
รามเกียรติ์ 259
ทั้งสองกษัตริย์นำพลของตนเคลื่อนตัดป่าสู่สนามรบ ระหว่างทางพญาเก้งเผือกรู้ด้วยญาณว่าบัดนี้พญามารจะมีภัยถึงชีวิตจึงหมายจะเตือนสัทธาสูรโดยตัดสินใจวิ่งตัดหน้าทัพแห่งอัศดงศ์ สัทธาสูรเห็นถึงรางร้ายจึงให้หยุดทัพที่ชายป่านั่นเอง หนุมานน้อยเห็นทัพยักษ์ชลออยู่ที่ชายป่า จึงทำเป็นห้อยโหนต้นไม้ดั่งลิงทั่วไปจนมาถึงรถฃัยของสัทธาสูร แล้วลิงน้อยก็ร้องถามพญายักษ์ “นี่ท่านผู้พญามาร ท่านกำลังจะเดินทางไปที่ใด.
สัทธาสูรมิรู้ว่าเป็นหนุมานแปลงมาจึงร้องบอก “นี่เจ้าลิงป่า ข้ากำลังจะเดินทัพไปล้างกองทัพวานรที่นำโดยสองมนุษย์ มันทั้งสองบังอาจมารุกรานเมืองของสหายเรา มึงก็เป็นลิงจะมาถามทำไม” หนุมานตอบกลับอย่างว่องไว “อ๋อท่านจะไปฆ่าพี่น้องรามลักษณ์ แต่บรรดาญาติเพื่อนฝูงของทศกัณฐ์ก็ไม่รอดคมศรของสองพี่น้องมนุษย์คู่นี้ ท่านมีดีอะไรจึงจะไปสู้กับสองกษัตริย์มนุษย์กองทัพวานรที่แก่กล้าได้” ท้าวสัทธาสูรโกรธจัดที่ลิงป่ามาลบหลู่ “เหวยๆไอ้ลิงเผือก กูมีพระเวทแห่งองค์พรหมที่สามารถเรียกให้เทวดาโยนอาวุธหลากชนิดลงมาจากสวรรค์ได้ อย่ามามองว่ากูเหมือนยักษ์ทั่วไป” หนุมานทำสีหน้าไม่เชื่อ “หากท่านทำได้ข้าก็ขอชื่นชม แต่จะมีเหรอคาถาที่สามารถเรียกอาวุธจากเทพบุตรได้ หากท่านจะทำให้ข้าเชื่อก็ลองแสดงดู” สัทธาสูรหน้าแดงจากความโกรธ สะกดอารมณ์ให้นิ่งแล้วท่องคาถาเรียกให้เทวดาโยนอาวุธลงมาให้แก่ตน” เมื่อสิ้นคำบริกรรมของพญามาร เทวดาทุกชั้นฟ้าพากันวิ่งอลหม่าน
เที่ยวหาอาวุธโดยไม่สามารถควบคุมตนเองได้ แล้วต่างโยนอาวุธลงสู่พื้นโลกเพราะกลัวฤทธิ์ของสัทธาสูร อาวุธหลากหลายชนิดกำลังจะตกสู่พื้นโลก แต่กองกำลังที่หนุมานจัดไว้บนกรีบเมฆ ต่างยืนคอยที่จะเก็บอาวุธต่างๆก่อนที่จะถึงมือไพร่พลแห่งอัศดงศ์ หนุมานดีใจยิ่งที่ไม่เห็นอาวุธหล่นลงมาจากฟ้าจึงตบมือเยอะหยันสัทธาสูรว่าทำเป็นแสดงตนว่ามีฤทธิ์สามารถบังคับฟ้าให้ทำตามใจตนได้” สัทธาสูรโกรธจัดที่ลิงป่ามาเยอะเย้ยตน และไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับมนตร์ของตน “เจ้าลิงป่า มึงบังอาจมาลบหลู่กู แล้วตัวมึงหละมีดีอะไร” หนุมานทำหน้าซื่อแล้วแกล้งท่องคาถาในปาก ตะโกนสั่งให้เทวดาโยนอาวุธลงมาบ้าง เมื่อองคตและทัพวานรที่ซุ้มอยู่บนก้อนเมฆได้ยินเสียงนายตนร้องให้สัญญาณ พลวานรโยนอาวุธลงมาสู่ทัพอสูรจนเหล่าพลทหารถึงนายทัพแห่งอัศดงศ์ตายเป็นเบือเหลือแต่สัทธาสูรและทหารมารอีกจำนวนหนึ่ง หนุมานร้องทับ “นี่สัทธาสูร ข้าแค่เป็นลิงตัวเล็กๆยังสามารถเพียงนี้
แล้วหากเจ้าเจอพระรามข้าว่าชีวิตเจ้าไม่พ้นคมศรของพระองค์หรอก กลับบ้านเมืองเจ้าซะเถิด” สัทธาสูรฉุนขาดต่อคำท้าทายของวานร “ตัวกูไม่กลัวหรอกมนุษย์หรือผู้ใด กูจะไม่มีวันกลับเมืองโดยไร้ซึ่งหัวของมนุษย์รามลักษณ์เด็ดขาด” เมื่อเห็นว่าพญายักษ์ไม่ยอมถอยหนุมานจึงเสกร่างกายให้ใหญ่โตเท่าบรมพรหม สูงเทียมฟ้า มีสี่หน้าแปดกร ตรงเข้าหักรถทรงจนสัทธาสูรตกลงสู่พื้นดิน สัทธาสูรโกรธอย่างมากสั่งให้ไพร่พลที่เหลือโจมตีหนุมานทันที องคตและเหล่าพลกระบี่เหาะลงมาเพื่อช่วยนาย ฆ่าเหล่าอสูรตายราบคาบ บัดนี้สัทธาสูรเลือดเข้าตาขอสู้เพื่อชำรพแค้นที่เสียไพร่พล เล็งศรขึ้นยิง ลูกดอกนั้นได้วิ่งวนรอบกายของหนุมาน แต่บุตรแห่งพระพายก็หากลัวไม่ คว้าศรของสัทธาสูรไว้ในมือ หักครึ่งดั่งหักกิ่งไม้เล่นแล้วโยนใส่หน้าของพญายักษ์ สัทธาสูรชักคทาที่เหน็บไว้ที่เอวกระโดดตีร่างของหนุมานจนซวนเซ
หนุมานประคองตัวไม่ให้ล้มและประจวบกับองคตโดดมาช่วยทันเวลาพอดี สองกระบี่ผลัดกันจ้วงแทงร่างของสัทธาสูรอย่างเต็มกำลัง บัดนี้สองวานรและหนึ่งยักษ์ต่อสู้กันอย่างดุเดือนไม่รู้ว่าใครเป็นใครเพราะเลือดอาบทั่งร่างทั้งสามจนแดงชุ่ม หนุมานได้โอกาสคว้ากระบองทองของสัทธาสูรด้วยมือซ้าย หมุนโอบรัดร่างของอสูรหักฟาดลงกับพื้นอย่างเต็มแรงจนจอมมารนอนกองอยู่กับพื้นอย่างบอบช้ำ หนุมานกระชับตรีเพชรกระโดดฟันหัวพญายักษ์ออกหลุดจากบ่าอย่างเลือดเย็น
เป็นอันปิดฉากสัทธาสูรแห่งอัศดงค์… อ่านต่อตอนต่อไปนะครับ