยให้เราเลือก ETF ได้อย่างมั่นใจขึ้น..
เชื่อว่าคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้ คงกำลังต้องการหาตัวช่วยในการตัดสินใจลงทุนในกองทุน ETF ขอแสดงความยินดีด้วย เพราะบทความนี้จะขอพาไปทำความรู้จักกับเทคนิคการเลือกซื้อ ETF ว่าเราต้องรู้อะไรบ้าง ต้องพิจารณาปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลต่อผลตอบแทน และความเสี่ยง เมื่อเราลงทุนใน ETF บทความนี้จะขอแนะนำ 5 อย่างที่ควรรู้ก่อนเลือกซื้อกองทุน ETF มีอะไรบ้างมาติดตามกันได้เลย

jumbo jili

  1. ต้องรู้จักตัวเองก่อน ว่าต้องการลงทุนแบบไหน?
    เนื่องจากกองทุน ETF หรือ Exchange Traded Fund เป็นกองทุนรวมดัชนีที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยมีนโยบายที่ต้องการสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับการเคลื่อนไหวของดัชนีอ้างอิง หรือราคาของสินทรัพย์ที่กองทุนอ้างอิง ดังนั้นแล้ว นักลงทุนที่เหมาะกับการลงทุนใน ETF จึงไม่ควรคาดหวังผลตอบแทนที่มากกว่าดัชนีอ้างอิงของ ETF นั้น ๆ ซึ่งหากเราเป็นนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนมากกว่าดัชนีอ้างอิง คิดว่า ETF คงไม่เหมาะสมกับเราเท่าไหร่นัก

และที่สำคัญอีกหนึ่งสิ่งก็คือ ถึงแม้ ETF นั้นจะมีการกระจายความเสี่ยงในตัวเองอยู่แล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เราเองต้องดูด้วยว่า ETF ที่เลือกนั้น ลงทุนในสินทรัพย์อะไร และเรารับความเสี่ยงของสินทรัพย์นั้น ๆ ได้หรือไม่ ถ้าหากราคาดัชนี หรือสินทรัพย์อ้างอิงนั้น เกิดการผันผวนจนทำให้เราขาดทุนจากการลงทุนใน ETF นั้น ๆ

ถ้าพูดให้ถูกต้องก็คงต้องบอกว่า ETF คือเครื่องมือในการลงทุนที่เหมาะกับนักลงทุนสาย Passive Investing ซึ่งแน่นอนว่าข้อดีของการลงทุนใน ETF ก็คือเป็นการลงทุนที่มีการกระจายความเสี่ยงในตัวอยู่แล้ว ซึ่งนอกจากจะสามารถใช้สร้างผลตอบแทนจากส่วนต่างราคาได้เหมือนหุ้นแล้ว ยังเหมาะสำหรับคนที่ต้องการทำ Asset allocation เพื่อจัดพอร์ตในการลดความเสี่ยง หรือวางแผนพอร์ตการลงทุนในระยะยาวได้อีกด้วย

สล็อต

  1. เข้าใจผลตอบแทนของ ETF
    ผลตอบแทนของ ETF นั้นไม่ต่างจากผลตอบแทนของกองทุนรวม หรือหุ้นเลยซึ่งเราสามารถแบ่งผลตอบแทนได้เป็น 2 ลักษณะดังนี้

ผลตอบแทนที่เกิดจากส่วนต่างของราคา (Capital Gain) จะเกิดขึ้นเมื่อเราทำการซื้อหน่วยลงทุนของ ETF ตัวนั้นๆ และนำไปขายเมื่อราคาของ ETF นั้นปรับตัวสูงขึ้น
ผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend) ในกรณีที่เราเลือกลงทุนใน ETF ที่มีนโยบายลงทุนในกลุ่มหุ้น เราก็จะมีโอกาสได้รับเงินปันผล เมื่อผู้จัดการกองทุนจัดสรรเงินปันผลที่กองทุน ETF ได้มาจากเงินปันผลของบริษัทที่เป็นองค์ประกอบของดัชนีอ้างอิงนั่นเอง

สล็อตออนไลน์

  1. รู้จักความเสี่ยงของ ETF
    หลายคนมองว่าเมื่อ ETF เป็นกองทุนรวมดัชนีที่มีการกระจายความเสี่ยงแล้ว การซื้อจะมีความเสี่ยงน้อย ซึ่งจริง ๆ แล้วต้องบอกว่า ต่อให้ ETF มีการกระจายความเสี่ยงแล้ว ก็ยังมีโอกาสขาดทุนได้เหมือนกัน หากดัชนีนั้น ๆ ปรับตัวลดลง หรือมีปัจจัยมากระทบให้เกิดความผันผวนขึ้นมา แต่โดยปกติแล้ว ความเสี่ยงมักจะต่ำกว่าการลงทุนในหุ้นรายตัว เนื่องจากการลงทุนใน ETF เป็นการลงทุนที่มีการกระจายการลงทุนไปยังหุ้นหลาย ๆ ตัวในดัชนี จึงมีโอกาสที่ขาดทุนเงินต้นทั้งหมดน้อยกว่าการลงทุนในหุ้นบริษัทใดบริษัทหนึ่ง

jumboslot

ซึ่งเดี๋ยวเราจะมาบอกในข้อต่อไปว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลต่อผลตอบแทนจากการลงทุนใน ETF ทั้งนี้ทั้งนั้นก่อนตัดสินใจลงทุนในทุก ๆ สินทรัพย์ ต้องอย่าลืมว่า การลงทุนทุกอย่างล้วนมีความเสี่ยง สิ่งสำคัญคือต้องหาความรู้และข้อมูลให้มาก ๆ ก่อนตัดสินใจลงทุน

  1. รู้จักปัจจัยที่ส่งผลต่อผลตอบแทน และความเสี่ยงของ ETF
    มาถึงข้อสำคัญกันแล้ว ข้อนี้จะขอพามารู้จักปัจจัยหลัก ๆ ที่มีผลต่อการลงทุนใน ETF กันว่ามีอะไรบ้างที่นักลงทุนควรรู้ก่อนตัดสินใจลงทุนใน ETF ดังนี้

การเปลี่ยนแปลงราคาของหลักทรัพย์อ้างอิง ข้อนี้หลายคนน่าจะเดาได้ไม่ยากกันอยู่แล้ว เพราะราคา ETF นั้นจะขึ้นลงตามราคาของหลักทรัพย์อ้างอิง หากราคาหลักทรัพย์อ้างอิงนั้นปรับตัวลง ก็จะทำให้ ETF ของเราปรับตัวลงเช่นกัน
ความเสี่ยงจากผลตอบแทนของ ETF ไม่เป็นไปตามดัชนี ข้อนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่าตัว ETF เป็นกองทุนที่ลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนตามดัชนี แล้วจะมีความเสี่ยงนี้ได้อย่างไร? ต้องขออธิบายแบบนี้ว่า แม้ว่า ETF นั้นเป็นกองทุนที่พยายามสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิงให้ได้มากที่สุด อย่างไรก็ตามผลตอบแทนของ ETF ก็อาจคลาดเคลื่อนไปจากผลตอบแทนของดัชนีอ้างอิงได้ ซึ่งค่าที่จะใช้บ่งบอกความคลาดเคลื่อนระหว่างผลตอบแทนการลงทุนของ ETF และดัชนีอ้างอิง สามารถดูได้จากค่าที่เรียกว่า “Tracking Error”

slot

ราคาซื้อขาย เนื่องจาก ETF ซื้อขายด้วยราคาตลาด หรือ Trading Price ดังนั้นราคา ETF สามารถเปลี่ยนแปลงไปตามความต้องการซื้อขายของนักลงทุนได้เช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามยังไม่น่ากังวลใจนัก เพราะโดยปกติแล้วจะมี Market Maker คอยช่วยดูแลให้ราคาเหมาะสมและสามารถซื้อขายได้
อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ ปัจจัยนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับการลงทุนใน ETF ที่อ้างอิงสินทรัพย์ในต่างประเทศ โดยความเสี่ยงจะเกิดจากการที่อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศมีการเปลี่ยนแปลงไป เช่น การแข็งค่า หรืออ่อนลง ของค่าเงินบาท

  1. รู้จักว่าลงทุนใน ETF อะไร
    เนื่องจาก ETF นั้นถือเป็นกองทุนประเภทหนึ่ง ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว เวลาเราจะเลือกซื้อกองทุนสักกองทุนหนึ่ง เราจะต้องรู้ด้วยว่ากองทุนนั้น ๆ ลงทุนในสินทรัพย์ประเภทไหน และเรารับความเสี่ยงของสินทรัพย์ประเภทนั้นได้หรือไม่ รวมถึงการกระจายการลงทุนไปในหลากหลายสินทรัพย์ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทเดียวมากจนเกินไป เช่น หากปัจจุบันเรามีการลงทุนในหุ้นไทยสูงอยู่แล้ว เราสามารถใช้ ETF ในการกระจายความเสี่ยง และกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกอื่น ๆ เช่น หากสนใจกองทุนตราสารหนี้ สามารถเลือกใช้ ABFTH ETF ที่มีการลงทุนในดัชนีพันธบัตรไทยเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการกระจายความเสี่ยง หรือ หากต้องการลงทุนในทองคำ สามารถเลือกใช้ GLD ETF ที่ลงทุนใน SPDR Gold Trust แทนได้เช่นกัน

เรื่องที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจซื้อกองทุนรวม

“กองทุนรวม” พี่ทุยคิดว่าเป็นการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับมือใหม่อยู่แล้ว เพราะอย่างน้อยก็ช่วยทำให้เราเข้าถึงการลงทุนได้ง่ายมากขึ้น แต่พี่ทุยจะบอกว่าก่อนซื้อกองทุนรวมทุกครั้ง มี 5 สิ่งที่เราจำเป็นต้องรู้ก่อน เพื่อให้การลงทุนของเราประสบความสำเร็จร่ำรวยกันอย่างยิ่งใหญ่ นั่นก็คือ

jumbo jili

  1. รู้ว่าเป้าหมายการเงินของตัวเองคืออะไร ?
    เนื่องจากกองทุนรวมมีมากมายหลายกองทุน แน่นอนว่านโยบายการลงทุนก็มีความแตกต่างกัน ตั้งแต่การลงทุนในเงินฝาก ตลาดเงิน ตราสารหนี้ระยะสั้น ตราสารหนี้ระยะยาว หรือจะเป็นหุ้น กองทุน น้ำมัน อสังหาริมทรัพย์ก็มีให้เราเลือกลงทุนทั้งนั้น ถ้าเราไม่รู้ว่าเป้าหมายการลงทุนของเราเป็นอย่างไร เราไม่มีทางที่จะเลือกกองทุนรวมที่เหมาะสมกับตัวเราได้เลย

สล็อต

  1. รู้ว่า “กองทุนรวม” มีนโยบายการลงทุนอย่างไร ?
    หลังจากที่เรารู้แล้วว่าเป้าหมายการเงินของเราเป็นอย่างไร จากนั้นเราก็เลือกกองทุนรวมที่มีนโยบายที่เข้ากับเป้าหมายการเงินของเราเลย เช่น ถ้าเรารู้ว่าเงินกองนี้จะใช้ในอีก 6 เดือนข้างหน้ากองทุนรวมที่เหมาะสมอาจจะเป็น กองทุนรวมตลาดเงินหรือว่าตราสารหนี้ระยะสั้นๆ แต่ถ้าเราบอกว่าเราต้องการเก็บเงินเพื่อเป้าหมายเกษียณ เก็บยาว ๆ ไปเลย 20-30 ปี พี่ทุยว่าการใช้กองทุนรวมที่ลงทุนในหุ้น หรือว่าจะใช้พวก RMF เลยก็น่าสนใจเพราะเราจะได้ประโยชน์ในเรื่องภาษีด้วย

สล็อตออนไลน์

  1. รู้ว่ากองทุนรวมเก็บค่าธรรมเนียมเท่าไหร่ ?
    บางคนอาจจะเคยได้ยินเฉพาะค่าธรรมเนียมหุ้น แต่สำหรับค่าธรรมเนียมกองทุนก็มีเช่นเดียวกัน ประเด็นนี้เป็นประเด็นที่หลาย ๆ คนมักจะลืม อย่าลืมว่าการที่เรามีมืออาชีพคอยบริหารเงินให้กับเรา คนทำงานก็ต้องกินข้าวกินน้ำเช่นกัน นั่นแปลว่าต้องมีค่าจ้างของคนที่มาบริหารให้กับเรา ค่าธรรมเนียมส่งผลกระทบต่อการลงทุนตรงที่ว่าผลตอบแทนที่เราได้รับจริงนั้นจะเท่ากับ ผลตอบแทนที่กองทุนรวมทำได้ หักลบกับค่าธรรมเนียมก่อนเสมอ ดังนั้นอย่าลืมดูค่าธรรมเนียมเสมอเพราะจะทำให้ผลตอบแทนเราได้น้อยลง

jumboslot

  1. รู้ว่าการซื้อขายกองทุนรวมไม่ได้ซื้อแบบ Real-Time
    อันนี้พี่ทุยเรียกว่าเป็นข้อจำกัดของการลงทุนในกองทุนรวมเลยละกัน เพราะว่าเวลาที่เราจะซื้อกองทุนรวม สมมติว่าเราซื้อวันนี้ ราคาของหน่วยลงทุน (NAV) ที่เราได้รับนั้นจะเป็นราคาเมื่อตลาดปิด ณ วันนั้น ๆ จะไม่ได้สะดวกหรือว่าได้ราคา Real-Time แบบการซื้อหุ้นที่เราคุ้นเคยกัน นั่นแปลว่าการลงทุนผ่านกองทุนรวมจะมีดีเลย์อย่างน้อยๆก็ 1 วัน ทำให้ถ้าใครจะใช้กองทุนรวมลงทุนแบบคิดว่าตลาดจะขึ้นหรือลงเพราะข่าวที่ออกมา พี่ทุยว่าอาจจะไม่ทันการสักเท่าไหร่ ดังนั้นพี่ทุยมักจะแนะนำให้ใช้กองทุนรวมเป็นการลงทุนระยะยาวซะมากกว่า เพราะนอกจากเรื่องของค่าธรรมเนียมก็มีเรื่องของจังหวะที่เราเข้าออกรวดเร็วแบบหุ้นไม่ได้

slot

  1. รู้ว่าการลงทุนในกองทุนต้องติดตามการลงทุนเช่นกันกับการลงทุนอื่นๆ
    เรื่องติดตามการลงทุนไม่ว่าจะเป็นการลงทุนอะไรก็ตาม สิ่งที่ต้องทำก็คือติดตามการลงทุนอย่างสม่ำเสมอว่าการลงทุนนั้นเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้หรือเปล่า ยังดีอยู่มั้ย? แม้แต่กองทุนรวมที่มีมืออาชีพคอยบริหารเงินให้กับเราก็ตาม ก็ไม่ได้หมายความว่าเราวางเงินเราไว้ชิวๆไม่ต้องทำอะไรได้ เพราะอย่าลืมว่ากองทุนรวมในตลาดมีมากมาย แค่เฉพาะในไทยก็หลายร้อยหลายพันกองทุนรวมแล้ว ถ้ากองทุนรวมที่เราลงทุนอยู่ทำผลตอบแทนได้ไม่ดี หรือว่าแพ้กองทุนอื่นๆเยอะ สิ่งที่เราควรทำก็คือย้ายการลงทุนของเราไปที่กองทุนกองใหม่

เมื่อเรารู้แล้วว่าอะไรบ้างที่เราควรรู้ก่อนลงทุนกองทุนรวม อย่าลืมเอาไปปรับใช้ก่อนการลงทุนเสมอ เพราะพี่ทุยเห็นหลายๆครั้ง เวลาซื้อกองทุนรวมมักจะซื้อเพราะมีคนนู้นคนนี้ช่วยให้ลงก็เทลงทุนตามไป พี่ทุยถามว่ารู้มั้ยว่ากำลังลงทุนอะไรอยู่ ส่วนมากก็จะตอบไม่รู้กันซะอย่างงั้น

กองทุนที่จ่ายปันผล

ส่วนสุดท้ายสำหรับหุ้นปันผล ก็จะมีประวัติการปันผลย้อนหลัง ตั้งแต่เปิดกองทุนขึ้นมา ตรงนี้มีประเด็นหลายคนอาจจะงงว่า ทำไมมี 2 วัน วันปิดสมุดทะเบียนกับวันปันผล

jumbo jili

วันปิดสมุดทะเบียน หรือ XD Date คือวันที่เช็คชื่อว่าใครจะได้รับปันผลนั่นเอง ถ้าคุณมีกองทุนในวันที่ขึ้น XD นั้น ก็จะเป็นการการันตีแน่นอนว่าได้รับปันผลและวันนี้จะเป็นวันที่ NAV มักจะมีการลดลงตามจำนวนเงินปันผลที่จ่ายออกมา (แต่ต้องดูปัจจัยอื่น ๆ หุ้นที่กองทุนถืออาจจะขึ้นหรือลงในวันนั้นเพิ่มเติมก็ได้) ส่วนเงินที่เราจะได้ จะได้ในช่วงวันที่ปันผลนั่นเอง

จะสังเกตได้ว่าการคัดเลือกกองทุนนั้นมีปัจจัยต่าง ๆ ที่ต้องมองมากมายมากกว่าผลตอบแทนย้อนหลัง อีกมุมนึงที่จะลืมไปไม่ได้ คือนักลงทุนทุกท่านควรเปรียบเทียบคัดเลือกกองทุนโดยอย่าดูกองทุนเพียงแค่ตัวเดียว ควรที่จะเปรียบเทียบกองต่างๆในกลุ่มเพื่อให้มั่นใจว่ากองนั้นๆ มีนโยบายการลงทุนที่ตรงกับความต้องการของนักลงทุนเอง และมีผลการดำเนินงานในแง่มุมต่าง ๆ ที่ดี

คัมภีร์มหากาพย์ กองทุนรวม คืออะไร? มือใหม่อ่านที่นี่ ครบจบที่เดียว
เริ่มลงทุนจริง!
อัพเดท 16 ม.ค. 2564 อยากดูแบบละเอียด เดฟเรนเจอร์ออกบทความใหม่ คลิกไปดูได้เลย พาเปิดบัญชีซื้อกองทุนรวม นั่งอยู่บ้าน 15 นาที ไม่ต้องส่งเอกสาร พร้อมเทียบให้หมด ที่ไหนเปิดที่เดียวซื้อได้ทุกบลจ. บ้าง

หากนักลงทุนมีสัดส่วนพอร์ตการลงทุนในใจหรือกองทุนที่ต้องการจะลงทุนได้แล้ว ก็ถึงเวลานำเงินไปลงทุนจริงกันเสียที โดยทางเลือกในตลาดปัจจุบันก็มีอยู่หลายทางเลือก แบ่งได้ตามนี้

สล็อต

  1. เปิดพอร์ตลงทุนกับธนาคาร
    นักลงทุนสามารถเดินเข้าไปที่สาขาธนาคารใกล้บ้านท่านและเปิดบัญชีได้ทันที ซึ่งบางธนาคารนอกจากจะลงทุนในกองทุนของบลจ. ตัวเองแล้ว ก็เริ่มจะเปิดให้สามารถลงทุนในกองทุนของบลจ. อื่นข้างเคียงด้วยอาทิเช่น TMB Advisory, TISCO เป็นต้น
  2. เปิดพอร์ตกับ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)
    อาทิเช่น Nomura, Phillip ซึ่งกลุ่มนี้จะมีจุดเด่นด้านการที่สามารถซื้อกองทุนได้ในหลายๆ บลจ. ในที่เดียวรวมถึงสามารถเปิดบัญชีเสริมเพื่อซื้อ SSF, RMF ได้อีกด้วย
  3. เปิดพอร์ตกับ FINNOMENA
    สำหรับข้อสุดท้ายเป็นการเปิดพอร์ทกับ FINNOMENA ซึ่งมีข้อดีคือ ลงทุนได้หลายบลจ. (ปัจจุบันมี 19 บลจ. ชั้นนำของไทยครบหมดแล้ว) รวมถึงสามารถใช้บริการ FINNOMENA PORT ซึ่งเป็นบริการออกแบบพอร์ตการลงทุนอัตโมมัติพร้อมคอยแนะนำปรับพอร์ตให้คุณเมื่อจำเป็นอีกด้วย ทุกอย่างสามารถทำผ่านทั้งเว็บไซต์และแอพพลิเคชันได้ทันที

สล็อตออนไลน์

คัมภีร์มหากาพย์ กองทุนรวม คืออะไร? มือใหม่อ่านที่นี่ ครบจบที่เดียว
คำถาม หรือ ศัพท์ที่พบบ่อย

  1. กองทุน 2 กอง ตัวนึง NAV สูงมาก อีกตัว NAV ต่ำกว่า หมายความว่าตัวที่สองถูกกว่า มีโอกาสได้กำไรมากกว่าใช่หรือไม่?
    คำตอบ ไม่ใช่ เพราะสุดท้ายสิ่งที่จะทำให้เราได้กำไรจากการลงทุนคือผลตอบแทนเป็น % กองทุนที่ NAV สูงอาจจะแค่เปิดกองทุนมานานกว่า (และทำผลตอบแทนเป็นบวกมา) สุดท้ายเมื่อเราเข้าซื้อก็ต้องดูกันต่อไปว่ากองทุนนั้นจะสามารถสร้างผลตอบแทนต่อไปได้หรือไม่ ทั้งนี้ไม่ต้องห่วงว่ากองนั้น NAV สูงแล้วเราจะซื้อได้น้อย เราเพียงแค่ต้องการซื้อในจำนวนเงินที่มากกว่าขั้นต่ำของกองก็เพียงพอ บลจ. จะนำเงินของเราไปหารด้วย NAV ออกมาเป็นหน่วยลงทุนซึ่งมีจุดทศนิยมได้ 4 ตำแหน่ง ไม่จำเป็นต้องซื้อกองทุนเต็มหน่วยแต่อย่างใด

jumboslot

  1. ติดดอย คืออะไร?
    คำตอบ เป็นคำแสลงตลก ๆ ที่นักลงทุนชอบเรียกกันเวลาขาดทุน เมื่อต้นทุนของเราอยู่สูงกว่าราคาตลาดปัจจุบันมากๆ ก็เปรียบเสมือนตัวเรา (ต้นทุน) อยู่บนดอยสูง ๆ นั่นเอง

จุดขาดทุนสูงสุด (Maximum Drawdown)

ถ้าคุณต้องการความสงบของจิตใจ สิ่งนี้เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่ดูไม่ได้

เพราะถ้าคุณขาดทุน …. 30% คุณต้องทำกำไรกลับมาถึง 43% เพื่อให้คืนทุน

ถ้าขาดทุน 50% ต้องทำกำไรกลับมา 100%

ถ้าขาดทุน 90% ต้องทำกำไรกลับมา 900%

ยิ่งขาดทุนมาก โอกาสในการทำกำไรกลับมายิ่งยาก โอกาสเปลี่ยนชีวิตให้ดีกว่ายิ่งไม่มี

กองทุนใด ๆ ก็ตาม ที่สามารถจำกัดการขาดทุนได้ดี เมื่อเกิดการขาดทุนย่อมสามารถฟื้นกลับขึ้นมาได้ง่ายกว่า ไม่เหนื่อยเหมือนกองทุนที่ขาดทุนลึกนั่นเอง

ทั้งหมดนี้ไม่ต้องไปนั่งเปิดกราฟดูเอง FINNOMENA ทำมาให้ดูง่าย ๆ ด้วย 3D Diagram เรียบร้อย โดยยิ่งสามเหลี่ยมใหญ่มากขึ้นก็แสดงว่ากองทุนนั้นมีปัจจัยด้านนั้น ๆ ที่ดีนั่นเอง!

slot


คัมภีร์มหากาพย์ กองทุนรวม คืออะไร? มือใหม่อ่านที่นี่ ครบจบที่เดียว
กราฟกองทุน SCBMSE ณ วันที่ 30 พ.ย. 2563

ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

ต่อมาขอเอาใจสาย Technical กันหน่อย เมื่อกดไปที่แท็บ “กราฟ” ก็จะขึ้นกราฟกองทุนของ TradingView มาให้ครับ ตรงนี้เราสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการแสดงกราฟได้ และใช้เครื่องมือต่าง ๆ ได้เต็มที่เลย

คัมภีร์มหากาพย์ กองทุนรวม คืออะไร? มือใหม่อ่านที่นี่ ครบจบที่เดียว
ผลการดำเนินงานกองทุน SCBMSE ณ วันที่ 27 พ.ย. 2563

ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

ส่วนต่อมาจะเป็น ตารางผลตอบแทนย้อนหลัง สามารถคลิกแถบด้านบนตรง “ผลการดำเนินงานและปันผล” ได้เลย ซึ่งตรงนี้ไม่ว่าจะเป็นกองทุนที่ปันผล หรือ ไม่ปันผลก็สามารถดูได้เหมือนกัน ทาง FINNOMENA มีการคำนวณรวมมาให้แล้ว นอกจากผลการดำเนินงานหรือ Performance ของกองทุนนั้นๆ แล้วยังมีตัวเลขค่าเฉลี่ยผลการดำเนินงานของกองทุนในกลุ่มเดียวกัน รวมไปถึงสามารถตรวจสอบตำแหน่งเมื่อเทียบเป็นร้อยละ (Percentile) ว่า ผลตอบแทนของกองทุนนี้อยู่ในกลุ่มใด ถ้า “ดีที่สุด” หมายความว่ากองทุนนั้นมีผลตอบแทนอยู่ในช่วงร้อยละ 1-5 เมื่อเทียบกับกองทุนทั้งหมด

ฝั่งขวามือจะมีข้อมูลเชิงความเสี่ยง อย่าง Standard Deviation หรือค่าความผันผวนของกองทุน ตัวเลขนี้ยิ่งน้อยยิ่งดี ความผันผวนที่ต่ำแสดงให้เห็นถึงการจัดการความเสี่ยงที่ดีของกองทุน และจากข้อมูลย้อนหลังที่ผ่านมากองทุนที่มีการจัดการความเสี่ยงดีมักจะมีผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว ส่วนอีก 2 อันอย่าง Risk-Adjusted Return กับ Max Drawdown เหมือนที่เล่าไปด้านบนครับ

ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน

แนะนำว่าการเปรียบเทียบกองทุน ควรทำกับกองทุนประเภทเดียวกันนะครับ จะช่วยในการตัดสินใจเลือกกองทุนรวมได้ดี เพราะถ้าสมมตินำกองทุนตราสารหนี้กับกองทุนหุ้นมาเปรียบเทียบกัน ก็เหมือนเรานำผลไม้ต่างชนิดมาเปรียบเทียบกันน่ะครับ เนื่องจากลักษณะกองทุนเป็นคนละแบบ ลักษณะผลตอบแทนและความเสี่ยงก็จะไม่เหมือนกันครับ

jumbo jili

เพิ่มเติม ถ้าใครเข้าไปดูข้อมูลกองทุนใดกองทุนหนึ่งแล้ว ก็กดเพิ่มกองทุนเปรียบเทียบจากหน้านั้นได้เช่นกัน อ่านเพิ่มเติมได้ที่ รีวิวของใหม่: ‘เปรียบเทียบกองทุน’ Feature ที่สามารถเปรียบเทียบกองทุนได้สูงสุดถึง 10 กอง!

กลับมาที่การดูกองทุนเดี่ยว ๆ บ้าง พอเราทำการกรองกองทุนคร่าว ๆ แล้ว สิ่งที่เราต้องทำต่อคือมาเริ่มเจาะลึกกองทุนนั้น ๆ กัน โดยกดไปที่ชื่อกองทุนจะเปิดหน้าต่างใหม่ขึ้นมาครับ พอขออธิบายแยกเป็นส่วน ๆ

คัมภีร์มหากาพย์ กองทุนรวม คืออะไร? มือใหม่อ่านที่นี่ ครบจบที่เดียว
ข้อมูลกองทุน SCBMSE ณ วันที่ 27 พ.ย. 2563

ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

ในส่วนแรกจะเป็นกราฟแสดง NAV ย้อนหลังของกองทุน ซึ่งสามารถดูได้ว่ากองทุนนั้นมี NAV ย้อนหลังในช่วงเวลาต่างๆ เป็นอย่างไรบ้าง อย่างในรูปก็จะเห็นได้ว่ากองทุนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีกำไรอยู่ที่ 29.08% นั่นเองครับ อย่างไรก็ตามการดูผลตอบแทนด้วย NAV จะใช้ไม่ได้กับกองทุนที่มีการเงินปันผลนะครับ

สล็อต

เนื่องจากกองทุนที่มีการจ่ายปันผล จะทำการจ่ายปันผลออกมาเป็นเงินสดให้เรา โดยตัดหักออกมาจาก NAV ของกองทุนเลย ทำให้เมื่อดู NAV ของกองเหล่านี้ จะมีจังหวะสะดุดลงมา ทำให้ไม่สามารถดูผลตอบแทนจาก NAV เพียงลำพังได้ ต้องรวมเงินสดที่เราได้รับกลับเข้าไปก่อน

คัมภีร์มหากาพย์ กองทุนรวม คืออะไร? มือใหม่อ่านที่นี่ ครบจบที่เดียว
ข้อมูลกองทุน SCBMSE ณ วันที่ 27 พ.ย. 2563

ถัดมาก็จะเป็นรายละเอียดของกองทุน ไม่ว่าเป็น บลจ. ที่ออกกองทุน ประเภทกองทุน ค่าธรรมเนียมต่างๆ นโยบายการจ่ายปันผล รวมถึงขั้นต่ำการลงทุนที่นักลงทุนจำเป็นต้องลงทุนในจำนวนเท่านั้น หรือ สูงกว่า

คัมภีร์มหากาพย์ กองทุนรวม คืออะไร? มือใหม่อ่านที่นี่ ครบจบที่เดียว
3D Diagram กองทุน SCBMSE ณ วันที่ 27 พ.ย. 2563

ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

สล็อตออนไลน์

เลื่อนลงมาอีกนิดจะเจอ 3D Diagram ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น Signature ของ FINNOMENA เลย โดยเจ้า 3D Diagram นี้จะเป็นการนำข้อมูล ผลตอบแทนย้อนหลัง (Past Performance), ผลตอบแทนหลังปรับด้วยความเสี่ยง (Risk Adjusted Return), จุดขาดทุนสุงสุด (Maximum Drawdown) เข้ามาทำเป็นรูปแบบกราฟ 3 แกนให้ดูเข้าใจง่ายมากขึ้น โดยใช้ผลการดำเนินงานทั้ง 1 ปี, 3 ปี, 5 ปีเข้ามาคำนวณ

ตรงนี้จะขออธิบายแกนขวา (Risk Adjusted Return) และแกนล่าง (Maximum Drawdown)

ผลตอบแทนหลังปรับด้วยความเสี่ยง (Risk-Adjusted Return)

จะนำผลตอบแทนต่อปีของกองที่สนใจมาหารด้วยความผันผวนของผลตอบแทนกองทุนในช่วงเวลานั้น จะได้เป็นผลตอบแทนหลังปรับด้วยความเสี่ยง ถ้ากอง A และ B มีผลตอบแทนที่เท่ากัน กองใดที่มีความผันผวนน้อยกว่า ย่อมมีค่าผลตอบแทนหลังปรับด้วยความเสี่ยงที่สูงกว่า

กองทุนผันผวนหนักย่อมมีผลต่อทั้งจิตใจของนักลงทุนเอง บางคนรับขาดทุนหนัก ๆ ไม่ได้ รวมไปถึงความยืดหยุ่นในการถอนเงินไปใช้ ในกรณีที่มีเหตุสุดวิสัย กองผันผวนหนักมักมีแนวโน้มที่ปรับฐาน ณ จุดใดจุดหนึ่งลึก ๆ ก่อนจะกลับตัวขึ้นมา หากจำเป็นต้องใช้เงินระหว่างปรับฐานย่อมทำให้เกิดการเสียโอกาสขึ้นอย่างน่าเสียดาย

ความผันผวนที่ต่ำแสดงให้เห็นถึงการจัดการความเสี่ยงที่ดีของกองทุน กองทุนที่มีการจัดการความเสี่ยงดีมักจะมีผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว

jumboslot

จุดขาดทุนสูงสุด (Maximum Drawdown)

ถ้าคุณต้องการความสงบของจิตใจ สิ่งนี้เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่ดูไม่ได้

เพราะถ้าคุณขาดทุน …. 30% คุณต้องทำกำไรกลับมาถึง 43% เพื่อให้คืนทุน

ถ้าขาดทุน 50% ต้องทำกำไรกลับมา 100%

ถ้าขาดทุน 90% ต้องทำกำไรกลับมา 900%

ยิ่งขาดทุนมาก โอกาสในการทำกำไรกลับมายิ่งยาก โอกาสเปลี่ยนชีวิตให้ดีกว่ายิ่งไม่มี

กองทุนใด ๆ ก็ตาม ที่สามารถจำกัดการขาดทุนได้ดี เมื่อเกิดการขาดทุนย่อมสามารถฟื้นกลับขึ้นมาได้ง่ายกว่า ไม่เหนื่อยเหมือนกองทุนที่ขาดทุนลึกนั่นเอง

ทั้งหมดนี้ไม่ต้องไปนั่งเปิดกราฟดูเอง FINNOMENA ทำมาให้ดูง่าย ๆ ด้วย 3D Diagram เรียบร้อย โดยยิ่งสามเหลี่ยมใหญ่มากขึ้นก็แสดงว่ากองทุนนั้นมีปัจจัยด้านนั้น ๆ ที่ดีนั่นเอง!

slot

คัมภีร์มหากาพย์ กองทุนรวม คืออะไร? มือใหม่อ่านที่นี่ ครบจบที่เดียว
กราฟกองทุน SCBMSE ณ วันที่ 30 พ.ย. 2563

ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

ต่อมาขอเอาใจสาย Technical กันหน่อย เมื่อกดไปที่แท็บ “กราฟ” ก็จะขึ้นกราฟกองทุนของ TradingView มาให้ครับ ตรงนี้เราสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการแสดงกราฟได้ และใช้เครื่องมือต่าง ๆ ได้เต็มที่เลย

คัมภีร์มหากาพย์ กองทุนรวม คืออะไร? มือใหม่อ่านที่นี่ ครบจบที่เดียว
ผลการดำเนินงานกองทุน SCBMSE ณ วันที่ 27 พ.ย. 2563

ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

ส่วนต่อมาจะเป็น ตารางผลตอบแทนย้อนหลัง สามารถคลิกแถบด้านบนตรง “ผลการดำเนินงานและปันผล” ได้เลย ซึ่งตรงนี้ไม่ว่าจะเป็นกองทุนที่ปันผล หรือ ไม่ปันผลก็สามารถดูได้เหมือนกัน ทาง FINNOMENA มีการคำนวณรวมมาให้แล้ว นอกจากผลการดำเนินงานหรือ Performance ของกองทุนนั้นๆ แล้วยังมีตัวเลขค่าเฉลี่ยผลการดำเนินงานของกองทุนในกลุ่มเดียวกัน รวมไปถึงสามารถตรวจสอบตำแหน่งเมื่อเทียบเป็นร้อยละ (Percentile) ว่า ผลตอบแทนของกองทุนนี้อยู่ในกลุ่มใด ถ้า “ดีที่สุด” หมายความว่ากองทุนนั้นมีผลตอบแทนอยู่ในช่วงร้อยละ 1-5 เมื่อเทียบกับกองทุนทั้งหมด

ฝั่งขวามือจะมีข้อมูลเชิงความเสี่ยง อย่าง Standard Deviation หรือค่าความผันผวนของกองทุน ตัวเลขนี้ยิ่งน้อยยิ่งดี ความผันผวนที่ต่ำแสดงให้เห็นถึงการจัดการความเสี่ยงที่ดีของกองทุน และจากข้อมูลย้อนหลังที่ผ่านมากองทุนที่มีการจัดการความเสี่ยงดีมักจะมีผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว ส่วนอีก 2 อันอย่าง Risk-Adjusted Return กับ Max Drawdown เหมือนที่เล่าไปด้านบนครับ

กลุ่มกองทุนรวมสินค้าโภคภัณฑ์

กลุ่มนี้ลงทุนในตัวสินค้าโภคภัณฑ์เลยเช่นทองคำ น้ำมัน เงิน สินค้าเกษตร มีความผันผวนสูงมาก แต่สามารถใช้เป็นการกระจายความเสี่ยงได้เช่นกัน
Broad Composite Commodities Index
ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสินค้าโภคภัณฑ์ตามดัชนีสินค้าโภคภัณฑ์ร่วม (Broad Commodities Index) ซึ่งดัชนีนี้ที่จริงก็มีทำอยู่หลายเจ้า ยกตัวอย่างเช่นของ S&P GSCI ลองดูสัดส่วนได้ตามนี้ครับ คลิก

jumbo jili

Commodities Energy
สินค้าโภคภัณฑ์ด้านพลังงานเช่น น้ำมัน แก๊สธรรมชาติ และ ถ่านหินเป็นต้น ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อมผ่านตราสารหรือสัญญาที่ให้ผลตอบแทนอ้างอิงกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ดังกล่าว

Commodities Precious Metal
เน้นโลหะมีค่า เช่น ทองคำ เงิน แพลตินัม เป็นต้น

Commodities Agriculture
เน้นสินค้าโภคภัณฑ์ด้านเกษตรกรรม

นอกเหนือไปจากนี้ยังมีกลุ่มกองทุนรวมที่ไม่สามารถจัดกลุ่มได้เรียกว่า Miscellaneous อีกบางส่วน

ก่อนจะไปกันต่อ ถึงตอนนี้ถ้าใครมีกองทุนในใจที่เพื่อนแนะนำมา อาจจะลองเช็คประเภทของกองตัวเองง่าย ๆ ครับ โดยเข้าไปที่ finnomena.com/fund แล้วพิมพ์ชื่อกองทุนลงไปในช่องค้นหา เลื่อนลงมาตามในรูปก็จะเห็นหมวดหมู่แจ้งไว้ครับ

สล็อต

คัมภีร์มหากาพย์ กองทุนรวม คืออะไร? มือใหม่อ่านที่นี่ ครบจบที่เดียว
TMB50 – กองทุนเปิดทหารไทย SET 50
ข้อมูลวันที่ 24 พ.ย. 2563

มาเช็คกองทุนในหมวดหมู่ที่น่าสนใจกัน
หลังจากที่เราเลือกกลุ่มสินทรัพย์ที่ชื่นชอบแล้ว หรือใครมีกองในใจ ถ้ารู้ว่ากองนั้นหมวดหมู่อะไรก็มาร่วมกันเช็คตรงนี้กันครับ โดยอาจจะเข้าไปค้นหาตามเว็บ บลจ. ต่าง ๆ ถึงกองทุนที่บลจ. นั้นมีในแต่ละหมวดหมู่ก็ได้ หรือถ้าอยากดูทีเดียวทุก บลจ. บังเอิ๊ญญญ FINNOMENA เขามีตัวช่วยหากองทุนก็ใช้เขาหน่อย สามารถเข้าไปที่ finnomena.com/fund หรือว่าโหลด App FINNOMENA ก็ได้ครับ

เข้ามาจะเจอเมนูให้เลือก ครั้งแรกเราอาจไปกดดูที่ “กองเด็ด” ก่อนก็ได้ครับ

คัมภีร์มหากาพย์ กองทุนรวม คืออะไร? มือใหม่อ่านที่นี่ ครบจบที่เดียว
ตรงนี้จะเป็นกองทุนที่ FINNOMENA วิเคราะห์มาแล้วว่าดีทั้งในเชิงสถิติและการวิเคราะห์เชิงคุณภาพ และที่สำคัญสังเกตดีๆ มีการแบ่งหมวดหมู่ตาม AIMC ที่คุยกันไปข้างต้นเลย นักลงทุนมือใหม่ถ้าไม่อยากเสียเวลาตรวจสอบกองทุนด้วยตัวเองก็เริ่มที่ตรงนี้ก็ได้ครับ เป็น Guideline ให้คร่าวๆก่อน แต่ถ้าอยากลองวิเคราะห์เองเราลองกลับมาในเมนู “จัดอันดับกองทุน” ก่อนก็ได้ครับ

สล็อตออนไลน์

คัมภีร์มหากาพย์ กองทุนรวม คืออะไร? มือใหม่อ่านที่นี่ ครบจบที่เดียว
เข้าไปจะเป็นการจัดอันดับกองทุนตามผลตอบแทนย้อนหลัง ก่อนอื่นเลยให้เราเลือกกลุ่มประเภทกองทุนที่เราสนใจก่อน อยากดูกองทุนกลุ่มไหน ของ บลจ. ไหน เป็นกองทุนประหยัดภาษีไหม จ่ายปันผลหรือเปล่า ลองเลือกได้เลยครับ

นอกจากนี้ถ้าใครอยากกรองแบบละเอียด ๆ ถึงขั้นกำหนดผลตอบแทนที่ต้องการ หรือ ระดับความเสี่ยงที่รับได้ ก็ลองใส่ตัวเลขเข้าไปตรง “เพิ่มตัวกรอง” ได้ครับ เช่น ต้องการกองทุนผลตอบแทนระหว่าง 10% ภายใน 1 ปี แต่ Max Drawdown ไม่น้อยกว่า -10% อะไรทำนองนี้ แล้วระบบก็จะประมวลผลออกมาให้เลย

จากนั้นก็จะเป็นระยะเวลาที่เราสนใจดูข้อมูลย้อนหลัง โดยเบื้องต้นแนะนำให้เลือกระยะเวลายาว ๆ หน่อย สัก 5 ปีที่ผ่านมา

คัมภีร์มหากาพย์ กองทุนรวม คืออะไร? มือใหม่อ่านที่นี่ ครบจบที่เดียว
ตัวอย่างการเพิ่มตัวกรอง

คัมภีร์มหากาพย์ กองทุนรวม คืออะไร? มือใหม่อ่านที่นี่ ครบจบที่เดียว
ในตัวอย่างผมจะลองเลือกกลุ่ม Equity -> Equity Small – Mid Cap ขึ้นมาก่อนนะครับ ก็จะได้กองทุนเรียงขึ้นมาให้ดู

jumboslot

คัมภีร์มหากาพย์ กองทุนรวม คืออะไร? มือใหม่อ่านที่นี่ ครบจบที่เดียว
ผลการดำเนินงาน จัดอันดับ ณ วันที่ 30 พ.ย. 2563

ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย: ผลตอบแทนในรูปตัวอย่าง 5.24% นั้นไม่ใช่ว่าถือ 5 ปีแล้วได้ 5.24% นะครับ แต่อันนี้เป็นผลตอบแทนที่คิดเป็นรายปีแบบทบต้น หมายความว่า ที่จริงคนที่ถือมา 5 ปีไม่นำเงินออก ได้ผลตอบแทนถึง 29% เลยนะครับ

slot

นอกจากนี้แล้ว ยังมีของเล่นเด็ดอีกชิ้นที่อยากแนะนำ เห็นช่องสี่เหลี่ยมจตุรัสเล็กๆ ด้านหน้าชื่อกองทุนไหมครับ? สิ่งนี้เรียกได้ว่าเป็น Killer Function ของที่นี่เลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อเราติ๊กถูกหน้าชื่อกองทุนหลาย ๆ กอง มันจะมีปุ่มขึ้นด้านล่างให้เรากดเปรียบเทียบข้อมูลของกองทุนที่เราเลือกไว้ได้ครับ ซึ่งเราสามารถเปรียบเทียบกองทุนได้สูงสุดถึง 10 กองเลยทีเดียว!

คัมภีร์มหากาพย์ กองทุนรวม คืออะไร? มือใหม่อ่านที่นี่ ครบจบที่เดียว
ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชั่นเปรียบเทียบกองทุน
ข้อมูลการจัดอันดับกองทุน ณ วันที่ 30 พ.ย. 2563

ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

พอคลิก “เปรียบเทียบกองทุน” แล้ว ก็จะขึ้นหน้าตาแบบนี้ เปรียบเทียบข้อมูลครบทุกด้านเลยครับ

กลุ่มตราสารทุนประเภทกองทุนรวมดัชนี

กลุ่มตราสารหนี้ (Fixed Income)
ถ้ามือใหม่มองเป็นเหมือนการเป็นเจ้าหนี้ก็ได้ครับ จะเอาเงินไปลงตราสารที่คนกู้ต้องจ่ายเงินกลับมาตามที่ตกลงไว้ โดยสถิติจะเป็นตราสารที่มีความเสี่ยงโดยรวมน้อยกว่าตราสารทุน มีทั้งแบบภาครัฐและเอกชน
กองทุนรวมตราสารหนี้ในประเทศ/ต่างประเทศบางส่วน – Short Term Government Bond

jumbo jili

ลงทุนในเงินฝากตราสารหนี้ของภาครัฐ และเฉลี่ยมีอายุแบบถ่วงน้ำหนัก ณ ขณะใดขณะหนึ่งไม่เกิน 1 ปี คือเป็นตราสารหนี้ภาครัฐเช่นพันธบัตรซึ่งปลอดภัยอยู่แล้ว แล้วยังอายุสั้นไม่เกิน 1 ปีอีก เน้นปลอดภัยไว้ก่อนแต่ผลตอบแทนอาจจะไม่ได้หวือหวานะครับ

กองทุนรวมตราสารหนี้ในประเทศ/ต่างประเทศบางส่วน – Mid Term Government Bond
ลงทุนในเงินฝากตราสารหนี้ของภาครัฐ และเฉลี่ยมีอายุแบบถ่วงน้ำหนัก ณ ขณะใดขณะหนึ่ง 1-3 ปี อายุยาวขึ้นนิดนึง ผลตอบแทนก็จะสูงกว่าตัวแรกนิดหน่อย แต่เนื่องจากอายุยาวกว่าก็อาจเจอความผันผวนของราคามากกว่าตัวแรก

กองทุนรวมตราสารหนี้ในประเทศ/ต่างประเทศบางส่วน – Short Term General Bond
ลงทุนในเงินฝากตราสารหนี้ทั่วไป และเฉลี่ยมีอายุแบบถ่วงน้ำหนัก ณ ขณะใดขณะหนึ่งไม่เกิน 1 ปี คือเป็นตราสารหนี้ภาคเอกชนอาจมีความเสี่ยงสูงขึ้นมาจากของภาครัฐ แต่ยังอายุสั้นอยู่

กองทุนรวมตราสารหนี้ในประเทศ/ต่างประเทศบางส่วน – Mid Term General Bond
ลงทุนในเงินฝากตราสารหนี้ทั่วไป และเฉลี่ยมีอายุแบบถ่วงน้ำหนัก ณ ขณะใดขณะหนึ่ง 1-3 ปี คือเป็นตราสารหนี้ที่เริ่มมีกำหนดจ่ายเงินไกลขึ้น ซึ่งปกติจะมีการให้ผลตอบแทนที่มากกว่าตราสารอายุสั้นกว่า เพื่อชดเชยความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น อาจไม่มีเงินจ่าย เรียกเท่ ๆ ว่า Default

สล็อต

กองทุนรวมตราสารหนี้ในประเทศ/ต่างประเทศบางส่วน – Long Term General Bond
ลงทุนในเงินฝากตราสารหนี้ทั่วไป และเฉลี่ยมีอายุแบบถ่วงน้ำหนัก ณ ขณะใดขณะหนึ่งมากกว่า 3 ปี ตัวนี้จะมีผลตอบแทนสูงกว่าตัวที่ผ่าน ๆ มา แต่ความผันผวนจากอัตราดอกเบี้ยก็จะมากที่สุดด้วยเช่นกัน

กองทุนรวมตราสารหนี้ในประเทศ/ต่างประเทศบางส่วน – Money Market Government
ลงทุนในตลาดเงินหรือเงินฝาก ตราสารหนี้ภาครัฐของรัฐบาล พวกนี้เป็นตราสารที่ครบกำหนดระยะเวลาสั้นมาก ๆ ส่วนมากไว้จัดการเรื่องสภาพคล่องและแถมผลตอบแทนไปเล็ก ๆ น้อย ๆ บางทีเราใช้พักเงินได้ครับ

กองทุนรวมตราสารหนี้ในประเทศ/ต่างประเทศบางส่วน – Money Market General
ลงทุนในตลาดเงินหรือเงินฝาก ตราสารหนี้ระยะสั้นทั่วไป ใช้พักเงินได้เช่นกัน บางทีผลตอบแทนพอ ๆ กับฝากประจำ แต่ฝาก ถอนได้ทุกวัน กดปุ้ป วันรุ่งขึ้นได้ตังค์เลย

กองทุนรวมตราสารหนี้ต่างประเทศ – Emerging Market Bond Fully F/X Hedge
ลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา Emerging Market และป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินมากกว่า 90% ของมูลค่าเงินลงทุนในประเทศ คือเอาเงินเราไปลงต่างประเทศให้ แล้วดูแลเรื่องค่าเงินให้เราด้วย ไม่ต้องห่วงบาทแข็งหรืออ่อน

กองทุนรวมตราสารหนี้ต่างประเทศ – Emerging Market Bond Discretionary F/X Hedge or Unhedge
เหมือนตัวข้างบน แต่อาจจะป้องกันความเสี่ยงค่าเงินเพียงบางส่วน หรือตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน หรือ ไม่ป้องกันเลย

สล็อตออนไลน์

กองทุนรวมตราสารหนี้ต่างประเทศ -Global Bond Fully F/X Hedge
ลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วและป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินมากกว่า 90% ของมูลค่าเงินลงทุนในประเทศ

กองทุนรวมตราสารหนี้ต่างประเทศ – Global Bond Discretionary F/X Hedge or Unhedge
เหมือนตัวข้างบน แต่อาจจะป้องกันความเสี่ยงค่าเงินเพียงบางส่วน หรือตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน หรือ ไม่ป้องกันเลย เช่นกันครับ

กองทุนรวมตราสารหนี้ต่างประเทศ – High Yield Bond
เน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่เป็น Non-investment grade / Unrated คือกลุ่มบริษัทที่มีความเสี่ยงสูง ๆ เสี่ยงที่จะไม่ได้ตังค์คืน แต่พวกนี้ให้ผลตอบแทนสูงเช่นกัน

กลุ่มกองทุนรวมผสม (Allocation)
กลุ่มนี้สำหรับคนไม่อยากจัดพอร์ตเอง อยากให้เขาจัดพอร์ทมาให้เลย ซื้อพวกนี้ไปตัวเดียว เดี๋ยวเขาช่วยจัดให้ครับลงตราสารทุนเท่าไร ตราสารหนี้เท่าไร
กองทุนรวมผสมในประเทศ/ต่างประเทศบางส่วน – Aggressive Allocation
ลงทุนในหลักทรัพย์และทรัพย์สินตลอดจนการหาดอกผลโดยวิธีอื่น โดยมีไว้ตราสารทุนได้ 0-100% สายบู๊เลือกกลุ่มนี้ได้ครับ

jumboslot

กองทุนรวมผสมในประเทศ/ต่างประเทศบางส่วน – Moderate Allocation
ลงทุนในหลักทรัพย์และทรัพย์สินตลอดจนการหาดอกผลโดยวิธีอื่น โดยมีไว้ตราสารทุนได้ 25% – 80% อันนี้เป็นสายกลาง ๆ

กองทุนรวมผสมในประเทศ/ต่างประเทศบางส่วน – Conservative Allocation
ลงทุนในหลักทรัพย์และทรัพย์สินตลอดจนการหาดอกผลโดยวิธีอื่น โดยมีไว้ตราสารทุนได้ไม่เกิน 25%

กองทุนรวมผสมต่างประเทศ – Foreign Investment Allocation
คล้าย ๆ ตัวแรก Aggressive Allocation แต่ลงในต่างประเทศได้ มีสัดส่วนตราสารทุนต่างประเทศ 0-100%

กลุ่มกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ / Infra / REIT
กลุ่มนี้สำหรับคนที่อยากลงทุนในหมวดหมู่อสังหาริมทรัพย์แบบต่าง ๆ อาทิเช่น โรงงานอุตสาหกรรม ห้างสรรพสินค้า สนามบิน รวมไปถึงลงทุนในโปรเจคโครงสร้างพื้นฐาน เหมาะแก่การกระจายความเสี่ยงจากสินทรัพย์หลักเช่น หุ้น หรือ ตราสารหนี้ด้วยครับ
Thai Free Hold
ลงทุนในกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ของไทย

slot

Thai Lease Hold
ลงทุนในสิทธิการเช่าในอสังหาริมทรัพย์หรือสิทธิในการใช้ประโยชน์ของทรัพย์สิน

Thai Mixed (between free and leased hold)
เป็นกองที่ลงผสมจากสองแบบข้างต้น

Fund of Property fund – Thai
ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ REIT กองทุน Infrastructure (โครงสร้างพื้นฐาน) ที่เน้นลงทุนในประเทศโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี >= 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม

Fund of Property fund – Thai and foreign
เหมือนตัวข้างบน แต่ลงทุนในต่างประเทศบางส่วนสัดส่วน 20% – 80%

Fund of Property fund – Foreign
เหมือนตัวข้างบนอีกเช่นกัน แต่ลงต่างประเทศ 80% ขึ้นไป

เทคนิคซื้อหุ้นพร้อมกองทุนรวม ช่วงยุคกระทิง

แม้ดัชนีหุ้นไทยจะทำ New high แตะระดับ 1,800 จุดไปแล้วก็ตาม แต่การขึ้นของดัชนีรอบนี้สัมพันธ์เฉพาะกับกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจริงๆ ได้แก่ พาณิชย์ อสังหาริมทรัพย์ การท่องเที่ยว ขนส่ง ยานยนต์ และพลังงาน

jumbo jili

แต่ด้วย Valuation ที่ค่อนข้างสูงจากในอดีต (P/E Ratio ปี 2552 – 2553 อยู่ที่เฉลี่ย 11 – 13 เท่า แต่ P/E Ratio ปี 2560 ประมาณ 16 เท่า และปี 2561 ประมาณ 15 เท่า และ Earnings ของหุ้นไทยที่ไม่ได้เติบโตสูงมากเท่าอดีต (EPS ปี 2552 – 2553 โตปีละ 30 – 40% แต่ EPS ปี 2560 – 2561 คาดว่าจะเติบโตระดับ 7 – 10%)

ดังนั้น การปรับขึ้นของดัชนีหุ้นไทยอาจมีแรงเทขายหาก Earnings ที่ประกาศออกมาไม่ดีจริงตามที่นักลงทุนคาดหวัง อย่างไรก็ตาม อาจเป็นโอกาสที่ดีในการซื้อลงทุนสำหรับหุ้นที่มี Growth story ที่ดีในระยะยาว ถ้าราคาปรับลงมาในช่วงสั้นๆ นี้

แม้ตลาดหุ้นไทยจะเป็นขาขึ้นแต่หุ้นไม่ได้ขึ้นทุกตัว ดังนั้น นักลงทุนควร Balance เงินลงทุนในหุ้นกับเงินส่วนที่เก็บไว้เพื่อจุดประสงค์อื่นให้ดี เพราะการลงทุนในหุ้นย่อมมีความเสี่ยงสูงมากอยู่แล้ว การลงทุนในกองทุนหุ้นก็ไม่ใช่ว่าไม่มีความเสี่ยง เนื่องจากหากผู้จัดการกองทุนมองการลงทุนผิดพลาด กองทุนหุ้นก็ขาดทุนได้เช่นกัน หรือผลตอบแทนน้อยกว่าหุ้นไทยได้

สล็อต

อย่างไรก็ตาม มองในแง่ดีได้ว่า กองทุนหุ้นอาจมีความเสี่ยงหรือความผันผวนที่น้อยกว่าการลงทุนในหุ้นโดยตรง เพราะอย่างน้อยก็เป็นการกระจายความเสี่ยงที่มากกว่า และเป็นการบริหารจัดการโดยผู้จัดการกองทุนที่เป็นมืออาชีพจริงๆ

ดังนั้น แนะนำว่าหากจะลงทุนในหุ้นโดยตรงควรเลือกหุ้นที่มี Fundamental ที่ดี มี Growth story ยาวๆ ภายใต้ Valuation ที่เหมาะสม ส่วนการลงทุนในกองทุนก็เลือกจากนโยบายการลงทุนของกองทุนนั้นๆ ว่าตรงตามความต้องการของนักลงทุนหรือไม่

ขออ้างอิงข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คือแบ่งประเภทการลงทุนตามความเสี่ยงที่นักลงทุนรับได้ก่อน

สล็อตออนไลน์

สำหรับสัดส่วนการลงทุนในหุ้น จึงค่อยแบ่งออกมาเป็นการลงทุนในกองทุนหุ้นอีกทีหนึ่ง เช่น ตั้งในลงทุนในหุ้น 30% ดังนั้น ใน 30% อาจแบ่งเป็นลงทุนหุ้นโดยตรง 20% และลงทุนผ่านกองทุนหุ้นอีก 10%

สำหรับข้อดีของการลงทุนกองทุนรวม มีดังนี้

  • บริหารจัดการโดยมืออาชีพ ทั้งผู้จัดการกองทุนและทีมนักวิเคราะห์ ซึ่งสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ทำให้นักลงทุนไม่ต้องติดตามเองมาก
  • การจายความเสี่ยงได้ดีกว่าการลงทุนเอง เนื่องจากกองทุนจะกระจายการลงทุนไปในหลักทรัพย์หลายตัว ทำให้ความเสี่ยงน้อยกว่า

jumboslot

  • ใช้เงินลงทุนน้อยกว่าการลงทุนในหุ้นเองโดยตรง
  • นอกจากกำไรจากมูลค่าเงินลงทุนที่สูงขึ้น บางกองทุนมีนโยบายปันผล และใช้ประหยัดภาษีได้อีกด้วย
  • เปิดโอกาสลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย เช่น กองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ เช่น ASEAN, India หรือ กองทุนทองคำ น้ำมัน เป็นต้น

slot

  • กองทุนมีสภาพคล่องในการซื้อขายดีกว่าหุ้นรายตัวเล็กๆ

อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจลงทุน นักลงทุนประเมินตัวเองก่อนว่าต้องการผลตอบแทนเท่าไหร่ รับความเสี่ยงได้มากน้อยเพียงใด ต้องการลงทุนนานแค่ไหนและมีเงินลงทุนเท่าใด ศึกษารูปแบบกลไกการลงทุนผ่านกองทุนรวมว่าเป็นอย่างไร เพื่อที่จะได้เข้าใจและเลือกลงทุนได้ตามความต้องการ รวมถึงศึกษาและเลือกนโยบายการลงทุนของกองทุนที่คิดว่าเหมาะสมกับตัวเอง

ซื้อกองทุนอย่างไรไม่ให้อกหัก

หลายคนอาจคำถามว่าหากจะเริ่มต้นลงทุนกองทุนรวมวันนี้ “สายเกินไปหรือยัง” คำตอบคือ ไม่สาย เพียงแต่ต้องศึกษาหาข้อมูล วิเคราะห์ สำรวจตัวเองให้ดีๆ เพราะการเลือกกอนทุนรวม หรือเลือก บลจ. ก่อนตัดสินใจลงทุน ไม่แตกต่างไปจากการลงทุนหุ้น

jumbo jili

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาก็มีนักลงทุนที่ลงทุนกองทุนรวมแล้วไม่ประสบความสำเร็จ ทั้งๆ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนคอยดูแลเม็ดเงิน แต่ผลลัพธ์ออกมาไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวัง คำถามคือ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น

ประเด็นนี้ คุณกิตติคุณ ธนรัตนพัฒนกิจ นักวิเคราะห์ข้อมูลอาวุโส บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยสาเหตุที่ทำให้การลงทุนกองทุนรวมเกิดความผิดพลาดได้อย่างไม่น่าเชื่อ

  1. ตามเทรนด์

“วันนี้ซื้อตัวไหนดี” “บ่ายนี้ขายตัวไหนดี” เป็นคำถามสุดคลาสสิกที่พบเจอได้ทุกวันในห้องค้าหุ้น กองทุนรวมก็เช่นเดียวกัน นั่นคือ ลงทุนตามกระแส หมายถึง กองทุนอะไรก็ตามที่ฮอตฮิตในขณะนั้น นักลงทุนมักจะตัดสินใจซื้ออย่างไม่ลังเล

“พูดง่ายๆ กลัวตกรถไฟ จึงใช้เวลาตัดสินใจลงทุนเพียงเสี้ยววินาที จากการโปรโมทโฆษณาของกองทุน หรือจากการดูผลตอบแทนย้อนหลัง” คุณกิตติคุณ ตั้งข้อสังเกต

สังเกตได้ว่าบางครั้งการออกกองทุนรวมอาจจะมาจากกระแส เช่น ในอดีตมีช่วงหนึ่งที่ บลจ.เกือบทุกค่าย ออกกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ จนมีชื่อเรียกกันเล่นๆ ว่ากิมจิบอนด์

ทุกวันจะมีการโปรโมทความน่าสนใจ ทำให้นักลงทุนต่างมองโลกในแง่ดีจึงไม่สนใจอ่านข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนที่ตัวเองกำลังจะลงทุน

“เพราะส่วนใหญ่ (เกือบทุกคน) จะตัดสินใจด้วยอาศัยการฟังการโปรโมท”

สล็อต

การตัดสินใจด้วยวิธีการนี้ ข้อเสียคือ ไม่รู้รายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนที่กำลังจะลงทุน “อย่าลืมว่าเวลาพ่อค้าแม่ค้าขายสินค้าจะบอกแต่ข้อดี เช่นเดียวกันเวลาจะขายกองทุนกองใหม่ ผลการดำเนินงานที่นำเสนอเป็นผลตอบแทนย้อนหลังทั้งสิ้น และแน่นอนต้องเป็นผลตอบแทนที่น่าสนใจ ที่สำคัญ สังเกตได้ว่าเวลานำเสนอมักเป็นช่วงกำลังถึงจุด Peak ของธีมการลงทุน คล้ายๆ กับลงทุนหุ้น หลายๆ ครั้งนักลงทุนมักรับรู้ข้อมูลและตัดสินใจลงทุนตอนที่นักลงทุนอื่นๆ เข้าลงทุนนานแล้ว ผลลัพธ์คือซื้อได้ราคาสูง เหตุการณ์แบบนี้อาจจะเรียกว่า กับดักของผลตอบแทน หรือการวิ่งไล่ตามผลตอบแทน ที่เรียกว่า Chasing Performance” คุณกิตติคุณ อธิบาย

“เวลาลงทุน คุณควรลงทุนในเวลาที่คนไม่ต้องการ” คำพูดของวอร์เรน บัฟเฟตต์ สามารถนำมาใช้ได้กับการลงทุนในกองทุนรวม นั่นคือ ไม่ควรลงทุนในช่วงที่ทุกคนกระโจนเข้ามา เพราะในช่วงที่ทุกคนมองโลกในแง่ดี จะทำให้ลืมมองความเสี่ยงทั้งหมด

“สมมติว่าทุก บลจ. ออกกองทุนที่มีนโยบายลงทุนหุ้นสหรัฐอเมริกา คุณอาจจะไม่ดูข้อมูลเลยว่าพวกเขาไปลงทุนหุ้นตัวไหน ประเภทไหน มีการป้องกันความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนหรือไม่ แต่ที่ซื้อเพราะเพื่อนๆ ซื้อกันหมด ไม่อยากตกรถไฟ” คุณกิตติคุณ ยกตัวอย่าง

การลงทุนแบบนี้ สิ่งที่ตามมาหนีไม่พ้นการมองโลกในแง่ดีว่าจะได้ผลตอบแทนสวยหรูตามที่ถูกโปรโมทเอาไว้ แน่นอนถ้ากองทุนสร้างผลตอบแทนได้ตามที่คาดหวังก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเป็นไปในทางตรงข้ามคงดูไม่จืดและได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดี

“การลงทุนตามกระแสนับเป็นข้อผิดพลาดที่เจอกับนักลงทุนไทยมากเป็นอันดับต้นๆ ของการลงทุนในกองทุนรวม” คุณกิตติคุณ บอก

วิธีแก้ไข

ถ้ารู้ตัวว่ามีความผิดพลาดเพราะ “ตามกระแส” โดยไม่ได้ศึกษารายละเอียดมาก่อน ต้องหาข้อมูลทันที หรือโทรถามเจ้าหน้าที่ บลจ. นั้นๆ เกี่ยวกับกองทุนดังกล่าว จากนั้นถามตัวเองว่าเหมาะกับกองทุนนี้หรือไม่ ถ้ารู้สึกว่ายังใช่อยู่ก็ให้เวลากับกองทุนนี้ด้วยการลงทุนต่อ แต่ถ้าไม่ใช่ต้องขายแล้วไปหากองทุนที่เหมาะกับตัวเอง

สล็อตออนไลน์

  1. ด่วนเกินไป

ไม่ผิดที่ บลจ. จะนำเสนอกองทุนที่กำลังอยู่ในกระแส ที่สำคัญพวกเขาไม่ได้แนะนำให้เน้นลงทุนสั้นๆ เพราะเป็นที่เข้าใจกันดีว่าการลงทุนกองทุนรวมให้ประสบความสำเร็จต้อง “ระยะยาว”

“ไม่มี บลจ.ไหน บอกว่าซื้อกองนี้แล้ว อีก 3 เดือนให้ขายทำกำไร” คุณกิตติคุณ บอก

คุณกิตติคุณ อธิบายต่อไปว่ากองทุนรวมถูกออกแบบมาเพื่อการลงทุนระยะยาว ดังนั้น นักลงทุนจะได้คำแนะนำจาก บลจ. เสมอว่า กองทุนรวมมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีใน 3 ปี 5 ปีข้างหน้า ยกตัวอย่าง เมื่อ 3 ปีที่แล้ว กองทุนที่มีนโยบายไปลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาได้รับความนิยมสูง ผ่านไป 1 ปี นักลงทุนเริ่มตั้งคำถามว่าผลตอบแทนแทบไม่ไปไหนเลย ไม่สวยงามเหมือนที่ บลจ. นำเสนอเลย ผ่านไปปีครึ่งก็ยังไม่ใช่ ใครที่รอไม่ไหวก็ตัดสินใจขาย แต่คนที่รอมาจนถึงวันนี้พบว่าผลตอบแทนที่ได้รับน่าประทับใจ

“ถึงแม้ว่าไม่มีใครการันตีได้ว่า ในอีก 3 ปี 5 ปีผลตอบแทนจะเป็นอย่างไร แต่การลงทุนกองทุนรวมระยะยาวมักจะประสบความสำเร็จมากกว่าล้มเหลว ดังนั้น การลงทุนกองทุนรวมอย่างน้อย 3 ปี 5 ปีถือเป็นเรื่องปกติ” คุณกิตติคุณ เล่า

วิธีแก้ไข

อันดับแรกนักลงทุนต้องปรับทัศนคติเกี่ยวกับการลงทุนกองทุนรวมว่า “อย่างน้อยๆ ต้อง 1 ปีขึ้นไป” และเมื่อลงทุนกับกองทุนแล้วอย่าดูข้อมูลบ่อย เพราะการลงทุนในกองทุนรวมไม่ใช่การเก็งกำไรที่ต้องดูความเคลื่อนไหวทุกวัน วิธีการ คือ ตรวจสอบกองทุน 6 เดือนต่อครั้ง หรือ 1 ปีต่อครั้ง และควรให้เวลากับผู้จัดการกองทุนในการลงทุน

“แต่เมื่อผ่านไป 1 ปี ผลตอบแทนกองทุนที่ลงทุนออกมาไม่ค่อยสวยงาม ต้องเข้าไปดูข้อมูลว่าเกิดอะไรขึ้น โทรไปถามเจ้าหน้า ถ้ายังมั่นใจว่าใช่ก็ถือต่อ แต่ถ้าไม่ใช่ต้องขายเพื่อเป็นเปลี่ยนกองที่ใช่” คุณกิตติคุณ แนะนำ

jumboslot

  1. เคมีตรงกัน

ทุกวันนี้การทำความรู้จักสไตล์การลงทุนของแต่ละ บลจ. ยังไม่ค่อยมีใครพูดถึงมากนัก ส่วนใหญ่อาศัยคนรอบข้างมาบอกว่าแต่ละ บลจ. เป็นอย่างไร ซึ่งความจริงแล้วก่อนตัดสินใจลงทุนกับ บลจ.ไหน ควรรู้จักปรัชญาการลงทุนของพวกเขาให้ลึกซึ้ง ว่ามีสไตล์การลงทุนเป็นแบบไหน เทคนิคการเลือกผลิตภัณฑ์ทางการเงินแต่ละประเภทเป็นอย่างไร

“ถ้ารู้เรื่องเหล่านี้ จะทำให้ลงทุนกับ บลจ.นั้นๆ ได้อย่างสบายใจ” คุณกิตติคุณ บอก

หากนักลงทุนรู้ว่ากำลังลงทุนกับอะไร (กับใคร) ผลที่ตามมาจะทำให้เกิดความคาดหวังในระดับเหมาะสม “รู้ว่า บลจ. จะทำอะไรและไม่ทำอะไร นักลงทุนรับรู้ความเสี่ยงที่พวกเขาทำและไม่ทำ ทำให้สามารถประเมินความเสี่ยงทั้งตัวเราและ บลจ. ได้แม่นยำ อารมณ์เหมือนเคมีต้องตรงกัน” คุณกิตติคุณ อธิบาย

ยกตัวอย่าง หากนักลงทุนรับความเสี่ยงได้สูงก็ต้องหา บลจ. ที่มีสไตล์การลงทุนเชิงรุก (Aggressive) แต่ถ้าเลือกลงทุน บลจ. ที่มีสไตล์เชิงรับ (Conservative) จะรู้สึกว่าอะไรๆ ก็ช้ามากและมีคำถามตามมาเป็นชุดๆ เช่น บลจ.อื่นสร้างผลตอบแทน 5% ทั้งๆ ที่มีนโยบายการลงทุนไม่ต่างกัน แต่ทำไม บลจ. นี้กลับทำผลตอบแทนได้เพียง 1% หรืออย่างมากก็ทำได้เท่ากับตลาด

หรือถ้านักลงทุนมีสไตล์การลงทุนแบบปัจจัยพื้นฐาน เน้นลงทุนหุ้นบลูชิพ หุ้นคุณค่า วิเคราะห์แบบ Bottom Up ไม่มีการเทรดดิ้ง ไม่มีวิเคราะห์เชิงเทคนิคอะไรมากนัก ให้มองหา บลจ.ที่มีปรัชญาการลงทุนสไตล์นี้ แต่ถ้ารักการลงทุนตราสารหนี้ก็ต้องดูว่า บลจ.ไหนที่เก่งการลงทุนตราสารหนี้

slot

“อย่าทนอยู่กับ บลจ. ที่ไม่ใช่ตัวเรา เพราะหากวันใดวันหนึ่งเกิดมีเรื่องเซอร์ไพรส์ คุณอาจจะรับไม่ได้ ที่สำคัญคุณจะเป็นฝ่ายเสียหาย” คุณกิตติคุณ แนะนำ

วิธีแก้ไข

ถ้านักลงทุนดูแล้วว่า บลจ. ที่กำลังลงทุน “เคมีไม่ตรงกัน” ต้องขายกองทุนแล้วไปหา บลจ. ใหม่ที่มีสไตล์และปรัชญาการลงทุนที่เหมาะกับตัวเอง เพื่อทำให้เกิดความสบายใจในการลงทุน วิธีการง่ายๆ ที่ทำให้รู้ว่า บลจ. นั้นเป็นอย่างไร ให้โทรไปถามว่า “บลจ. คุณมีสไตล์ ปรัชญาการลงทุนแบบไหน” หรือเข้าฟังสัมมนาบ่อยๆ จะทำให้รู้ว่าตัวตนของพวกเขาเป็นอย่างไร

การเปลี่ยนจากอาการ “อกหัก” จากการลงทุนกองทุนรวมเป็น “ความสำเร็จ” และอยู่ด้วยกันไปนานๆ ไม่ใช่เรื่องยาก ขอเพียงแต่ถ้ารู้ตัวว่าเริ่มไม่ใช่ควรลงมือปรับเปลี่ยนแก้ไขทันที